on
หูดับแต่ตับไม่ไหม้ (ตอนที่ 2 และตอนจบ)
3 มิถุนายน 2017
สำหรับอาการติดเชื้อที่เกิดขึ้นในคนนั้น โดยทั่วไปได้แก่ อาการเป็นไข้ ปวดศีรษะ อาเจียน และอาจมีอาการเลือดออกทางผิวหนัง นอกจากนี้อาจทำให้เป็น
- โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis)
- มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด (Sepsis)
- โรคปอดอักเสบ (Pneumonia)
- โรคข้ออักเสบ (Arthritis)
- เยื่อบุหัวใจอักเสบ (Endocarditis)
- กลุ่มอาการสเตรปโตคอกคัสท็อกสิกช็อก(Sstreptococcal toxic shock-like syndrome = STSS)
- หูหนวก (Deafness)
- เส้นประสาทการทรงตัวในหูทำงานผิดปกติ (Vestibular dysfunction)
- การตรวจเลือด (Blood samples)
- การตรวจน้ำในโพรงสมองและไขสันหลัง (Cerebrospinal fluid = CSF)
- การตรวจน้ำไขข้อ (Joint fluid)
- ใส่ถุงมือเมื่อต้องสัมผัสกับหมูเป็นๆ และซากหมู กรณีผู้ที่มีแผลที่ผิวหนังต้องปิดแผลให้มิดชิด
- ล้างมือ ล้างเท้า ล้างตัว ให้สะอาดหลังการสัมผัส
- หลีกเลี่ยงการกินเนื้อหมูสุกๆ ดิบๆ
- เลือกซื้อเนื้อหมูจากตลาดหรือโรงฆ่าสัตว์ที่ได้มาตรฐาน ไม่ซื้อเนื้อหมูที่มีกลิ่นคาว สีคล้ำเนื้อยุบ
- ควรทำให้สุกด้วยอุณหภูมิตั้งแต่ 70 องศาเซลเซียส นานอย่างน้อย 10 นาที
โดยผู้ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อมาก ได้แก่ ผู้เลี้ยงหมู คนที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ผู้ที่ทำหน้าที่ขนส่งเนื้อหมู พ่อค้าหมู ผู้ทำอาหาร และผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ (Immunocompromised host) เช่น ผู้ที่ตัดม้ามออก ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคพิษสุรา (Alcoholism)
สำหรับการวินิจฉัยโรคสามารถทำได้ด้วย
ส่วนการรักษาสามารถทำได้ด้วยการให้ยาปฏิชีวนะ เช่น ยา Penicillins ยา Cephalosporins ยา Ceftriazone เป็นต้น
เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่ใช้ป้องกันการติดเชื้อนี้ ดังนั้นการป้องกันที่ทำได้ คือ
แหล่งข้อมูล:
- Streptococcus suis. [2017, June 02].
- Streptococcus suis Infection. [2017, June 02].