หาวไปตามๆ กัน (ตอนที่ 2 และตอนจบ)

11 มิถุนายน 2017
หาวไปตามๆกัน-2

ทฤษฎีใหม่ๆ มักกล่าวว่า การหาวเป็นเรื่องของระบบไหลเวียนของเลือด (Circulatory system) เพราะการหาวเป็นการเพิ่มความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ และออกซิเจนในเลือด ซึ่งจะทำให้ร่างกายมีความตื่นตัวเพิ่มขึ้น

จากการทดลองในหนู นกหงส์หยก และมนุษย์ ของ Andrew C. Gallup, PhD ที่ได้ทำงานวิจัยที่ Princeton University ระบุว่า การหาวเป็นการลดอุณภูมิในสมองให้เย็นลง โดยมาจากความคิดพื้นฐานที่ว่า

และทฤษฎีของ Andrew C. Gallup ยังเชื่อว่าอากาศภายนอกจะทำให้สมองเย็นลง ดังนั้น ร่างกายจึงหาวมากกว่าปกติเมื่ออยู่ในที่มีอากาศเย็น และหาวน้อยลงเมื่ออยู่ในที่มีอากาศร้อน

ทั้งนี้ Andrew C. Gallup และคณะ ได้ทำการทดสอบกับผู้ที่สัญจรไปมาบนถนน 80 ราย ณ สถานที่เดียวกันด้วยระดับอุณหภูมิที่แตกต่างกัน ครั้งหนึ่งในหน้าหนาวที่มีอากาศเย็น 22 องศาเซลเซียส และอีกครั้งในหน้าร้อนที่อุณหภูมิอยู่ที่ 37 องศาเซลเซียส ด้วยการให้ผู้ที่สัญจรไปมาบนถนนดูภาพของคนกำลังหาว ผลปรากฏว่า ในหน้าหนาว ร้อยละ 45 หาวตามภาพ ขณะที่ในหน้าร้อน มีเพียงร้อยละ 24 ที่หาวตามภาพ

สำหรับการตรวจว่ามีการหาวที่ผิดปกติหรือมากเกินไปนั้น เบื้องต้นแพทย์จะสอบถามถึงพฤติกรรมการนอนแล้ววิเคราะห์ว่ามีการนอนที่พอเพียงหรือไม่ แพทย์อาจค้นหาสาเหตุของการหาวด้วยการตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (Electroencephalogram = EEG) ซึ่งจะช่วยในการวิเคราะห์ว่า คนไข้เป็นโรคลมบ้าหมู (Epilepsy) หรือมีภาวะอะไรที่มีผลกระทบต่อสมองหรือไม่

นอกจากนั้นอาจใช้การตรวจเอ็มอาร์ไอเพื่อดูภาพในรายละเอียดของไขสันหลัง สมอง และหัวใจ ว่ามีก้อนเนื้อในสมอง เป็นโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple sclerosis) หรือหัวใจมีปัญหาหรือไม่

หากสาเหตุของการหาวเกิดจากการใช้ยา แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาในปริมาณ (Dosage) ที่ลดลง หรือถ้าสาเหตุมาจากการเป็นโรค เช่น โรคลมบ้าหมู ตับวาย ก็ต้องทำการรักษาโรคนั้นๆ แต่หากการหาวเกิดจากการนอนที่ผิดปกติ แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยานอนหลับ (Sleep-aid medications) หรือหาวิธีที่ทำให้นอนหลับได้ เช่น

แหล่งข้อมูล:

  1. What causes excessive yawning? 10 possible conditions. [2017, June 11].
  2. Why Do You Yawn? 10 possible conditions. [2017, June 11].