นิ่วท่อไต อาการ สาเหตุ และการรักษาโรคนิ่วในท่อไต 7 วิธี

นิ่วในท่อไต

นิ่วในท่อไต นิ่วท่อไต หรือ นิ่วที่ท่อไต (Ureteric stone, Ureteral stone, Ureteric calculi, Kidney Stone in Ureter) เป็นก้อนนิ่วขนาดเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นที่ไตแล้วตกลงมาอยู่ในท่อไต ซึ่งเป็นอวัยวะที่อยู่ต่อจากไต เป็นเหตุให้ท่อไตเกิดการบีบตัวเพื่อขับนิ่วออก ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดท้องรุนแรง

โรคนี้เป็นโรคที่พบได้ค่อนข้างบ่อยในคนทั่วไป โดยพบได้ประมาณ 10% ของประชากรทั่วโลก และเนื่องจากเป็นโรคที่สืบเนื่องจากนิ่วในไต จึงมักพบนิ่วในท่อไตได้ในผู้ใหญ่ช่วงอายุ 30-40 ปี และพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 2-3 เท่า โดยเฉพาะคนทางภาคเหนือและภาคอีสาน เช่นเดียวกับโรคนิ่วในไต

ท่อไต (Ureter) เป็นอวัยวะที่มีหน้าที่นำส่งน้ำปัสสาวะจากไตเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ โดยเป็นอวัยวะคู่ที่มีทั้งท่อไตด้านซ้ายและท่อไตด้านขวา มีลักษณะเป็นท่อขนาดเล็กขนาบอยู่ด้านข้างของกระดูกสันหลังช่วงเอวทั้งซ้ายและขวา มีความยาวประมาณ 25-30 เซนติเมตร และมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3-5 มิลลิเมตร ผนังของท่อเป็นเยื่อเมือกและกล้ามเนื้อ เพื่อบีบตัวช่วยการเคลื่อนตัวของน้ำปัสสาวะจากไตสู่กระเพาะปัสสาวะ

นิ่วในท่อไตส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็กกว่า 5 มิลลิเมตร แต่อาจพบก้อนที่มีขนาดใหญ่กว่า 1 เซนติเมตรได้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วนิ่วในท่อไตถ้ามีขนาดประมาณ 1 มิลลิเมตร จะมีโอกาสหลุดออกมาได้เองกับน้ำปัสสาวะประมาณ 87% ถ้าก้อนนิ่วมีขนาด 2-4 มิลลิเมตร, 5-7 มิลลิเมตร, 7-9 มิลลิเมตร และมีขนาดใหญ่กว่า 9 มิลลิเมตร ก็จะมีโอกาสหลุดออกมาได้เองกับน้ำปัสสาวะประมาณ 76%, 60%, 58% และ 25% ตามลำดับ ซึ่งนอกจากขนาดของก้อนนิ่วแล้ว โอกาสที่นิ่วจะหลุดออกมาเองได้ยังขึ้นอยู่กับตำแหน่งด้วย โดยก้อนนิ่วที่อยู่บริเวณส่วนปลายท่อไตจะหลุดออกมาได้ง่ายกว่าก้อนนิ่วที่อยู่บริเวณส่วนต้นหรือส่วนกลางของท่อไตท่อไต

สาเหตุของนิ่วในท่อไต

เนื่องจากนิ่วในท่อไตเป็นก้อนนิ่วที่หล่นมานิ่วในไต ดังนั้นชนิดของนิ่วจึงเป็นเช่นเดียวกับนิ่วในไต* กล่าวคือ ส่วนใหญ่ประมาณ 75-80% จะเป็นนิ่วแคลเซียมออกซาเลต (Calcium oxalate stones), เป็นนิ่วสตรูไวท์ (Struvite stones) ซึ่งเป็นสารประกอบของแอมโมเนียม แมกนีเซียม และฟอสเฟต ประมาณ 15%, เป็นนิ่วกรดยูริก (Uric acid stones) ประมาณ 6% และเป็นนิ่วซีสทีน (Cystine stones) ประมาณ 2%

กลไกการเกิดนิ่วเหล่านี้ คือ การตกตะกอนของสารเหล่านี้แบบเรื้อรังจนในที่สุดรวมตัวกันเป็นก้อนนิ่ว ซึ่งสาเหตุที่ทำให้สารเหล่านี้ตกตะกอนเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น การมีสารเหล่านี้เข้มข้นในปัสสาวะผิดปกติ (เช่น จากการดื่มน้ำน้อย การอยู่ในสถานที่ร้อนทำให้ร่างกายเสียเหงื่อและขาดน้ำ การรับประทานอาหารที่มีสารก่อนิ่วในปริมาณสูงอย่างต่อเนื่อง ความเครียด การใช้ยาบางชนิด), การอุดกั้นทางเดินปัสสาวะ ซึ่งทำให้ปัสสาวะแช่ค้างอยู่นานในไต (เช่น ท่อปัสสาวะตีบมาแต่กำเนิด ท่อปัสสาวะตีบจากท่อปัสสาวะอักเสบติดเชื้อเรื้อรัง), ผู้ป่วยโรคเกาต์ (ทำให้กรดยูริกในเลือดสูง), ผู้ป่วยต่อมพาราไทรอยด์ทำงานเกิน (ทำให้แคลเซียมในเลือดสูง), การติดเชื้อเรื้อรังในทางเดินปัสสาวะ, พันธุกรรม (พบโรคนี้ในคนที่มีประวัติครอบครัวเป็นนิ่วในไตสูงกว่าคนในครอบครัวปกติ 2.5 เท่า), เพศชาย (ผลจากฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่เพิ่มการสร้างออกซาเลตในตับ), วัยผู้ใหญ่ช่วงอายุ 30-60 ปี (ในเด็กจะมีปริมาณของสารยับยั้งการเกิดนิ่วในปัสสาวะสูงกว่าผู้ใหญ่), ความอ้วน (BMI สูงเกินค่ามาตรฐาน) ฯลฯ

นิ่วในท่อไตคือ

หมายเหตุ : ภาพประกอบของนิ่วแต่ละชนิดและสาเหตุของการเกิดนิ่วสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่บทความ นิ่วในไต

อาการของนิ่วในท่อไต

ถ้าก้อนนิ่วยังมีขนาดเล็ก ผู้ป่วยจะไม่มีอาการแสดง และนิ่วมักจะหลุดออกมาทางปัสสาวะได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่เมื่อก้อนนิ่วมีขนาดใหญ่ขึ้น หรือเมื่อมีการติดเชื้อในไตหรือในกระเพาะปัสสาวะ ก็จะส่งผลให้ท่อไตอักเสบบวม รูท่อไตจึงหรือตีบแคบลง จึงง่ายที่ก้อนนิ่วจะติดค้างอยู่ภายในท่อไต ซึ่งอาการที่พบได้บ่อยของโรคนี้ คือ

การวินิจฉัยโรคนิ่วในท่อไต

แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคนี้ได้จากประวัติอาการ ประวัติการเคยเป็นโรคนิ่วในไตหรือในท่อปัสสาวะ หรือปัสสาวะมีก้อนนิ่วปนออกมา จากการตรวจร่างกาย การตรวจปัสสาวะ (พบว่ามีเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ) การตรวจไต หลอดไต ด้วยการเอกซเรย์หรืออัลตราซาวนด์ และอาจมีการตรวจพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ เช่น การส่องกล้องตรวจทางเดินปัสสาวะ เป็นต้น

อาการนิ่วในท่อไต

ในผู้ป่วยนิ่วในท่อไต แพทย์มักจะไม่พบสิ่งผิดปกติ บางรายอาจพบว่า กล้ามเนื้อหน้าท้องและหลังมีอาการเกร็งตัว หรือมีอาการกดเจ็บเล็กน้อยตรงบริเวณที่ปวด

อนึ่ง อาการของโรคนิ่วในท่อไตมักคล้ายคลึงกับการปวดท้องจากหลายสาเหตุ เช่น

ภาวะแทรกซ้อนของนิ่วในท่อไต

ถ้าก้อนนิ่วมีขนาดใหญ่และหลุดออกเองไม่ได้ นอกจากจะทำให้มีอาการปวดท้อง เป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรังแล้ว หากปล่อยทิ้งไว้ยังอาจทำให้มีการติดเชื้ออักเสบของทางเดินปัสสาวะ รวมทั้งไตอักเสบเรื้อรัง และอาจนำไปสู่ภาวะไตวายพิการได้ ดังนั้น นิ่วในท่อไตที่มีขนาดใหญ่ จำเป็นต้องรีบรักษาให้หายขาดก่อนที่จะเกิดอันตรายร้ายแรง

วิธีรักษานิ่วในท่อไต

แนวทางการรักษาโรคนิ่วในท่อไตจะขึ้นอยู่กับขนาดของก้อนนิ่ว การที่ผู้ป่วยมีการติดเชื้อร่วมด้วย และโรคของไต เช่น เมื่อมีไตบวมร่วมด้วย

วิธีป้องกันนิ่วในท่อไต

โดยทั่วไปนิ่วในท่อไตเป็นโรคที่ไม่รุนแรงและรักษาให้หายได้ แต่ก็อาจมีอาการกำเริบได้อีก ดังนั้น จึงควรปรับสมดุลของอาหารการกินให้เหมาะสม คือ การรับประทานอาหารที่มีความหลากหลาย และลดอาหารที่มีสารก่อนิ่ว ร่วมกับการดื่มน้ำให้มาก ๆ อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2.  “นิ่วท่อไต (Ureteric stone/Ureteral stone)”.  (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).  หน้า 857-858.
  2. หาหมอดอทคอม.  “นิ่วในท่อไต (Ureteric stone)”.  (ศ.เกียรติคุณ พญ.พวงทอง ไกรพิบูลย์).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : haamor.com.  [02 ก.ค. 2016].
  3. มูลนิธิหมอชาวบ้าน. นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่ 182 คอลัมน์ : แนะยา-แจงโรค.  “นิ่วในท่อไต”.  (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.doctor.or.th.  [02 ก.ค. 2016].

ภาพประกอบ : www.webmd.com, www.kidneystoner.org, www.consultant360.com, www.consultant360.com, medchrome.com, lifeinthefastlane.com, www.westchesterurology.com, www.urologistindia.com, www.urology-textbook.com

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 นิ่วในท่อไต
  • 2 สาเหตุของนิ่วในท่อไต
  • 3 อาการของนิ่วในท่อไต
  • 4 การวินิจฉัยโรคนิ่วในท่อไต
  • 5 ภาวะแทรกซ้อนของนิ่วในท่อไต
  • 6 วิธีรักษานิ่วในท่อไต
  • 7 วิธีป้องกันนิ่วในท่อไต
  • 8 เรื่องที่เกี่ยวข้อง
  • 9 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ