มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ (ตอนที่ 4 และตอนจบ)

17 ตุลาคม 2015
มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

ภายหลังการผ่าตัดเพื่อตัดกระเพาะปัสสาวะออก จะมีการทำทางเดินปัสสาวะใหม่ (Urinary diversion) ได้หลายวิธี เช่น แพทย์อาจใช้ท่อ (Urinary conduit) ต่อจากท่อไต (Ureters) เพื่อถ่ายน้ำปัสสาวะออกจากร่างกายไปที่ถุงหน้าท้อง (Urostomy bag)

หรือแพทย์อาจใช้วิธี Neobladder กล่าวคือ ผ่าตัดกระเพาะปัสสาวะออก แล้วเอาลำไส้ใหญ่มาทำกระเพาะปัสสาวะแทน โดยกระเพาะปัสสาวะใหม่นี้จะอยู่ในร่างกายและติดกับท่อปัสสาวะ (Urethra) ทำให้สามารถปัสสาวะได้ตามปกติ หรืออาจต่อท่อปล่อยปัสสาวะจากกระเพาะปัสสาวะใหม่

ทั้งนี้ผลข้างเคียงจากการผ่าตัดอาจทำให้เกิด

นอกจากนี้ยังมีการให้เคมีบำบัด (Chemotherapy) ซึ่งอาจทำหลังการผ่าตัดเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งที่ยังหลงเหลืออยู่ หรือทำก่อนการผ่าตัดเพื่อทำให้ก้อนเนื้อที่จะผ่าตัดนั้นเล็กลงก่อน และบางกรณีอาจมีการให้เคมีบำบัดควบคู่กับการใช้รังสีบำบัด (Radiation therapy)

เนื่องจากมะเร็งกระเพาะปัสสาวะมีโอกาสในการกลับมาเป็นซ้ำมาก (Recurrence) ดังนั้นจึงควรทำการติดตามผลการรักษา (Follow-up plan) ทุก 3-6 เดือนในปีแรก และใช้กล้องส่องตรวจกระเพาะปัสสาวะ (Cystoscopy) ทุกปี

จากสถิติของ The National Cancer Institute’s SEER ในสหรัฐอเมริกา พบว่า อัตราการอยู่รอดหลังการรักษา 5 ปี เป็นดังนี้

ทั้งนี้ การลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะอาจทำได้โดย

แหล่งข้อมูล

  1. Bladder cancer. [2015, October 16].
  2. Bladder Cancer. [2015, October 16].
  3. Bladder Cancer. [2015, October 16].