ฝีกับสิวต่างกันอย่างไร

ฝีและสิว เป็นปัญหาผิวหนังที่พบได้บ่อยและมีลักษณะคล้ายกันมาก หลายคนมักคิดว่าตุ่มนูนแดงหรือตุ่มนูนหัวสีขาวที่ขึ้นตามร่างกายคือสิว แต่แท้จริงแล้วมีความเป็นไปได้ที่ตุ่มลักษณะนี้จะเป็นฝีได้เช่นกัน ซึ่งหากรู้วิธีสังเกตความแตกต่างระหว่างฝีและสิวจะช่วยให้รักษาได้ตรงจุดยิ่งขึ้น ที่สำคัญ ปัญหาผิวหนังทั้ง 2 ชนิดนี้ หากมีอาการไม่รุนแรง อาจรักษาเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง

ฝี

ฝีและสิวคืออะไร แตกต่างกันอย่างไร

ฝี คือตุ่มหนองอักเสบที่มักมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เกิดขึ้นได้ทั้งกับอวัยวะภายนอกและอวัยวะภายในร่างกาย ฝีที่ผิวหนังในระยะแรกมักเป็นตุ่มนูนแดง สัมผัสแล้วเจ็บปวด จากนั้นตุ่มจะค่อย ๆ นิ่ม ขยายใหญ่ และทำให้รู้สึกเจ็บมากขึ้น โดยอาจมีขนาดใหญ่ประมาณครึ่งนิ้ว รวมถึงเริ่มมีหนองสะสมภายในจนเห็นเป็นหัวสีขาวด้านบนตุ่ม การอักเสบอาจรุนแรงจนทำให้ผิวหนังรอบฝีอักเสบไปด้วย เกิดฝีขึ้นใหม่รอบฝีเดิม ต่อมน้ำเหลืองตามร่างกายบวม หรือมีไข้ได้

สิว คือรูขุมขนที่เกิดการอุดตันจากไขมันหรือเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว บางครั้งอาจมีการอักเสบร่วมด้วย มักพบตามใบหน้า คอ หน้าอก หลัง หรือไหล่ มีหลายประเภท ทั้งสิวอุดตัน และสิวอักเสบ โดยสิวที่อักเสบรุนแรงและมีขนาดใหญ่อาจเป็นสิวซีสต์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายฝี

โดยทั่วไปฝีจะมีขนาดใหญ่ บวมแดง และทำให้รู้สึกเจ็บมากกว่าสิว ทั้งนี้ ฝี สิวหัวหนอง และสิวซีสต์นั้นเกิดจากการอักเสบของรูขุมขนและมีหนองอยู่ภายในเหมือนกัน ทำให้มีลักษณะคล้ายกันมากจนสังเกตความแตกต่างได้ยาก ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางผิวหนังชนิดใด หากมีอาการรุนแรงหรือรักษาด้วยตนเองในเบื้องต้นแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา และหลีกเลี่ยงการบีบสิวหรือฝีเพื่อระบายหนองออกด้วยตนเอง

การรักษาฝีในเบื้องต้น

แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยที่มีฝีอักเสบรุนแรงรับประทานยาปฏิชีวนะหรือผ่าระบายหนอง แต่ฝีที่มีขนาดเล็กและอักเสบไม่รุนแรงอาจรักษาได้ด้วยตนเองโดยใช้การแช่น้ำอุ่นหรือประคบร้อนวันละ 3-4 ครั้ง ครั้งละประมาณ 20 นาที เพื่อกระตุ้นการหมุนเวียนโลหิตบริเวณผิวที่อักเสบ และช่วยให้สารภูมิต้านทานและเม็ดเลือดขาวเข้ามาในบริเวณดังกล่าวมากขึ้น เพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรียต้นเหตุของการอักเสบ

การรักษาสิวในเบื้องต้น

สิวที่มีอาการอักเสบไม่รุนแรงอาจรักษาได้ด้วยตนเองโดยใช้สมุนไพร ยาหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ภายใต้คำแนะนำจากเภสัชกร เช่น

ป้องกันฝีได้อย่างไร

ฝีเป็นปัญหาผิวหนังที่ติดต่อกันได้ แต่ก็ป้องกันได้โดยหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดฝีหรือติดฝีจากผู้อื่น รวมถึงหมั่นรักษาความสะอาดของร่างกาย ดังนี้

ป้องกันสิวได้อย่างไร

สิวต่างกับฝีตรงที่ติดต่อสู่ผู้อื่นไม่ได้ การป้องกันสิวจึงทำได้ด้วยการรักษาความสะอาดของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า และหลีกเลี่ยงไขมันอุดตันรูขุมขน ดังนี้