วัตถุออกฤทธิ์ (Psychotropic substances)

การเตรียมตัวก่อนพบแพทย์
วัตถุออกฤทธิ์

วัตถุออกฤทธิ์ (Psychotropic substances) หมายถึง วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท อาจเป็นสิ่ง/สารจากธรรมชาติ หรือที่เป็นวัตถุสังเคราะห์ หรืออีกนัยหนึ่ง ‘วัตถุออกฤทธิ์’ หมาย ถึง สารเคมีหรือวัตถุใดๆซึ่งมีผลต่อระบบประสาทสวนกลางที่ทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพจิตใจของผู้ได้รับสารเหล่านี้

วัตถุออกฤทธิ์แบ่งเป็น 2 ชนิดคือ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และ ยาเสพติดให้โทษ

วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท

วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท (Psychotropic drug) เป็นยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประ สาทส่วนกลาง ซึ่งในระบบประสาทส่วนกลาง มีสารเคมีที่ควบคุมการทำงานของร่างกายหลายระบบ เช่น วัตถุออกฤทธิ์ที่มีผลทำให้ไม่อยากกินอาหารที่ใช้ประโยชน์ในการลดความอ้วน หรือบางชนิดออกฤทธิ์ช่วยให้นอนหลับ

วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท แบงออกได้เป็น 4 ประเภท ดังนี้

ยาเสพติดให้โทษ (Narcotic drug)

ยาเสพติดให้โทษ (Narcotic drug) ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทส่วนกลางเช่นกัน แต่ออกฤทธิ์เฉพาะแห่ง เช่น เฉพาะส่วนที่ทำให้เกิดอาการปวด จึงใช้แก้ปวดที่รุนแรงได้ผลดี แต่เสพติดได้ง่าย ทำให้เกิดอาการประสาทหลอน เมื่อหยุดใช้ยาจะเกิดอาการถอนยา

ยาเสพติดให้โทษ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 แบ่งเป็น 5 ประเภท ได้แก่

  1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไม่มีประโยชน์ทางการแพทย์ ห้ามผลิต จำหน่าย นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ครอบครอง เว้นแต่การมีไว้ในครอบครองกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราช การตามที่รัฐมนตรีจะอนุญาต เช่น เฮโรอีน ยาบ้า
  2. ยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 มีประโยชน์ทางการแพทย์
    • กลุ่มยาที่ใช้ในการแก้ปวด เช่น เฟนตานิล (Fentanyl), โคเคน (Cocaine)
    • กลุ่มยาที่ใช้ในการรักษาผู้ที่ติดยาเสพติด เช่น โอเปี่ยมทิงเจอร์ (Opium tincture), เมทาโดน (Methadone)
    • กลุ่มยาที่ใช้ในการผ่าตัด เช่น มอร์ฟีน (Morphine), เฟนตานิล (Fentanyl)
    • กลุ่มยาที่ใช้เป็นวัตถุดิบ (สำหรับใช้ในการผลิตวัตถุเสพติดในประเภท 3) เช่น โคเดอีน (Codeine), ฝิ่น
    ผลิตหรือนำเข้า โดยกระ ทรวงสาธารณสุข และจำหน่ายให้แก่ผู้มีใบอนุญาตจำหน่ายหรือครอบครองยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 ได้แก่ ผู้ประกอบอาชีพเวชกรรม เภสัชกรรม ทันตกรรม และสัตวแพทย์ เช่น
  3. ยาเสพติดให้โทษในประเภท 3 เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 ผสมกับยาชนิดอื่นได้ผลิตภัณฑ์ยาสำเร็จรูป เช่น ยาแก้ไอหรือยาแก้ปวด (มีโคเดอีนเป็นส่วน ผสม)
  4. ยาเสพติดให้โทษในประเภท 4 ใช้เป็นวัตถุดิบในทางอุตสาหกรรมหรือวิทยาศาสตร์ นำเข้าโดยกระทรวงสาธารณสุข ขายให้แก่ผู้มีใบอนุญาตจากสำนักคณะกรรมการอาหารและยา ไม่ใช่ยาเสพติดให้โทษโดยตรง แต่เป็นสารตั้งต้นที่นำไปผลิตเป็นยาเสพติดให้โทษได้ เช่น อะเซติกแอนไฮไดร์ (Acetic anhydride: ผลิตเฮโรอีน) มีประโยชน์ทางอุตสาหกรรมในการผลิตแป้ง คุณสมบัติที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้กระบวนการผลิตสีทาต่างๆ หรือประโยชน์ทางด้านวิทยาศาสตร์เป็นส่วนผสมในการผลิตยาบางชนิด เช่น ยารักษาไมเกรน
  5. ยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ส่วนใหญ่เป็นพืชที่ทำให้เกิดการเสพติดได้ เช่น กระ ท่อม ต้นฝิ่น เห็ดขี้ควาย กัญชา ห้ามผลิต จำหน่าย นำเข้าส่งออก

อื่นๆ

นอกจากนี้ วัตถุออกฤทธิ์ยังให้รวมถึง

  1. วัตถุที่เรียกชื่อเป็นอย่างอื่น แต่มีสูตรโครงสร้างทางเคมีอย่างเดียวกับวัตถุออกฤทธิ์ดังกล่าว
  2. ไอโซเมอร์ (Isomer: สารเคมีที่มีส่วนประกอบทางเคมีคล้ายกัน) ใดๆของวัตถุออกฤทธิ์ดัง กล่าว ยกเว้นไอโซเมอร์อื่นของวัตถุออกฤทธิ์ที่ได้ระบุตัวไอโซเมอร์นั้นๆเป็นวัตถุออกฤทธิ์ไว้ แล้วโดยเฉพาะ
  3. เอสเตอร์ (Ester: สารเคมีลักษณะเฉพาะชนิดหนึ่ง) และอีเทอร์ (Ether: สารเคมีระเหยชนิดหนึ่ง) ใดๆ และเกลือของวัตถุออกฤทธิ์ดังกล่าว เว้นแต่ที่ได้ประกาศไว้
  4. วัตถุตํารับที่มีวัตถุออกฤทธิ์ดังกล่าวผสมอยู่ เว้นแต่จะมีการระบุเงื่อนไขเฉพาะไว้

บรรณานุกรม

1. [2014,July19]
2. [2014,July19]
3. [2014,July19]