ฝีคัณฑสูตร อาการ สาเหตุ และการรักษาโรคฝีคัณฑสูตร 10 วิธี

โรคฝีคัณฑสูตร

ทวารหนัก(Anus) คือ ส่วนที่ต่อมาจากลำไส้ตรง (Rectum) ซึ่งเป็นส่วนปลายของลำไส้ใหญ่ และเปิดออกสู่ภายนอก ทวารหนักมีความยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร ประกอบไปด้วยชั้นเยื่อเมือกบุผิว (Mucosa) ชั้นใต้เยื่อเมือกบุผิว (Submucosa) และชั้นของกล้ามเนื้อ โดยชั้นของกล้ามเนื้อจะแบ่งออกเป็น 2 ชั้น คือ ชั้นหูรูดภายใน (Internal anal sphincter) ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อเรียบที่เราไม่สามารถควบคุมการทำงานได้ และชั้นหูรูดภายนอก (External anal sphincter) ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อลายที่เราสามารถควบคุมการบีบหดตัวได้เมื่อตอนจะขับถ่ายนั่นเอง และบริเวณทวารหนักจะมีต่อมผลิตเมือก (Anal glands) เพื่อช่วยหล่อลื่นในขณะขับถ่าย ต่อมเหล่านี้จะมีทั้งชนิดที่อยู่ในชั้นใต้เยื่อเมือกบุผิวและของชั้นกล้ามเนื้อหูรูด โดยต่อมจะอยู่ตรงบริเวณรอยต่อระหว่างลำไส้ตรงและทวารหนัก (Dentate line)

ฝีคัณฑสูตร (Anal fistula หรือ Fistula in ano) คือ โรคที่เกิดทางทะลุ (Fistula) ซึ่งเชื่อมต่อจากรูเปิดที่เยื่อบุในทวารหนักมายังรูเปิดที่ผิวหนังบริเวณรอบปากทวารหนัก โดยอาจเป็นภาวะแทรกซ้อนตามหลังการแตกของฝีในบริเวณทวารหนัก (Anorectal abscess*) หรือเกิดจากการบาดเจ็บของทวารหนัก ฯลฯ ทำให้มีอาการหนองหรือน้ำเหลืองไหลซึมเรื้อรังร่วมกับอาการคันและปวดเจ็บรอบปากทวารหนัก ส่วนการรักษาต้องอาศัยการผ่าตัดเพียงอย่างเดียวจึงจะช่วยให้หายขาดได้

ฝีคัณฑสูตรเป็นโรคที่พบได้ในคนทุกเชื้อชาติ โดยมีอัตราการเกิดโรคประมาณ 9 รายต่อประชากร 1 แสนคน พบได้ทั้งในเพศชายและเพศหญิง แต่อัตราส่วนในเพศชายจะพบได้มากกว่าประมาณ 2-3 เท่า และผู้ป่วยส่วนใหญ่จะอยู่ในวัยกลางคนไปจนถึงวัยสูงอายุระหว่างอายุ 30-50 ปี

หมายเหตุ : ฝีในบริเวณทวารหนัก (Anorectal abscess) บางครั้งเรียกว่า “ฝีคัณฑสูตรเฉียบพลัน” โดยเป็นผลมาจากการอักเสบของต่อมผลิตเมือกในช่องทวารหนัก (Anal gland) ซึ่งมักเป็นซ้ำซ้อนและกลายเป็น “ฝีคัณฑสูตรเรื้อรัง” (Fistula in ano) หรือ “ฝีคัณฑสูตร” ตามความหมายของบทความนี้

สาเหตุการเกิดฝีคัณฑสูตร

สาเหตุหลักเกิดจากการแตกของฝีในบริเวณทวารหนัก (Anorectal abscess) โดยจะเริ่มจากต่อมผลิตเมือกของทวารหนักเกิดการอุดตัน จึงทำให้มีโอกาสเกิดการติดเชื้อตามมา เมื่อติดเชื้อก็จะเกิดการอักเสบและพัฒนาเป็นฝีหนองในที่สุด ซึ่งหนองที่มีปริมาณมากขึ้นจะค่อย ๆ กัดเซาะไปตามชั้นของกล้ามเนื้อของทวารหนัก ชั้นของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง และชั้นของผิวหนังที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ทวารหนัก จนกระทั่งแตกทะลุออกสู่ภายนอก (อาจแตกเองหรือไม่แตกเองก็ได้) กลายเป็นทางเชื่อมต่อระหว่างรูเปิดในทวารหนักกับผิวหนังรอบปากทวารหนัก เรียกว่า ทางทะลุ หรือ ลำราง (Fistula)

นอกจากสาเหตุหลักดังที่กล่าวมาแล้ว ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดทางทะลุได้ด้วยเช่นกัน ได้แก่

ชนิดของฝีคัณฑสูตร

ฝีคัณฑสูตรแบ่งออกเป็น 4 ชนิด โดยแบ่งตามเส้นทางการทะลุ ซึ่งจัดแบ่งโดยศัลยแพทย์ชาวอังกฤษ ชื่อ A. G. Parks จึงเรียกการแบ่งชนิดนี้ว่า Park’s classification of Anorectal fistulas

ฝีคัณฑสูตรอาการ
IMAGE SOURCE : www.radiologyassistant.nl

อาการของฝีคัณฑสูตร

ผู้ป่วยจะมีอาการปวดและบวมบริเวณรอบปากทวารหนักอยู่ตลอดเวลา มีอาการหนองไหลหรือน้ำเหลืองไหลซึมออกจากรูเปิดที่ผิวหนังแบบเรื้อรัง (บางครั้งอาจมีเลือดปน) ร่วมกับมีอาการคันรอบ ๆ รูนี้ได้ด้วย และผิวหนังรอบ ๆ รูเปิด อาจเกิดการอักเสบแดง

ในบางครั้งช่องทางเชื่อมต่อหรือทางทะลุนั้นอาจเกิดการอุดตันและติดเชื้อขึ้นมาได้ โดยจะทำให้เกิดเป็นฝีหนอง ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการบวมและปวดมากที่บริเวณแก้มก้นหรือรอบปากทวารหนัก หรืออาจมีอาการปวดข้างในทวารหนัก และมักมีไข้ร่วมด้วย ฝีหนองเหล่านี้ในที่สุดก็จะเซาะออกสู่ภายนอกผ่านทางผิวหนังบริเวณใกล้ปากทวารหนัก ซึ่งอาจเป็นการเซาะตามรูเดิมหรือเซาะไปตามทางใหม่ก็ได้ ดังนั้น ในผู้ป่วยบางรายจึงอาจมีทางทะลุได้หลายทาง แต่ส่วนใหญ่แล้วจะมีรูเปิดด้านในทวารหนักเพียงรูเดียว

อาการฝีคัณฑสูตร
IMAGE SOURCE : www.colorectal.com.hk, www.myvmc.com, draamir.com, The Association for Surgical Education

ภาวะแทรกซ้อนของฝีคัณฑสูตร

การวินิจฉัยโรคฝีคัณฑสูตร

แพทย์สามารถวินิจฉัยได้จากการตรวจร่างกาย (สังเกตหารูเปิดหรือตุ่มนูนเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆ รอบปากทวารหนัก มีอาการคัน ๆ เจ็บ ๆ มีน้ำเหลืองซึม บางครั้งพบการอักเสบบวมแดงและมีหนองออก เป็น ๆ หาย ๆ และผู้ป่วยอาจมีประวัติเป็นฝีในบริเวณทวารหนักมาก่อน) การตรวจหาน้ำเหลืองที่ไหลซึมออกมาร่วมกับการสอดนิ้วมือเข้าไปตรวจภายในทวารหนักเพื่อหารูเปิดในของทวารหนักและทิศทางของทางทะลุ (การกดและรูดช่องทวารหนักอาจช่วยให้น้ำเหลืองไหลซึมออกมาให้สังเกตได้ง่ายขึ้น)

การรักษาฝีคัณฑสูตร
IMAGE SOURCE : draamir.com (Fistulography)

แต่ถ้าตรวจหารูเปิดในทวารหนักไม่เจอ หรือมีรูเปิดภายนอกที่บริเวณผิวหนังหลายรู หรือเป็นผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาแล้วกลับมาเป็นใหม่อีก อาจต้องอาศัยการตรวจพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติม ได้แก่ การฉีดสีเข้าในรูและถ่ายเอกซเรย์ในท่าต่าง ๆ, การใช้หัวเครื่องตรวจอัลตราซาวนด์สอดเข้าไปในรูทวารแล้วตรวจดู, การส่องกล้องตรวจ, การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์, การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เป็นต้น

วิธีรักษาฝีคัณฑสูตร

วิธีป้องกันฝีคัณฑสูตร

  1. สิ่งสำคัญที่สุดคือการป้องกันไม่ให้เกิดแผลบริเวณปากทวารหนักจากสาเหตุต่าง ๆ ดังที่กล่าวมาแล้ว เช่น การระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุบริเวณทวารหนัก การป้องกันการเกิดแผลปริที่ปากทวารหนัก และป้องกันการติดเชื้อต่าง ๆ (เช่น เชื้อเอชไอวี ซิฟิลิส วัณโรค และการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด) เป็นต้น
  2. หลังถ่ายอุจจาระควรใช้ทิชชูที่อ่อนนุ่มในการทำความสะอาด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแผลบริเวณปากทวารหนัก
  3. รักษาความสะอาดบริเวณปากทวารหนักอยู่เสมอ และหลังถ่ายอุจจาระควรล้างให้สะอาดทุกครั้ง เพื่อป้องกันการติดเชื้อในบริเวณปากทวารหนัก
  1. ดื่มน้ำสะอาดให้ได้อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว รับประทานผักและผลไม้ให้มาก ๆ เพื่อป้องกันอาการท้องผูก เพราะการเบ่งถ่ายอุจจาระเป็นเวลานาน ๆ อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดแผลบริเวณปากทวารหนักได้
  2. เมื่อมีแผลที่บริเวณปากทวารหนัก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ควรปล่อยไว้ให้เกิดเป็นแผลเรื้อรังจนกลายเป็นฝีหนอง
  3. รักษาสุขอนามัยพื้นฐานตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติ 10 ประการ เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรงและลดโอกาสการติดเชื้อต่าง ๆ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2.  “ฝีคัณฑสูตร (Fistula in ano)”.  (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).  หน้า 555.
  2. หาหมอดอทคอม.  “ฝีคัณฑสูตร (Anal fistula)”.  (พญ.สลิล ศิริอุดมภาส).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : haamor.com.  [14 ส.ค. 2016].
  3. ราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย.  “Anorectal Abscess and Fistula In Ano”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.rcst.or.th.  [15 ส.ค. 2016].
  4. โรงพยาบาลพญาไท.  “ฝีคัณฑสูตร…รักษาหายขาดได้”.  (รศ.นพ.บรรลือ เฉลยกิตติ).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.phyathai.com.  [15 ส.ค. 2016].
  5. หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5.  “คนทีเขมา”, “เจตมูลเพลิงขาว” และ “หลิว”.  (ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม).  หน้า 202-203, 230-232 และ 822-823.

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 โรคฝีคัณฑสูตร
  • 2 สาเหตุการเกิดฝีคัณฑสูตร
  • 3 ชนิดของฝีคัณฑสูตร
  • 4 อาการของฝีคัณฑสูตร
  • 5 ภาวะแทรกซ้อนของฝีคัณฑสูตร
  • 6 การวินิจฉัยโรคฝีคัณฑสูตร
  • 7 วิธีรักษาฝีคัณฑสูตร
  • 8 วิธีป้องกันฝีคัณฑสูตร
  • 9 เรื่องที่เกี่ยวข้อง
  • 10 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ