เตรียมพร้อมก่อนรับการตรวจเลือด

การตรวจเลือด (Blood Tests) เป็นการนำตัวอย่างเลือดไปตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการที่มีประโยชน์ทางการแพทย์หลายด้าน การตรวจเลือดแบ่งได้หลายประเภทตามวัตถุประสงค์ที่แพทย์สั่งตรวจ

การตรวจเลือด

การตรวจเลือดที่นิยมทำกันทั่วไป ได้แก่

วัตถุประสงค์ในการตรวจเลือด

การตรวจเลือดเป็นการตรวจทางการแพทย์ที่ใช้บ่อย และมีวัตถุประสงค์ในการตรวจที่หลากหลายกรณีตามดุลยพินิจของแพทย์

การตรวจเลือดอาจเป็นส่วนหนึ่งในการตรวจสุขภาพทั่วไป เพื่อดูการทำงานของอวัยะต่าง ๆ ภายในร่างกาย หรือเป็นการตรวจตามปัจจัยเสี่ยงของสุขภาพแต่ละบุคคล ซึ่งจะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคหรือสภาวะบางอย่างของร่างกาย เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน คัดกรองโรคทางพันธุกรรมบางโรค ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือโรคเอดส์ ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ การติดเชื้อ

นอกจากนี้ แพทย์ยังใช้การตรวจเลือดอีกหลายวัตถุประสงค์ เช่น ใช้ติดตามผลของตัวยาที่ใช้ในการรักษาโรคหรือดูสภาวะความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายว่าดีขึ้นหรือไม่ ใช้ตรวจสอบหมู่เลือดก่อนการให้เลือด หรือแม้แต่ตรวจดูการแข็งตัวของเลือด ดังนั้น วัตถุประสงค์ของการตรวจเลือดจึงมีแตกต่างกันออกไป

ขั้นตอนในการตรวจเลือด

ในการเข้ารับบริการตรวจเลือด แพทย์จะมีการสอบถามและพูดคุยกับผู้เข้ารับการตรวจในเบื้องต้นเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ก่อนการสั่งตรวจ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการช่วยประเมินผลหลังจากได้ผลตรวจเลือด

การตรวจเลือดในขั้นแรก ผู้เข้ารับการตรวจจะนั่งบนเก้าอี้หรือนอนบนเตียง เจ้าหน้าที่จะใช้สายรัดเหนือหลอดเลือดตรงบริเวณที่จะเจาะ เพื่อช่วยให้เห็นเส้นเลือดได้ชัดเจนขึ้น โดยส่วนมากจะเจาะที่บริเวณข้อพับแขน เพราะเป็นส่วนที่เจาะได้สะดวกและเห็นเส้นเลือดได้ค่อนข้างชัดเจน อย่างไรก็ตามสามารถเจาะบริเวณอื่นได้เช่นกัน สำหรับผู้เข้ารับการตรวจที่เป็นเด็กอาจเจาะบริเวณหลังมือ

จากนั้นจึงใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดฆ่าเชื้อบริเวณที่ต้องการเจาะ รอสักพักจนแห้ง แล้วนำไซริงค์เจาะเพื่อดูดเอาตัวอย่างเลือดตามปริมาณต้องการ ผู้เข้ารับการตรวจอาจรู้สึกคัน เจ็บจี๊ดเล็กน้อยบริเวณที่เจาะ

เมื่อได้ปริมาณตัวอย่างเลือดตามต้องการจึงนำเข็มออก ปลดสายรัด ติดสำลีและพลาสเตอร์ยาบริเวณรอยเข็ม เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกจากภายนอก ในบางรายอาจมีการขอให้ผู้เข้ารับการตรวจกดบริเวณที่ติดพลาสเตอร์ยาไว้ชั่วครู่ เพื่อให้เลือดหยุดไหลเร็วขึ้น ทั้งนี้ ปริมาณของตัวอย่างเลือดที่ใช้และรายละเอียดของการตรวจเลือดบางประเภทอาจมีความแตกต่างกันออกไป

การเตรียมตัวก่อนการตรวจเลือด

การตรวจเลือดโดยทั่วไปมักจะทำในช่วงเช้า และไม่ต้องมีการเตรียมตัวเป็นพิเศษล่วงหน้า เพราะแพทย์ต้องการตรวจสอบว่าตัวอย่างเลือดมีความปกติหรือไม่ แต่การตรวจเลือดบางประเภทอาจต้องมีการงดน้ำและอาหารตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของวันที่มีการนัดตรวจเลือดหรืออย่างน้อย 6-12 ชั่วโมงก่อนการตรวจ รวมไปถึงหยุดการใช้ยาบางประเภท ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าหากต้องมีการงดอาหาร หยุดการใช้ยา หรือมีคำแนะนำอื่น ๆ เพิ่มเติม

ทั้งนี้ ผู้เข้ารับการตรวจควรปฏิบัติตามสิ่งสำคัญที่แพทย์แนะนำ เพราะปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้ผลการตรวจมีความคาดเคลื่อน ทำให้ต้องมีการตรวจใหม่ และหากพบความผิดปกติจริงก็หมายถึงการรักษาที่ล่าช้ามากขึ้น

การดูแลและติดตามผลหลังการตรวจเลือด

ผู้เข้ารับการตรวจสามารถกลับบ้านหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ตามปกติหลังการเจาะเลือด โดยตัวอย่างเลือดจะถูกส่งไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญ ก่อนที่จะถูกส่งกลับมายังแพทย์ผู้สั่งตรวจ โดยระยะเวลาการรอผลตรวจอาจเริ่มตั้งแต่หนึ่งวันไปจนถึงเป็นสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขแต่ละโรงพยาบาลและการตรวจเลือดแต่ละประเภท จากนั้นแพทย์จึงมีการนัดฟังผลการตรวจเลือดอีกครั้ง

ผลการตรวจเลือดจะแสดงถึงสารที่พบในเลือดว่าอยู่ในระดับปกติหรือไม่ หรือมีสิ่งแปลกปลอมปะปนอยู่ด้วย หากพบว่าตัวอย่างเลือดเกิดความผิดปกติ แพทย์จะมีการพูดคุยกับผู้เข้ารับการตรวจเกี่ยวกับผลตรวจเลือดที่ได้ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของโรคหรือความผิดปกติในร่างกายอื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจเลือดเพียงอย่างเดียวไม่สามารถยืนยันความผิดปกติที่พบหรือโรคบางโรคได้ เพราะมีหลายปัจจัยที่ทำให้ผลตรวจออกมาไม่อยู่ในเกณฑ์ปกติได้ เช่น อาหารที่รับประทาน อยู่ในช่วงมีประจำเดือน การออกกำลังกาย ปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่ม การใช้ยาบางชนิด จึงจำเป็นต้องมีการตรวจในขั้นตอนต่อไปเพิ่มขึ้นตามดุลยพินิจของแพทย์ หรือตรวจซ้ำอีกครั้ง

ผลข้างเคียงของการตรวจเลือด

การตรวจเลือดค่อนข้างมีความปลอดภัย และเกิดผลข้างเคียงได้น้อยมาก ส่วนมากอาการที่พบจะเป็นอาการฟกช้ำหรือปวดบริเวณที่มีการเจาะเลือด เนื่องจากแรงกดที่มากและนานหลายนาที แต่อาการจะดีขึ้นและมักหายได้เองหลังจากนั้น

ในบางกรณีก็อาจเกิดบาดแผลหรือการติดเชื้อขึ้นได้เช่นกัน แต่ควรรีบไปพบแพทย์หากบาดแผลเกิดอาการบวมแดงและอักเสบ เพราะอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกของการติดเชื้อขึ้น

นอกจากนี้ผู้เข้ารับการตรวจเลือดบางรายอาจเป็นลมในระหว่างการตรวจเลือดได้ แต่พบได้น้อยราย หากในระหว่างการตรวจรู้สึกวิงเวียน หน้ามืด ควรแจ้งเจ้าหน้าให้ทราบ ซึ่งอาจแก้ไขได้โดยให้มีการเจาะเลือดในท่านอนแทนการนั่ง เพื่อป้องกันการเป็นลม