มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (ตอนที่ 3)

25 กรกฎาคม 2015

อาการทั่วไปของมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ได้แก่

• ต่อมน้ำเหลืองที่คอ รักแร้ หรือขาหนีบ บวม แต่ไม่เจ็บ
• อ่อนเพลียเรื้อรัง
• เป็นไข้และหนาวสั่น
• เหงื่อออกกลางคืน (Night sweats)
• น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ (ประมาณร้อยละ 10 ของน้ำหนักตัว)
• ไม่อยากอาหาร
• คัน
• รู้สึกแพ้หรือเจ็บต่อมน้ำเหลืองหลังการดื่มแอลกอฮอล์

การวินิจฉัยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองทำได้โดย

• ตรวจทางกายภาพ (Physical exam) ซึ่งแพทย์จะตรวจดูบริเวณต่อมน้ำเหลืองที่คอ รักแร้ และขาหนีบ และดูว่าม้ามหรือตับโตหรือไม่
• ตรวจเลือด
• ภาพวินิจฉัย (Imaging tests) เช่น เอ็กซเรย์ ซีทีสแกน (Computerized tomography = CT) เพทสแกน (Positron emission tomography = PET)
• การผ่าตัดเอาต่อมน้ำเหลืองที่โตออกเพื่อนำไปทดสอบในห้องแล็ป
• การเก็บไขกระดูกไปทดสอบ

หลังการตรวจและทดสอบ แพทย์จะสามารถวินิจฉัยได้ว่าโรคลุกลามอยู่ในระยะใดแล้ว โดยยึดเกณฑ์ที่ว่า

• ระยะที่ 1 - มะเร็งจะจำกัดอยู่ที่ต่อมน้ำเหลืองเพียงบริเวณเดียวหรืออวัยวะเดียว
• ระยะที่ 2 - มะเร็งจะขยายไปยังต่อมน้ำเหลืองอีกแห่งหรือเข้าไปยังอวัยวะที่อยู่ใกล้ต่อมน้ำเหลือง แต่ยังคงจำกัดอยู่บริเวณเหนือหรือใต้กระบังลม (Diaphragm) ส่วนใดส่วนหนึ่ง
• ระยะที่ 3 - มะเร็งจะเข้าสู่ต่อมน้ำเหลืองทั้งบริเวณเหนือและใต้กระบังลม นอกจากนี้มะเร็งอาจอยู่ในส่วนใดส่วนหนึ่งของเซลล์หรืออวัยวะที่อยู่ใกล้ต่อมน้ำเหลืองหรือในม้าม
• ระยะที่ 4 - นอกจากมะเร็งที่เกิดในต่อมน้ำเหลืองแล้ว มะเร็งจะกระจายไปยังหลายจุดของอวัยวะหรือเซลล์ เช่น ตับ ปอด หรือกระดูก

มะเร็งต่อมน้ำเหลืองมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิดใหญ่ๆ คือ

• มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน (Hodgkin)
• มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอนฮอดจ์กิน (Non-Hodgkin)

แหล่งข้อมูล

1. What Is Lymphoma?. [2015, July 24].
2. Hodgkin's lymphoma.- the Basics. [2015, July 24].