ไข้หวัดหมูระบาดในตะวันออกกลาง

28 มกราคม 2013

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีคนไข้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ ที่ประเทศอิสราเอล ถึง 3 ราย และผู้ติดเชื้ออีกอย่างน้อย 4 ราย ในขณะที่กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์รายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ในเขตเวสต์แบงก์และฉนวนกาซาจากไข้หวัดใหญ่นี้ ทำให้ผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 21 ราย และผู้ติดเชื้อทั่วปาเลสไตน์ไม่ต่ำกว่า 600 ราย

ไข้หวัดหวัดใหญ่ดังกล่าว คือ ไข้หวัดใหญ่ 2009 หรือที่เรียกในบางพื้นที่ว่า “ไข้หวัดหมู” พบครั้งแรกที่ประเทศ เม็กซิโก มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ชนิด A/H1N1 ประกอบด้วยการรวมกันของพันธุกรรมของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในคน ในสัตว์ปีก (นก) ในสุกร

ตามปกติแล้วเชื้อไข้หวัดใหญ่ นี้จะติดจากคนที่สัมผัสหมูโดยตรงเท่านั้น แต่ไม่ติดต่อผ่านการบริโภคผลิตภัณฑ์จากหมู เชื้อไวรัสตัวนี้สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ ผ่านการไอ จาม รวมถึงการสัมผัสจากสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน คล้ายกับการแพร่เชื้อของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์อื่น

จากอดีตถึงปัจจุบันเคยมีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ถึง 3 ครั้ง ไม่นับรวมไข้หวัดใหญ่ซึ่งระบาดตามฤดูกาล อันได้แก่

ปกติแพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยปฏิบัติ ก็คือ การบริโภคน้ำและพักผ่อนอย่างเพียงพอ สำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงควรได้รับยาต้านไวรัส คือ ยาโอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) ซึ่งเป็นยาชนิดกิน หรือยาซานามิเวียร์ (Zanamivir) เป็นยาชนิดพ่น หากผู้ป่วยได้รับยาภายใน 2 วันหลังเริ่มแสดงอาการของโรค จะเป็นประโยชน์มากที่สุด ยาทั้งสองแบบอาจมีผลข้างเคียง เช่นอาการหน้ามืด คลื่นเหียน อาเจียน เบื่ออาหาร และหายใจลำบาก

การป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ อาจทำได้โดยการ

แหล่งข้อมูล:

  1. “หวัดหมูมรณะ” ระบาดหนักในตะวันออกกลาง สังเวยแล้วอย่างน้อย 24 ศพ ติดเชื้อหลายร้อย - [2013, January 27].
  2. Influenza A virus subtype H1N1 - [2013, January 27].