หลอดเลือดแดงโป่งพอง รุกฆาตโดยไม่รู้ตัว (ตอนที่ 8)

28 กันยายน 2016
หลอดเลือดแดงโป่งพอง

กรณีที่มีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงเฉียบพลันหรืออาการอื่นที่สัมพันธ์กับภาวะหลอดเลือดสมองโป่งพองแตก แพทย์จะให้ทำการทดสอบเพื่อดูว่ามีภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นกลาง (Subarachnoid hemorrhage เป็นภาวะที่มีเลือดออกในช่องว่างระหว่างเนื้อสมองและเยื่อหุ้มรอบๆ สมองชั้นกลาง) หรือมีภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยงเนื่องจากหลอดเลือดตีบ อุดตัน หรือหลอดเลือดแตก (Stroke) หรือไม่ ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

โดยทั่วไป การรักษาโรคหลอดเลือดสมองโป่งพองแตกมักทำได้ 2 วิธี ได้แก่

อย่างไรก็ดี ทั้ง 2 วิธี ล้วนมีความเสี่ยงด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งกรณีที่มีเลือดออกในสมองหรือไม่มีเลือดไหลไปยังสมอง และแม้วิธีการรักษาผ่านทางสายสวนหลอดเลือดอาจจะดูปลอดภัยกว่าในระยะแรก แต่ก็มีความเสี่ยงสูงกว่าในเรื่องของการยังมีเลือดออกได้อีก

นอกจากนี่ ยังมีวิธีการรักษาแบบใหม่ที่เรียกว่า การเปลี่ยนทิศทางการไหลของเลือด (Flow diverters) ที่ใช้ได้ดีกับกรณีที่หลอดเลือดสมองโป่งพองมีขนาดใหญ่และไม่ปลอดภัยในการรักษาด้วยวิธีอื่น

ทั้งนี้ วิธีการรักษาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ ขนาดของหลอดเลือดที่มีปัญหา สุขภาพทั่วไป เป็นต้น กรณีที่หลอดเลือดสมองโป่งพองมีขนาดเล็ก (น้อยกว่า 10 มิลลิเมตร) แพทย์มักแนะนำให้รอดูอาการมากกว่าผ่าตัด

แหล่งข้อมูล

1. Brain aneurysm. [2016, September 27].

2. Brain Aneurysm - Topic Overview. [2016, September 27].