เตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์อย่างไรให้พร้อม

การเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์เป็นสิ่งที่คุณแม่สามารถเตรียมพร้อมเพื่อสุขภาพครรภ์ที่แข็งแรง เพราะเมื่อคุณแม่มีสุขภาพดีก็ยิ่งมีความเป็นไปได้ที่ลูกในครรภ์จะสมบูรณ์แข็งแรงและทำให้การตั้งครรภ์เป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น

เตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์

ปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อโอกาสในการตั้งครรภ์?

คู่สามีภรรยาบางคู่ที่ต้องการมีบุตรอาจต้องพยายามหลายต่อหลายครั้ง เนื่องจากโอกาสที่ผู้หญิงจะเกิดการตั้งครรภ์ในแต่ละเดือนนั้นอยู่ที่ 15-25 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อโอกาสในการตั้งครรภ์ ดังนี้

เตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์ทำได้อย่างไรบ้าง?

พูดคุยปรึกษากับแพทย์ คู่สามีภรรยาสามารถเตรียมความพร้อมอย่างมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยการวางแผนการตั้งครรภ์กับแพทย์ โดยแพทย์อาจมีขั้นตอนการพูดคุยและให้คำแนะนำต่อไปนี้

เลิกพฤติกรรมเสี่ยงเพื่อลูกน้อย พฤติกรรมเสี่ยงของตัวคุณแม่ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์สามารถส่งผลให้ทารกได้รับอันตรายหรือโอกาสในการตั้งครรภ์ลดน้อยลง สิ่งที่พึงหลีกเลี่ยงมีดังนี้

เตรียมร่างกายให้พร้อม

รับประทานอาหารเสริม หญิงที่วางแผนมีบุตรควรเริ่มรับประทานกรดโฟลิคตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ 1 เดือน ไปจนถึงระยะตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก ในปริมาณวันละ 400 ไมโครกรัมต่อวัน เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความพิการทางสมองของทารก ซึ่งเป็นภาวะพิการแต่กำเนิดที่รุนแรงและส่งผลกระทบต่อสมองและไขสันหลังของเด็ก รวมทั้งวิตามินรวมที่ประกอบด้วยวิตามินบี 6 ก่อนตั้งครรภ์จนถึงสัปดาห์แรก ๆ ของการตั้งครรภ์จะช่วยลดอาการแพ้ท้องได้ ทั้งนี้การใช้ยาหรืออาหารเสริมใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์ให้แน่ใจก่อนทุกครั้ง

ควบคุมน้ำหนักอย่างมีสุขภาพดี น้ำหนักตัวของคุณแม่มีผลอย่างมากต่อสุขภาพครรภ์ โดยควรรักษาน้ำหนักตัวอย่างพอดี ไม่มากหรือไม่น้อยจนเกินไป สำหรับคนที่มีน้ำหนักตัวน้อยเกินและต้องการเพิ่มน้ำหนักอย่างถูกต้องควรปฏิบัติดังนี้

ส่วนคนที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไปสามารถลดน้ำหนักได้ดังนี้

ดูแลสุขภาพจิต สุขภาพจิตซึ่งเป็นเรื่องของความคิด ความรู้สึก และควบคุมการดำเนินชีวิตในแต่ละวันเป็นอีกสิ่งสำคัญ การรู้สึกดีและเห็นคุณค่าของชีวิตตนเองนั้นบ่งบอกถึงการมีสุขภาพจิตที่ดี เพราะแม้จะเกิดความเศร้า กังวล หรือเครียดได้ในบางครั้ง แต่ก็ต้องมีวิธีกำจัดความรู้สึกให้หายไป ผู้ที่มีความรู้สึกแย่ ๆ อย่างต่อเนื่องจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันนั้นควรพูดคุยปรึกษากับแพทย์และรักษาให้หายเสียก่อนที่จะพยายามตั้งครรภ์ เพราะสุขภาพจิตถือว่าสำคัญพอ ๆ กับสุขภาพกายเลยทีเดียว

การหยุดรับประทานยาคุม ผู้ที่เคยรับประทานยาคุมกำเนิดมาก่อนที่จะพยายามเริ่มมีบุตรนั้นอาจตั้งครรภ์ได้ทันที หรืออาจใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือนจึงจะเริ่มมีการตกไข่เป็นปกติอีกครั้ง ทั้งนี้การตั้งครรภ์ทันทีหลังหยุดยาคุมจะไม่เป็นอันตรายใด ๆ แต่การหยุดรับประทานยาคุมกำเนิดล่วงหน้าก็มีส่วนช่วยให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาขึ้นและทำให้ตัวอ่อนฝังตัวได้ง่ายขึ้น