on
มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ (ตอนที่ 3)
16 ตุลาคม 2015
การตรวจหามะเร็งกระเพาะปัสสาวะสามารถทำได้โดย
- การตรวจปัสสาวะ (Urinalysis) เพื่อดูว่ามีภาวะปัสสาวะเป็นเลือด (Hematuria) หรือไม่
- ใช้กล้องส่องตรวจกระเพาะปัสสาวะ (Cystoscopy)
- การตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ (Biopsy) ซึ่งบางทีก็เรียกว่า Transurethral resection of bladder tumor (TURBT)
- การตรวจเซลล์กระเพาะปัสสาวะ (Urine cytology) ด้วยกล้องจุลทรรศน์ (Microscope)
- ภาพวินิจฉัย (Imaging tests) เพื่อดูโครงสร้างทางเดินปัสสาวะ เช่น การตรวจไตและทางเดินปัสสาวะด้วยการฉีดสี (Intravenous pyelogram) การทำซีทีสแกน การทำเอ็มอาร์ไอ การทำอัลตราซาวด์
ระยะของมะเร็งกระเพาะปัสสาวะแบ่งเป็น
- ระยะที่ 0 – มะเร็งเกิดที่เนื้อเยื่อบุผิวกระเพาะปัสสาวะเท่านั้น อาจเรียกว่า Carcinoma
- ระยะที่ 1 – มะเร็งเกิดในเยื่อบุภายในของกระเพาะปัสสาวะ แต่ยังไม่เข้าถึงกล้ามเนื้อผนังกระเพาะปัสสาวะ
- ระยะที่ 2 – มะเร็งได้เข้าถึงผนังกระเพาะปัสสาวะ แต่จำกัดอยู่ในบริเวณกระเพาะปัสสาวะ
- ระยะที่ 3 – มะเร็งได้แพร่กระจายจากผนังกระเพาะปัสสาวะไปยังเซลล์บริเวณข้างเคียง
- ระยะที่ 4 – มะเร็งอาจแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองและอวัยวะอื่น เช่น กระดูก ตับ หรือปอด
การรักษามะเร็งกระเพาะปัสสาวะขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น ระยะที่เป็น อายุ สุขภาพโดยรวม หากมะเร็งยังเล็กอยู่และยังไม่กระจายไปยังผนังกระเพาะปัสสาวะ แพทย์อาจแนะนำให้
- ผ่าตัดเอาก้อนเนื้อออกด้วยวิธี Transurethral resection of bladder tumor (TURBT) ซึ่งใช้กับระยะที่มะเร็งยังจำกัดอยู่แค่บริเวณเยื่อบุเซลล์กระเพาะปัสสาวะ โดยวิธีนี้แพทย์จะใช้กระแสไฟฟ้าจี้เซลล์มะเร็งด้วยขดลวดผ่านการส่องกล้องไป ซึ่งวิธีนี้อาจทำให้เจ็บปวดหรือมีปัสสาวะในเลือดเป็นเวลา 2-3 วันหลังการผ่าตัด
- ผ่าตัดกระเพาะปัสสาวะบางส่วน (Segmental cystectomy / partial cystectomy) ใช้ในกรณีที่เป็นมะเร็งชนิดไม่รุนแรงและเป็นอยู่แค่ตำแหน่งเดียวในกระเพาะปัสสาวะ
- การรักษาด้วยวิธี Biological therapy หรือบางครั้งก็เรียกว่า Immunotherapy ซึ่งเป็นวิธีการรักษาที่ใช้ประโยชน์จากภูมิต้านที่มีตามธรรมชาติทำหน้าที่ต่อสู้กับตัวที่ทำให้เกิดโรค (Pathogens)
กรณีที่เชื้อมะเร็งได้แพร่กระจายเข้าสู่ผนังกระเพาะปัสสาวะแล้ว แพทย์อาจแนะนำให้
ทำการผ่าตัดเพื่อตัดกระเพาะปัสสาวะออก (Radical cystectomy) รวมถึงต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียง นอกจากนี้ในเพศชายจะมีการผ่าตัดเอาต่อมลูกหมากและต่อมสร้างน้ำเลี้ยงอสุจิ (Seminal vesicles)ออก สำหรับในเพศหญิงจะมีการผ่าตัดเอาบางส่วนของช่องคลอด มดลูก และรังไข่ออก
โดยการผ่าตัดด้วยวิธีนี้มีแนวโน้มที่จะทำโดยใช้หุ่นยนต์มากขึ้น (Robotic surgery) ซึ่งการผ่าตัดวิธีนี้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อและเลือดไหลไม่หยุด (Bleeding) และสำหรับเพศชายที่ต้องผ่าตัดเอาต่อมลูกหมากและต่อมสร้างน้ำเลี้ยงอสุจิออก อาจทำให้เกิดการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile dysfunction) ส่วนในเพศหญิงการผ่าตัดรังไข่ออกจะทำให้ไม่สามารถมีบุตรได้และเกิดภาวะหมดประจำเดือนก่อนวัย (Premature menopause)
แหล่งข้อมูล
- Bladder cancer. [2015, October 15].
- Bladder Cancer. [2015, October 15].
- Bladder Cancer. [2015, October 15].