มะเร็งอัณฑะ (Testicular cancer) อาการ การรักษาโรคมะเร็งอัณฑะ 5 วิธี

มะเร็งอัณฑะ

มะเร็งอัณฑะ หรือ มะเร็งลูกอัณฑะ (Testicular cancer) คือ มะเร็งที่เกิดจากเนื้อเยื่อในอัณฑะ เป็นเนื้องอกร้ายที่เกิดจากเซลล์ในอัณฑะกลายเป็นมะเร็ง โดยทั่วไปมักพบเกิดกับอัณฑะด้านเดียว (โอกาสการเกิดทั้งด้านซ้ายและขวามีเท่ากัน) แต่มีเพียงประมาณ 5% เท่านั้นที่พบเกิดกับอัณฑะทั้ง 2 ข้าง

มะเร็งอัณฑะเป็นโรคมะเร็งที่พบได้น้อยเพียงประมาณ 2% ของมะเร็งทั้งหมด (ไม่ติด 1 ใน 10 ของมะเร็งที่พบบ่อยของผู้ชายชาวไทย) สามารถพบได้ในทุกอายุทั้งในเด็กจนถึงในผู้สูงอายุ แต่จะพบได้สูงในช่วงอายุประมาณ 15-35 ปี ในปี พ.ศ.2551 ในสหราชอาณาจักรพบโรคมะเร็งอัณฑะได้ประมาณ 6.7-7.3 รายต่อประชากรชาย 100,000 คนต่อปี ส่วนในประเทศไทยเมื่อช่วงปี พ.ศ.2544-2546 พบผู้ป่วย 0.6 รายต่อประชากรไทย 100,000 คนต่อปี

ชนิดของมะเร็งอัณฑะ

โรคมะเร็งอัณฑะมีอยู่หลายชนิด แต่ชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดประมาณ 90% จะเป็นชนิดเจิมเซลล์ (Germ cell tumor) ดังนั้น โดยทั่วไปเมื่อกล่าวถึงโรคมะเร็งอัณฑะจึงมักจะหมายถึงมะเร็งชนิดนี้เท่านั้น ซึ่งรวมถึงบทความนี้ด้วย นอกจากนี้โรคมะเร็งอัณฑะชนิดเจิมเซลล์ยังแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดหลัก ๆ คือ

สาเหตุของมะเร็งอัณฑะ

ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดโรคมะเร็งอัณฑะ แต่พบว่ามีปัจจัยเสี่ยง* ที่อาจเกี่ยวข้องกับโรคนี้ คือ

หมายเหตุ : ปัจจัยเสี่ยง หมายถึง การมีโอกาสเกิดมะเร็งเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าการมีปัจจัยเสี่ยงหรือมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างจะต้องกลายเป็นโรคมะเร็งเสมอไป หรือการที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงใด ๆ เลยก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีทางเป็นโรคมะเร็ง

อาการของมะเร็งอัณฑะ

อาการของโรคมะเร็งอัณฑะไม่ใช่อาการเฉพาะของโรค แต่จะเป็นอาการเหมือนกับโรคของอัณฑะทั่วไป ที่พบบ่อย คือ

อาการมะเร็งอัณฑะ
IMAGE SOURCE : www.modasta.com

ระยะของมะเร็งอัณฑะ

เนื่องจากโรคมะเร็งอัณฑะเป็นโรคที่มีความรุนแรงต่ำ แม้โรคจะแพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือดแล้วก็ยังมีโอกาสรักษาให้หายได้สูง โรคนี้จึงจัดแบ่งออกเป็น 3 ระยะใหญ่ ๆ ซึ่งต่างจากโรคมะเร็งอื่น ๆ ที่มี 4 ระยะ และในแต่ละระยะยังแบ่งย่อยได้อีกเพื่อใช้ในการช่วยวางแผนการรักษาและเพื่อการศึกษาวิจัย คือ

ระยะของโรคมะเร็งอัณฑะ
IMAGE SOURCE : healthlifemedia.com

การวินิจฉัยมะเร็งอัณฑะ

แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคมะเร็งอัณฑะได้จากการซักประวัติอาการ การตรวจร่างกาย การตรวจคลำอัณฑะทั้งสองข้าง การตรวจภาพอัณฑะทั้งสองข้างด้วยการอัลตราซาวนด์ การตรวจระดับ Alpha fetoprotein (AFP) Lactate dehydrogenase (LDH) และ β-hCG ในเลือดและปัสสาวะ ซึ่งหลังจากพบมีก้อนเนื้อชัดเจนแล้วแพทย์มักจะแนะนำให้ทำการผ่าตัดอัณฑะข้างที่มีก้อนเนื้อออก พร้อมกับตรวจชิ้นเนื้อเพื่อการวินิจฉัยโรคไปพร้อมกันในคราวเดียว (ทั้งนี้จะไม่มีการตัดชิ้นเนื้อจากก้อนเนื้ออัณฑะก่อนผ่าตัดรักษา เพราะการตัดชิ้นเนื้อจะต้องผ่านถุงอัณฑะซึ่งจะส่งผลให้โรคมะเร็งลุกลามเข้าถุงอัณฑะได้ ซึ่งถ้าก้อนเนื้อนั้นเป็นมะเร็ง การลุกลามเข้าถุงอัณฑะจะทำให้โรคมะเร็งลุกลามรุนแรงและรักษาได้ยากขึ้น อีกทั้งเมื่อพบก้อนเนื้อในอัณฑะ การรักษาจะเป็นการผ่าตัดเสมอ ดังนั้นการผ่าตัดอัณฑะจึงเป็นการวินิจฉัยโรคและการรักษาไปพร้อม ๆ กัน)

ภายหลังเมื่อทราบว่าเป็นโรคมะเร็งอัณฑะแล้ว แพทย์จะทำการตรวจเพิ่มเติมเพื่อประเมินระยะของโรคด้วยการตรวจภาพช่องท้องด้วยการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) เพื่อดูการลุกลามและการแพร่กระจายของโรคเข้าต่อมน้ำเหลืองและอวัยวะต่าง ๆ ในช่องท้อง (ในผู้ป่วยบางรายแพทย์อาจตรวจภาพนี้ก่อนการผ่าตัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์), การตรวจภาพปอดด้วยเอกซเรย์หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เพื่อดูการแพร่กระจายของโรคสู่ปอด, การตรวจเลือดและปัสสาวะเพื่อประเมินสุขภาพทั่วไปของผู้ป่วย เช่น การตรวจเลือดซีบีซี (CBC) การตรวจเลือดดูการทำงานของตับและไต และการตรวจเลือดดูค่าสารบ่งชี้มะเร็ง (เพราะเซลล์มะเร็งของโรคมะเร็งอัณฑะบางชนิดสามารถสร้างสารมะเร็งได้) ทั้ง Alpha fetoprotein (AFP) Lactate dehydrogenase (LDH) และ β-hCG (มักพบสูงกว่าปกติ) ซึ่งการตรวจเหล่านี้จะช่วยประเมินระยะของโรค ความรุนแรงของโรค แนวทางการรักษา และใช้ในการติดตามผลการรักษาได้

การรักษามะเร็งอัณฑะ

แนวทางการรักษาโรคมะเร็งอัณฑะที่สำคัญ คือ การผ่าตัดลูกอัณฑะทั้งก้อนเฉพาะด้านที่มีก้อนเนื้อออกผ่านทางขาหนีบพร้อมกับนำชิ้นเนื้อมาตรวจวินิจฉัยโรค ถ้าผลการตรวจชิ้นเนื้อออกมาว่าไม่ใช่เนื้อร้าย การรักษาจะสิ้นสุดลง แต่ถ้าผลออกมาว่าเป็นก้อนเนื้อร้ายหรือมะเร็ง แพทย์จะทำการตรวจหาชนิดของเซลล์มะเร็ง ระยะของโรค และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย เพื่อใช้เป็นแนวทางในการรักษาและให้การรักษาต่อเนื่องกันไป ซึ่งการรักษาอาจจะเป็นการเฝ้าติดตามอาการเป็นระยะ ๆ การให้ยาเคมีบำบัด และ/หรือการให้รังสีรักษา (อาจเป็นการฉายรังสีรักษาที่ต่อมน้ำเหลืองในช่องท้อง ช่องอก และ/หรือในบริเวณเหนือกระดูกไหปลาร้า)

ผลข้างเคียงจากการรักษามะเร็งอัณฑะ

ผลข้างเคียงจากการรักษาในแต่ละวิธีจะแตกต่างกันไป และผลข้างเคียงจะสูงขึ้นเมื่อใช้หลาย ๆ วิธีรักษาร่วมกัน และ/หรือเมื่อผู้ป่วยเป็นผู้สูงอายุ สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และมีโรคเรื้อรังประจำตัว (เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคภูมิต้านตนเอง)

การป้องกันมะเร็งอัณฑะ

เมื่อดูจากปัจจัยเสี่ยงแล้ว การป้องกันโรคมะเร็งอัณฑะให้ได้ 100% คงเป็นไปไม่ได้

แต่มีการศึกษาพบว่า การผ่าตัดแก้ไขภาวะอัณฑะไม่ลงให้มาอยู่ในถุงอัณฑะตั้งแต่ก่อนเข้าสู่วัยรุ่นจะช่วยลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็งอัณฑะได้มาก ดังนั้นผู้ปกครองจึงควรสังเกตและคลำอัณฑะของบุตรหลานตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อพบว่ามีภาวะอัณฑะไม่เคลื่อนลงถุงอัณฑะ (ภาวะนี้เป็นปัจจัยเสี่ยงมากที่สุดต่อการเกิดโรคมะเร็งอัณฑะ) คือ คลำไม่พบอัณฑะในถุงอัณฑะ ควรพาเด็กไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

การตรวจคัดกรองมะเร็งอัณฑะ

ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีที่มีประสิทธิภาพในการตรวจคัดกรองมะเร็งอัณฑะให้พบตั้งแต่ยังไม่มีอาการ แต่วิธีที่ดีที่สุดในขณะนี้ คือ การตรวจพบโรคให้เร็วที่สุดโดยการหมั่นสังเกตอาการและคลำอัณฑะของตนเอง (แนะนำให้หมั่นตรวจอัณฑะด้วยตนเองเดือนละ 1 ครั้งเพื่อดูว่ามีก้อนผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ โดยการใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ค่อย ๆ คลำเลื่อนไปเรื่อย ๆ ทั้งสองข้าง ซึ่งจะช่วยให้ค้นพบมะเร็งได้ตั้งแต่ในระยะแรก) เมื่อพบสิ่งผิดปกติหรือสงสัยว่าผิดปกติหรือเมื่อมีอาการดังกล่าว (ในหัวข้ออาการ) ควรรีบไปพบแพทย์เสมอ

การตรวจมะเร็งอัณฑะด้วยตัวเอง
IMAGE SOURCE : menshealthfoundation.ca
เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2.  “มะเร็งอัณฑะ (Testicular cancer)”.  (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).  หน้า 1174-1175.
  2. National Cancer Institute.  “Testicular cancer”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.cancer.gov.  [05 เม.ย. 2017].
  3. สาขารังสีรักษาและมะเร็งวิทยา ฝ่ายรังสีวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์.  “มะเร็งของอัณฑะ”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.chulacancer.net.  [06 เม.ย. 2017].
  4. หาหมอดอทคอม.  “มะเร็งอัณฑะ (Testicular cancer)”.  (ศ.เกียรติคุณ พญ.พวงทอง ไกรพิบูลย์).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : haamor.com.  [06 เม.ย. 2017].
  5. โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว.  “มะเร็งอัณฑะ”. [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.moderncancerthai.com.  [07 เม.ย. 2017].
  6. MutualSelfcare.  “มะเร็งอัณฑะ (Testicular cancer)”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.mutualselfcare.org.  [08 เม.ย. 2017].

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 มะเร็งอัณฑะ
  • 2 ชนิดของมะเร็งอัณฑะ
  • 3 สาเหตุของมะเร็งอัณฑะ
  • 4 อาการของมะเร็งอัณฑะ
  • 5 ระยะของมะเร็งอัณฑะ
  • 6 การวินิจฉัยมะเร็งอัณฑะ
  • 7 การรักษามะเร็งอัณฑะ
  • 8 ผลข้างเคียงจากการรักษามะเร็งอัณฑะ
  • 9 การป้องกันมะเร็งอัณฑะ
  • 10 การตรวจคัดกรองมะเร็งอัณฑะ
  • 11 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ