on
รวมญาติตระกูลบี (ตอนที่ 8)
12 กุมภาพันธ์ 2016
นอกจากนี้ผลการวิจัยบางฉบับระบุว่า วิตามินบี 6 ยังอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคดังต่อไปนี้
- เนื่องจากวิตามินบี 6 ช่วยลดระดับสารโฮโมซีสเตอีน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ ดังนั้นจึงอาจเป็นไปได้ที่วิตามินบี 6 จะช่วยลดโอกาสในการเป็นโรคหัวใจลงได้
- ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิต้านทาน (โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ)
- อาจช่วยด้านการรับรู้เมื่ออายุมากขึ้น เช่น ความจำ สมาธิ ปฏิกริยาโต้ตอบ
- อาจช่วยลดโอกาสในการเป็นนิ่ว (Kidney stones)
- อาจช่วยลดอาการหดหู่ซึมเศร้า เพราะวิตามินบี 6 ช่วยเพิ่มระดับของสารสื่อประสาทเซโรโทนิน (Serotonin) ในเลือด
สำหรับปริมาณความต้องการวิตามินบี 6 นั้น ผู้หญิงควรได้รับที่ปริมาณ 1.1 - 1.5 mg ต่อวัน และผู้ชายควรได้รับที่ปริมาณ 1.3 – 1.7 mg ต่อวัน
ผู้ที่มีความเสี่ยงในการขาดวิตามินบี 6 ได้แก่ หญิงมีครรภ์และหญิงให้นมบุตร ผู้ที่กินยาคุมกำเนิด ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีน้ำหนักน้อย ผู้ติดสุราเรื้อรัง (Chronic alcoholics) และผู้ที่กินโปรตีนมาก
โดยอาการของผู้ที่ขาดวิตามินบี 6 ได้แก่ ระบบประสาทผิดปกติ (หงุดหงิด หดหู่ซึมเศร้า และสับสน) ระบบภูมิต้านทานไม่สมบูรณ์ ผิวหนังและเยื่อบุ (Mucosa) อักเสบ
แหล่งที่ดีที่สุดของวิตามินบี 6 ได้แก่ เนื้อไก่ ตับวัว เนื้อหมู และเนื้อลูกวัว (Veal) รองลงมา ได้แก่ ปลา (ทูน่า แซลมอน ซาร์ดีน แฮริง) ถั่ว ขนมปัง ข้าวโพดและธัญพืช ส่วนในผักและผลไม้พบวิตามินบี 6 ได้ค่อนข้างน้อย
อย่างไรก็ดี การได้รับวิตามินบี 6 ที่มากเกิดไปอาจทำให้เกิดโทษทำลายประสาทการรับรู้ ทำให้เป็นโรคปลายประสาทอักเสบ (Peripheral neuropathy) ดังนั้น สหรัฐอเมริกาจึงจำกัดปริมาณ Pyridoxine อยู่ที่ 100 mg ต่อวัน ในขณะที่สหภาพยุโรปจำกัดอยู่ที่ 25 mg ต่อวัน
วิตามินบี 7
วิตามินบี 7 หรือที่เรียกว่า ไบโอติน (Biotin, vitamin H / vitamin B8) เป็นวิตามินที่ไม่มีสี ไบโอตินแบ่งออกได้อีก 8 ชนิด แต่มีเพียง D-biotin ที่เกิดตามธรรมชาติและมีประโยชน์เต็มที่ ไบโอตินสามารถสังเคราะห์ได้โดยอาศัยแบคทีเรีย รา (Molds) ยีสต์ สาหร่าย (Algae) และพืชบางชนิด โดยวิตามินบี 7 ช่วยในการ
- เปลี่ยนอาหารให้เป็นน้ำตาลกลูโคส เพื่อใช้สร้างพลังงาน
- สร้างกรดไขมันและกรดอะมิโน
- ช่วยกระตุ้นโปรตีน / เมแทบอลิซึมของกรดอะมิโน (Amino acid metabolism) ที่รากผมและเซลล์ที่เล็บ
แหล่งข้อมูล
1. The B vitamins. [2016, February 11].
2. Vitamin B6[2016, February 11].
3. Vitamin B7. [2016, February 11].