เตยทะเล สรรพคุณและประโยชน์ของเตยทะเล 14 ข้อ (ลําเจียก)

เตยทะเล

เตยทะเล ชื่อสามัญ Seashore screwpine

เตยทะเล ชื่อวิทยาศาสตร์ Pandanus odorifer (Forssk.) Kuntze (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Pandanus odoratissimus L.f.)[1],[5],[6] จัดอยู่ในวงศ์เตยทะเล (PANDANACEAE)

สมุนไพรเตยทะเล มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า การะเกด ลำเจียก (ภาคกลาง), ปะหนัน ปาแนะ (มลายู-นราธิวาส), เกตก์, การเกด, ลำจวน, รัญจวน เป็นต้น[1],[2],[4]

ลักษณะของเตยทะเล

รูปเตยทะเล

ต้นเตยทะเล

รากอากาศเตยทะเล

ใบเตยทะเล

ดอกเตยทะเล

ผลเตยทะเล

รูปผลเตยทะเล

สรรพคุณของเตยทะเล

  1. ช่อดอกเพศผู้ของต้นเตยทะเลจัดอยู่ในตำรับยาเกสรทั้งเก้า ใช้ปรุงเป็นยาหอม และยาบำรุงหัวใจ (ช่อดอกเพศผู้)[1],[2],[3]
  2. รากมีรสเย็นและหวานเล็กน้อย มีสรรพคุณเป็นยาแก้พิษโลหิต (ราก)[1],[2],[4]
  3. ช่วยแก้พิษไข้ (ราก)[1],[2],[3],[4]
  4. ช่วยแก้พิษเสมหะ ขับเสมหะ (ราก)[1],[2],[3],[4]
  5. รากเป็นยาขับปัสสาวะ ขับนิ่ว (ราก)[1],[2],[3],[4]
  1. รากอากาศใช้ปรุงเป็นยาแก้ปัสสาวะพิการและแก้นิ่ว (รากอากาศ)[1],[2],[4]
  2. ช่วยรักษาหนองใน (รากอากาศ)[1],[2],[4]
  3. ช่วยแก้มุตกิด ระดูขาวมีกลิ่นเหม็น (รากอากาศ)[1],[2],[4]
  4. นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณอื่น ๆ อีกหลายอย่าง เพียงแต่ว่าข้อมูลเหล่านั้นไม่มีแหล่งอ้างอิง ผู้เขียนจึงไม่ยืนยันว่าพรรณไม้ชนิดนี้จะมีสรรพคุณตามที่เขียนไว้หรือไม่ ซึ่งตามข้อมูลได้ระบุสรรพคุณนอกเหนือจากที่ผู้เขียนกล่าวมาแล้วว่า รากอากาศนั้นมีสรรพคุณแก้กษัยไตพิการ ช่อดอกเพศผู้เป็นยาแก้ลม ส่วนต้นใช้เป็นยาแก้กษัยน้ำเบาพิการ ยาขับปัสสาวะ และยาแก้โรคเบาหวาน และใช้ใบเป็นยาเย็นบำรุงหัวใจให้ชุ่มชื่น รักษาโรคผิวหนัง และแก้หัด

ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของเตยทะเล

ประโยชน์ของต้นเตยทะเล

  1. ผลใช้รับประทานได้[6]
  2. ใบนำมาใช้สานเป็นเสื่อและเครื่องใช้ประเภทจักสานได้[5]
  3. เปลือกสามารถนำมาใช้ทำเป็นเชือกได้[6]
  4. นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ ขึ้นได้ดีในพื้นที่ชุ่มน้ำ พื้นที่ดินเค็ม ชายน้ำ ชายหาด ลำคลอง หนอง บึง สามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อม น้ำขังแฉะ น้ำเค็ม โรคและเมลงศัตรูพืชได้ดี และชาวบ้านนิยมชอบปลูกไว้เพื่อบังลม ต้นเตยทะเลสามารถทนต่อลมแรงและอากาศแล้งได้ดี อีกทั้งต้นเป็นพุ่มใหญ่ ใบและต้นมีหนาม จึงใช้ปลูกเป็นรั้วบ้านได้[5],[6]
  5. นอกจากจะปลูกเป็นไม้ประดับแล้ว ยังสามารถใช้ปลูกคลุมวัชพืชได้ดี เพราะมีใบหนาแน่น[6]
เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือสมุนไพรไทย เล่ม 1.  “เตยทะเล (Toei Thale)”.  (ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, ธวัชชัย มังคละคุปต์).  หน้า 131.
  2. หนังสือสมุนไพรในอุทยานแห่งชาติภาคกลาง.  “เตยทะเล”.  (พญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ, ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, กัญจนา ดีวิเศษ).  หน้า 101.
  3. หนังสือสมุนไพรสวนสิรีรุกขชาติ.  (คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล).  “ลำเจียก”.  หน้า 159.
  4. หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5.  “ลําเจียก”.  (ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม).  หน้า 691-692.
  5. พืชจักสาน, สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี.  “เตยทะเล”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.rspg.or.th/plants_data/use/weaving.htm. [17 เม.ย. 2014].
  6. ฝ่ายปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.  “เตยทะเล”.  (นพพล เกตุประสาท).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: clgc.rdi.ku.ac.th.  [17 เม.ย. 2014].
  7. การประชุมทางวิชาการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครั้งที่ 50 วันที่ 31 ม.ค. 2555 – 2 ก.พ. 2555 สาขาส่งเสริมการเกษตรและคหกรรมศาสตร์, สาขาพืช.  “การสกัดสารจากลำต้นใต้ดินของลำเจียกและผลของสารสกัดต่อการเจริญของต้นกล้าของพืชทดสอบ 4 ชนิด”. (ศานิต สวัสดิกาญจน์). หน้า 356-366.

ภาพประกอบ : www.flickr.com (by 翁明毅, colleeninhawaii, sclereid0309, Stan Dalone & Miran Rijavec, Jin Yao Ong, mutolisp,  joegoauk25)

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 เตยทะเล
  • 2 ลักษณะของเตยทะเล
  • 3 สรรพคุณของเตยทะเล
  • 4 ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของเตยทะเล
  • 5 ประโยชน์ของต้นเตยทะเล
  • 6 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ