หลั่งนอก 8 ข้อดี-ข้อเสีย 16 คำถามยอดฮิต…หลั่งนอกท้องไหม

หลั่งนอก

หลั่งน้ำอสุจิภายนอกช่องคลอด หรือที่คนทั่วไปมักเรียกว่า “หลั่งข้างนอก” หรือ “หลั่งภายนอก” (Coitus interruptus, Rejected sexual intercourse, Withdrawal, Pull-out method) เป็นวิธีที่ช่วยลดโอกาสการตั้งครรภ์อย่างหนึ่งที่เมื่อร่วมเพศไปในระยะแรกจะเป็นไปอย่างปกติ (ฝ่ายชายจะไม่ได้สวมถุงยางอนามัย) จนกระทั่งฝ่ายชายรู้สึกใกล้จะหลั่งน้ำอสุจิ ฝ่ายชายจะถอนอวัยวะเพศออกจากช่องคลอดก่อนที่จะถึงจุดสุดยอด และหลั่งน้ำอสุจิออกมาภายนอกช่องคลอดของฝ่ายหญิงแทน โดยไม่ให้น้ำอสุจิเปื้อนบริเวณปากช่องคลอด เพราะอาจจะทำให้เชื้ออสุจิเข้าไปในช่องคลอดได้ โดยคิดไปเองว่าจะไม่ทำให้อสุจิเข้าไปผสมกับไข่ของฝ่ายหญิงได้และไม่เกิดการตั้งครรภ์ ซึ่งนั่นเป็นความเข้าใจที่ผิดครับ !! เพราะในระหว่างที่เรากำลังมีเพศสัมพันธ์ อาจจะมีเชื้ออสุจิออกมากับน้ำเมือกบ้างแล้วบางส่วน หรือเมื่อใกล้ถึงจุดสุดยอดแล้วแต่ฝ่ายชายถอนอวัยวะเพศไม่ทัน จนหลั่งน้ำอสุจิเข้าไปภายในช่องคลอดหรือบริเวณปากช่องคลอด เหล่านี้เชื้ออสุจิก็สามารถผ่านเข้าไปในช่องคลอดได้แล้วครับ จึงมีโอกาสเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์สูง

สำหรับสาเหตุที่วิธีการหลั่งนอก (แตกนอก) เป็นที่นิยมกันมากโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น ก็คงมาจากความง่าย ความสะดวกสบาย ไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์ป้องกันใด ๆ แถมยังให้ความรู้สึกถึงอารมณ์แบบเนื้อแนบเนื้ออีกต่างหาก อีกทั้งวัยรุ่นส่วนใหญ่ก็อายที่จะไปซื้อถุงยางอนามัยในร้านสะดวกซื้อมาใช้ หรือบางครั้งก็ฉุกเฉินเกินกว่าจะเตรียมอุปกรณ์ป้องกันได้ทันที ส่วนอีกสาเหตุสำคัญก็คงมาจากความมั่นอกมั่นใจของฝ่ายชายนี่แหละที่บางคนคิดเอาแต่ได้ โดยไม่คิดถึงผลที่จะตามมา หรือมาจากความมั่นใจแบบผิด ๆ ว่าปล่อยนอกยังไงก็ไม่ท้องอย่างแน่นอน คราวนี้เรามาดูข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการหลั่งนอกกันเลยดีกว่า จะได้หายสงสัยสักทีว่าทำไมหลั่งนอกแล้วแต่ก็ยังท้องได้อยู่ !!

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการหลั่งนอก

ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดของการหลั่งนอก

ข้อมูลจาก Contraceptive technology (20th revised ed.) ระบุว่าตามหลักแล้วการหลั่งภายนอกช่องคลอดอย่างถูกต้อง (Perfect use) ตามหลักทฤษฎีเป๊ะ ๆ จะมีโอกาสล้มเหลวทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 4% ซึ่งหมายความว่าการตั้งครรภ์จากการคุมกำเนิดด้วยการหลั่งนอกจำนวน 100 คน จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 4 คน แต่โดยทั่วไปหรือในโลกความเป็นจริงแล้ว มันก็ต้องมีเป๊ะบ้าง ไม่เป๊ะบ้างเป็นธรรมดา ทำให้การคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ (Typical use) มีอัตราการล้มเหลวทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้สูงมากขึ้นเป็น 22% หรือคิดเป็นเกือบ 1 ใน 4 คน จากผู้ที่คุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ ส่วนด้านล่างนี้เป็นตารางเปรียบเทียบระหว่างการคุมกำเนิดด้วยวิธีการหลั่งนอกกับวิธีการคุมกำเนิดแบบอื่น ๆ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจครับ

วิธีคุมกำเนิด การใช้แบบทั่วไป การใช้อย่างถูกต้อง ระดับความเสี่ยง
ยาฝังคุมกำเนิด 0.05 (1 ใน 2,000 คน) 0.05 ต่ำมาก
ทำหมันชาย 0.15 (1 ใน 666 คน) 0.1 ต่ำมาก
ห่วงอนามัยเคลือบฮอร์โมน 0.2 (1 ใน 500 คน) 0.2 ต่ำมาก
ยาฉีดคุมกำเนิด (ฮอร์โมนรวม) 0.2 (1 ใน 500 คน) 0.2 ต่ำมาก
ทำหมันหญิง (แบบทั่วไป) 0.5 (1 ใน 200 คน) 0.5 ต่ำมาก
ห่วงอนามัยหุ้มทองแดง 0.8 (1 ใน 125 คน) 0.6 ต่ำมาก
ยาฉีดคุมกำเนิด (ฮอร์โมนเดี่ยว) 6 (1 ใน 17 คน) 0.2 ปานกลาง
แผ่นแปะคุมกำเนิด 9 (1 ใน 11 คน) 0.3 ปานกลาง
วงแหวนคุมกำเนิด (NuvaRing) 9 (1 ใน 11 คน) 0.3 ปานกลาง
ยาเม็ดคุมกำเนิด 9 (1 ใน 11 คน) 0.3 ปานกลาง
ถุงยางอนามัยชาย 18 (1 ใน 5 คน) 2 สูง
การหลั่งนอก 22 (1 ใน 4 คน) 4 สูงมาก
การหลั่งใน (ไม่มีการป้องกัน) 85 (6 ใน 7 คน) 85 สูงมาก

หมายเหตุ : ตัวเลขที่แสดงเป็นจำนวนการตั้งครรภ์ต่อปี (first year of use) ของสตรีที่คุมกำเนิดด้วยวิธีดังกล่าวจำนวน 100 คน โดยกำหนดให้ สีฟ้า = ความเสี่ยงต่ำมาก / สีเขียว = ความเสี่ยงต่ำ / สีเหลือง = ความเสี่ยงปานกลาง / สีส้ม = ความเสี่ยงสูง / สีแดง = ความเสี่ยงสูงมาก (ข้อมูลจาก : www.contraceptivetechnology.org, Comparison of birth control methods – Wikipedia)

ถ้าจะให้เข้าใจง่าย ๆ ตามภาษาชาวบ้านก็ตามด้านล่างนี้เลยครับ 🙂

ข้อดีของการหลั่งนอก

  1. เป็นวิธีที่ใช้ได้เสมอ ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ อาศัยแต่เพียงความอดทนและเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นเท่านั้น โดยสามีจะต้องไม่หลั่งน้ำอสุจิเร็ว ยิ่งถ้าควบคุมการหลั่งน้ำอสุจิได้ด้วยแล้ว โดยรอให้ฝ่ายภรรยาถึงจุดสุดยอดเสียก่อนก็จะได้ผลดีต่อทั้งคู่
  2. เป็นวิธีที่ง่าย สะดวก ประหยัด ไม่ต้องเสียเงิน ไม่ต้องอาศัยเครื่องมือแพทย์ใด ๆ
  3. ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับฮอร์โมน จึงไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ฮอร์โมนเหมือนยาเม็ดคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด ยาฝังคุมกำเนิด และแผ่นแปะคุมกำเนิด
  4. ไม่มีผลต่อประจำเดือน ทำให้ประจำเดือนมาตามปกติ เมื่อหยุดใช้ภาวะการเจริญพันธุ์จะกลับมาทันที

ข้อเสียของการหลั่งนอก

  1. วิธีนี้เป็นวิธีที่มีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์สูง สามีบางคนอาจสงสัยว่าทำไมภรรยาถึงตั้งครรภ์ได้ทั้ง ๆ ที่หลั่งนอกทุกครั้ง ก็อย่างที่บอกนั่นแหละครับว่ามันมีโอกาสผิดพลาดได้ง่ายมาก !!
  2. ทำให้คู่สมรสมีความสุขจากการร่วมเพศได้ไม่เต็มที่ (โดยเฉพาะฝ่ายสามี) ส่วนฝ่ายหญิงก็มีโอกาสถึงจุดสุดยอดน้อยลง เพราะฝ่ายสามีต้องฝืนใจเอาอวัยวะเพศออกขณะที่จะถึงจุดสุดยอดทั้งที่ไม่อยากทำ
  3. ในบางกรณี (โดยเฉพาะวัยรุ่นมือใหม่) มักเกิดอาการตื่นเต้นจนทำให้หลั่งเร็วหรือไม่สามารถควบคุมการหลั่งได้ ความเสี่ยงก็จะสูงมากขึ้น
  4. ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ โดยเฉพาะ เอดส์ เริม หนองใน ซิฟิลิส ฯลฯ

หลากหลายคำถามเกี่ยวกับการหลั่งนอก

มีอะไรกันแล้วแตกนอกจะท้องหรือเปล่า ?

มีอะไรกับแฟน โดยที่ไม่ได้ป้องกันอะไรเลย แต่หลั่งนอกจะมีโอกาสเสี่ยงไหม ?

มีอะไรกับแฟน แต่ทำไม่เสร็จ ในช่วงที่สอดใส่ อยากรู้ว่าจะมีน้ำอสุจิปะปนมากับน้ำหล่อลื่นหรือเปล่า เครียดมากกลัวท้อง ?

ไม่ได้สอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปในช่องคลอดและหลั่งนอก จะมีโอกาสตั้งครรภ์หรือไม่ ?

มีอะไรกับแฟน โดยสอดใส่เข้าไปข้างใน แต่หลั่งข้างนอก กลัวท้องมาก อยากทราบว่ามีความจำเป็นต้องกินยาคุมฉุกเฉินหรือไม่ ?

ครั้งแรกเขาหลั่งนอก แต่พอครั้งที่ 2 เขาใส่ถุงยางอนามัย จะมีโอกาสท้องหรือเปล่า ?

มีอะไรกันวันที่ประจำเดือนหมดพอดีและหลั่งข้างนอก จะมีโอกาสตั้งครรภ์สูงไหม ?

สามีหลั่งนอกแต่หลั่งอยู่บริเวณปากช่องคลอดจะท้องหรือเปล่า ?

แฟนหลั่งนอก แต่หลั่งใส่กางเกงในตรงบริเวณจุดนั้นพอดี แต่หนูไม่ได้อาบน้ำทันที จะมีโอกาสท้องหรือไม่ ?

มีอะไรกับแฟนเสร็จแล้ว เอาออกมาหลั่งข้างนอก แล้วเอากระดาษทิชชูเช็ด แล้วมีเพศสัมพันธ์กันต่อ จะท้องหรือเปล่า ?

มีเพศสัมพันธ์กับแฟนครั้งแรกแล้วหลั่งนอก จากนั้นจึงไปล้างหัวออกและลองรีดตรงหัวดูและไม่พบน้ำอสุจิ แล้วไปมีเพศสัมพันธ์ต่อในทันทีจะมีโอกาสท้องรึเปล่า ?

มีอะไรกับแฟนไม่ได้ใส่ถุงและหลั่งนอกตลอด พอจะแตก ก็ชักออกมาแล้ววิ่งไปชักต่อในห้องน้ำจนเสร็จ + ฉี่และล้างทำความสะอาดอย่างดี แล้วมาทำต่อรอบสอง แบบนี้จะมีโอกาสท้องหรือเปล่า ?

แฟนบอกว่ามีน้ำแตกนิดเดียวแล้วเอาออกจะมีสิทธิ์ท้องหรือไม่ ?

มีเพศสัมพันธ์กับแฟนติดกันหลายวัน โดยไม่ได้ใส่ถุง แต่แตกนอกตลอด จะท้องหรือเปล่า ?

นอนกับแฟนมาหลายวัน แตกนอกตลอด ประจำเดือนไม่มา จะท้องหรือเปล่า ?

สามีชอบหลั่งนอก แต่ดิฉันอยากมีลูกมาก เพราะอายุมากแล้ว บางครั้งใช้นิ้วป้ายอสุจิที่หลั่งนอกแล้วสอดเข้าไปในช่องคลอด ก็ยังไม่ท้องสักที ควรจะทำยังไงดี ?

สำหรับใครที่มีถำถาม ก็ถามมาได้ใต้โพสต์นี้เลยนะครับ !

ข้อพึงระลึก

สรุป สำหรับใครที่คิดจะถามคำถามเดิม ๆ ว่าจะท้องหรือไม่ คำตอบแบบฟันธงว่าท้องหรือไม่ท้องคงไม่มีหรอกครับ เพราะหลาย ๆ คู่ ตั้งใจจะมีลูกปล่อยในตลอดทั้งเดือนก็ยังไม่มีสักที ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีปัญหาสุขภาพใด ๆ ส่วนโอกาสท้องที่จะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ก็คงวัดกันได้ยาก เพราะแต่ละคู่มีปัจจัยแตกต่างกัน เช่น สุขภาพของทั้งคู่, รอบเดือนของฝ่ายหญิง, ระยะเวลาการมีเพศสัมพันธ์, จังหวะการปล่อยนอก, จำนวนครั้งที่มีเพศสัมพันธ์, การเช็ดล้างทำความสะอาด, ฝ่ายชายพลาดปล่อยในไปบ้างแล้วแต่ไม่บอกฝ่ายหญิง ฯลฯ เรื่องเหล่านี้คงไม่มีใครรู้เท่าตัวเราเองหรอกจริงไหมครับ แต่เท่าที่ผมรู้ได้อย่างหนึ่งก็คือ ถ้ายิ่งทำแบบนี้บ่อย ๆ และไม่ระวัง โอกาสเสี่ยงก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายก็อยากจะฝากบอกน้อง ๆ ที่ยังไม่พร้อมจะมีลูกนะครับ ว่าอย่าคิดทำอะไรเสี่ยง ๆ หาทางป้องกันไว้จะดีกว่า เพราะถ้าพลาดมาแล้วชีวิตเราทั้งชีวิตอาจเปลี่ยนไปเลยก็ได้ ขอให้โชคดีครับ

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 หลั่งนอก
  • 2 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการหลั่งนอก
  • 3 ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดของการหลั่งนอก
  • 4 ข้อดีของการหลั่งนอก
  • 5 ข้อเสียของการหลั่งนอก
  • 6 หลากหลายคำถามเกี่ยวกับการหลั่งนอก
  • 7 ข้อพึงระลึก
เรื่องที่น่าสนใจ