เรื่องควรรู้เกี่ยวกับ ฟันน้ำนม

ฟันน้ำนม คือ กระดูกฟันที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้บดเคี้ยวอาหารในช่วงวัยเริ่มแรกของชีวิต เด็กจะมีฟันน้ำนมก่อน แล้วจะหลุดออกเพื่อให้ฟันแท้งอกขึ้นมาแทนที่เมื่อถึงเวลา โดยฟันน้ำนมซี่แรก ๆ จะเริ่มงอกขึ้นตอนเด็กอายุประมาณ 6 เดือน จนครบ 20 ซี่ แล้วจะหลุดร่วงออกไปเพื่อให้ฟันแท้งอกขึ้นมาแทนที่จนครบ 32 ซี่ในภายหลัง

ฟันน้ำนม

แท้จริงแล้ว กระบวนการงอกของฟันน้ำนมเกิดขึ้นตั้งแต่ในครรภ์มารดา โดยฟันจะเริ่มพัฒนาอยู่ใต้เหงือก และค่อย ๆ งอกขึ้นมาในภายหลัง ตามเวลาโดยประมาณ ดังนี้

กระบวนการงอกและหลุดร่วงของฟันน้ำนมโดยทั่วไป

ฟันแถวบน

ฟันแถวล่าง

ฟันน้ำนมคู่แรกจะงอกขึ้นมาในเวลาไล่เลี่ยกันในขณะที่เด็กมีอายุประมาณ 6 เดือน และฟันคู่ถัดมาด้านซ้ายและขวาจะงอกขึ้นเรื่อย ๆ จนครบฟันบน 10 ซี่ และฟันล่าง 10 ซี่ เมื่ออายุประมาณ 2 ปีครึ่ง ถึง 7 ปี โดยเด็กผู้หญิงมักจะมีฟันงอกขึ้นมาเร็วกว่าเด็กผู้ชาย และจะเริ่มหลุดร่วงเพื่อให้ฟันแท้มาแทนที่เรื่อย ๆ จนฟันแท้ครบ 32 ซี่ เมื่ออายุประมาณ 13 ปี

ในกระบวนการเกิดฟันน้ำนม จะพบอาการที่เป็นผลกระทบโดยทั่วไป คือเด็กจะมีน้ำลายไหล และเด็กจะมีเหงือกบวมแดงก่อนฟันจะแทรกตัวงอกขึ้นมา ซึ่งทำให้เกิดความเจ็บปวด อาจรบกวนการนอนและการรับประทานอาหารของเด็กได้ แต่หากมีอาการรุนแรง อย่างเด็กมีไข้ ท้องร่วง หรือมีอาการชักกระตุกตัวเกร็ง ควรพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที

วิธีรับมือกับฟันน้ำนมที่งอกใหม่

หากเด็กมีอาการต่าง ๆ ที่ไม่รุนแรงซึ่งเกิดจากฟันน้ำนมงอก อย่างอาการน้ำลายไหล เหงือกบวมแดงทำให้เจ็บปวด พ่อแม่สามารถบรรเทาอาการของลูกน้อยได้ในเบื้องต้น เช่น

ส่วนด้านการรับประทานอาหาร หากเด็กมีฟันขึ้น พ่อแม่ควรหาอาหารแข็งเพื่อฝึกหัดให้เด็กใช้ฟัน อย่างพวกแตงกวาหรือแครอทที่ปอกแล้ว โดยต้องคอยดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาอาหารติดคอเด็ก

ดูแลฟันน้ำนม เพื่อเตรียมพร้อมรับฟันแท้อย่างสุขภาพดี

ฟันน้ำนมมีบทบาทสำคัญในลำดับขั้นพัฒนาการของเด็ก นอกจากจะเป็นตำแหน่งที่จะเกิดฟันแท้มาแทนที่ ยังช่วยในเรื่องลักษณะทางกายภาพให้มีโครงสร้างร่างกายเป็นปกติ มีฟันไว้ช่วยบดเคี้ยวอาหาร หากฟันน้ำนมมีสุขภาพดี ไม่ผุกร่อนหรือติดเชื้อ ก็จะส่งเสริมพัฒนาการฟันแท้ที่จะงอกตามมาให้สมบูรณ์แข็งแรงไปด้วย

เมื่อฟันน้ำนมของเด็กเริ่มคลอนแต่ยังไม่หลุดร่วงออกไป อาจต้องใช้เวลาเพื่อรอให้ฟันหลุด หรืออาจใช้ผ้าก๊อซหุ้มฟันแล้วดึงออกอย่างรวดเร็ว หากวิธีดังกล่าวไม่ได้ผล หรือมีปัญหาเกี่ยวกับฟันและพัฒนาการของฟัน ควรพาเด็กไปปรึกษาทันตแพทย์

วิธีการดูแลรักษาสุขภาพเหงือกและฟันน้ำนม เพื่อพร้อมรับการงอกของฟันแท้ เช่น