รวมรุ่นไวรัสตับอักเสบ (ตอนที่ 8)

12 กันยายน 2017
รวมรุ่นไวรัสตับอักเสบ-8

ไวรัสตับอักเสบดีมักไม่แสดงอาการ กรณีที่มีอาการโดยทั่วไป ได้แก่ อาการดีซ่าน ปวดข้อ ปวดท้อง อาเจียน เบื่ออาหาร ปัสสาวะสีเข้ม และอ่อนเพลีย

อาการของไวรัสตับอักเสบดีจะคล้ายกับอาการของไวรัสตับอักเสบบี ดังนั้นจึงยากที่จะหาสาเหตุของอาการที่เกิดขึ้นได้จริงว่าเกิดจากเชื้อตัวไหน ในบางกรณีไวรัสตับอักเสบดีจะทำให้อาการของไวรัสตับอักเสบบีแย่ลง หรือบางทีอาจทำให้อาการไวรัสตับอักเสบบีปรากฏขึ้นในผู้ที่ไม่เคยแสดงอาการมาก่อน

ทั้งนี้ เชื้อ HDV สามารถติดต่อและแพร่กระจายได้ด้วยการสัมผัสกับของเหลวในร่างกายของผู้ติดเชื้อ เช่น

ส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ HDV ได้แก่

เช่นเดียวกันการวินิจฉัยโรคทำได้ด้วยการตรวจเลือดเพื่อหาภูมิคุ้มกันต่อไวรัสตับอักเสบดี (Anti-hepatitis D antibodies) การตรวจสุขภาพของตับ เช่น การวัดค่าโปรตีน ค่าเอนไซม์ และค่าบิลิรูบิน (Bilirubin) ที่มีในเลือด

สำหรับการรักษา ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาหรือวัคซีนรักษา HDV แต่ผู้ติดเชื้ออาจได้รับยาที่เรียกว่า อินเตอร์เฟอรอน (Interferon) เป็นเวลานานถึง 12 เดือน โดยอินเตอร์เฟอรอนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สามารถหยุดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสและบรรเทาอาการของโรคได้

ผู้ป่วยที่เป็นไวรัสตับอักเสบดีแบบเฉียบพลันส่วนใหญ่จะมีอาการดีขึ้นใน 2-3 สัปดาห์ และค่าเอนไซม์ของตับจะกลับสู่สภาวะปกติภายใน 16 สัปดาห์ มีประมาณร้อยละ 10 ทีอาจพัฒนาไปไวรัสตับอักเสบดีแบบเรื้อรัง

อย่างไรก็ดี หลังการรักษาเลือดของผู้ติดเชื้อก็ยังคงเป็นบวกเหมือนเดิม ผู้ติดเชื้อต้องระวังการมีอาการกลับมาเป็นซ้ำได้อีก ดังนั้น ทางที่ดีที่สุด คือ การตรวจพบได้เร็ว จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อป้องกันการที่ตับถูกทำลายมากขึ้น มิฉะนั้นอาจพัฒนาไปเป็นโรคตับแข็งหรือมะเร็งตับได้

ส่วนการป้องกันการติดเขื้อไวรัสตับอักเสบดีที่ทำได้ก็คือ การหลีกเลี่ยงการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งได้แก่

แหล่งข้อมูล:

  1. Hepatitis D. [2017, September 10].
  2. Hepatitis D (Delta agent). [2017, September 10].