เลิกพฤติกรรมเสี่ยง เลี่ยงนอนกรน

ปัญหาที่กวนใจใครหลายคนอย่างการนอนกรน นอกจากจะทำให้คนที่นอนข้าง ๆ เกิดความรำคาญจนอาจถึงขั้นกลายเป็นปัญหาความสัมพันธ์ได้แล้ว ยังทำให้เกิดความไม่มั่นใจหรือรู้สึกผิดที่รบกวนการนอนของคนอื่น ร้ายแรงกว่านั้นอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพหรือโรคต่าง ๆ ที่คุณกำลังเผชิญหรือนำไปสู่การเกิดโรคอื่นในอนาคตก็ได้ ฉะนั้น อย่ามัวแต่นิ่งนอนใจ เพราะการนอนกรนนั้น รักษาได้ หากรู้สาเหตุที่แท้จริง

นอนกรน

เสียงกรนเกิดจากการที่อากาศเคลื่อนผ่านทางเดินหายใจที่แคบลง ซึ่งมักมีสาเหตุมาจากกล้ามเนื้อทางเดินหายใจส่วนบนที่ผ่อนคลายหรือหย่อนตัวลงขณะนอนหลับ เช่น กล้ามเนื้อบริเวณเพดานอ่อน (soft palate) ลิ้นไก่ (uvula) ผนังคอหอย (pharyngeal wall) หรือโคนลิ้น (tongue base) อากาศที่หายใจผ่านเข้าไปทำให้เกิดการสั่นสะเทือนและการสะบัดของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่ออ่อนในบริเวณดังกล่าวจนเกิดเป็นเสียงกรนขึ้น

ทางเดินหายใจที่มีสิ่งมากีดขวางนี้ บางครั้งอาจนำไปสู่การเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับชั่วคราวโดยไม่รู้ตัว ทำให้การหายใจลดลงจนส่งผลให้ออกซิเจนในเลือดลดลง และไปกระทบถึงสมอง ทำให้มีอาการปวดหัวตอนเช้า ไม่มีสมาธิ อ่อนเพลียเป็นประจำถึงแม้จะนอนหลับเต็มอิ่ม นอกจากนี้ หากกรนเสียงดังหรือมีเสียงสูดลมหายใจเข้าอย่างรุนแรงแล้วสะดุ้งตื่นตอนกลางคืนบ่อยครั้ง ก็ยิ่งส่งผลให้เผชิญกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เพราะเมื่อขาดออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง สมองจึงปลุกเราให้ตื่นเพื่อเปิดทางเดินหายใจให้หายใจเป็นปกติได้อีกครั้ง

หากพบว่าตนเองมีอาการเข้าข่ายข้างต้น ก็อย่ารีรอที่จะปรึกษาแพทย์เพื่อป้องกันและรักษาได้ทันท่วงที เพราะภาวะหยุดหายใจขณะหลับนี้อาจส่งผลทำให้สมองและร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพตามมามากมาย ทั้งปวดศีรษะ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ลมชัก ภาวะหัวใจล้มเหลว หัวใจเต้นผิดปกติ หัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน โรคซึมเศร้า และโรคสมาธิสั้น

ลดปัจจัยเสี่ยงเลี่ยงนอนกรนได้

การนอนกรนอาจเกิดขึ้นได้ด้วยหลายสาเหตุ เช่น การเป็นโรคอ้วนที่ผู้ป่วยมักมีไขมันสะสมบริเวณลำคอ ทำให้เนื้อเยื่อด้านบนหนาและนุ่มขึ้นจนพับตกลงไปเจอโคนลิ้นปิดกั้นทางเดินหายใจ หรือไข้หวัดและภูมิแพ้ที่มีน้ำมูกมาปิดกั้นทำให้หายใจไม่สะดวกและนอนกรน นอกจากนี้ พฤติกรรมการใช้ชีวิตเองก็เป็นปัจจัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ปัญหาการนอนกรนสามารถบรรเทาได้ หากรู้วิธีดูแลรักษาช่องทางเดินหายใจให้กลับมาทำงานได้อย่างปกติและไม่กระทบต่อการหายใจขณะหลับ ดังนี้

เช่นเดียวกับปัญหาสุขภาพอื่นๆ การนอนกรนเองก็มีทางเยียวยา เพียงหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพสักหน่อย อย่าละเลยเพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย หมั่นสำรวจอาการ ปรึกษาแพทย์ และพยายามขจัดปัจจัยเสี่ยงทั้งหลาย เพียงเท่านี้ก็โบกมือลาปัญหาน่ารำคาญใจอย่างการนอนกรนไปได้เลย