on
ซิฟิลิส พิษที่แฝง (ตอนที่ 3)
16 ธันวาคม 2015
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคซิฟิลิส ได้แก่
- การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
- มีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนหลายคน
- การมีรักร่วมเพศของผู้ชาย
- การติดเชื้อไวรัสเฮชไอวี (Human immunodeficiency virus = HIV)
โรคซิฟิลิสสามารถตรวจพบได้ด้วยวิธีการตรวจจาก
- เลือด (Blood) ซึ่งหากแสดงผลเป็น
- ผลบวก (Positive result) แสดงว่า กำลังติดเชื้อหรือเคยติดเชื้อมาก่อน
- ผลลบ (Negative result) ไม่ได้หมายความทีเดียวว่าจะไม่ติดเชื้อ ทั้งนี้เพราะเชื้อจะสามารถตรวจพบได้หลังการติดเชื้อ 3 เดือน ดังนั้นจึงควรทำการตรวจเลือดซ้ำหลัง 3 เดือนแล้ว
- ของเหลวจากแผล (Fluid from sores) โดยการนำตัวอย่างเซลล์จากแผลไปทดสอบในห้องแล้ป ซึ่งวิธีนี้ใช้กับการเป็นระยะที่ 1 หรือ 2 ที่มีแผลปรากฏเท่านั้น
- น้ำไขสันหลัง (Cerebrospinal fluid = CSF) ด้วยการเจาะไขสันหลัง
สำหรับหญิงมีครรภ์ ปกติจะให้มีการตรวจหาเชื้อในสัปดาห์ที่ 11-20 ของการตั้งครรภ์ หากไม่รีบทำการรักษา ทารกอาจติดเชื้อโดยไม่แสดงอาการในระยะแรก แต่จะออกอาการรุนแรงใน 2-3 สัปดาห์ถัดมา ทำให้เด็กมีพัฒนาการช้า ชัก หรือเสียชีวิตได้
ในส่วนของการรักษานั้น สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) อย่าง
- ยาเพนนิซิลิน (Penicillin)
- ยาดอกซีไซคลิน (Doxycycline)
- ยาเตตราไซคลีน (Tetracycline)
ซึ่งหากมีการติดเชื้อมาน้อยกว่า 1 ปี การให้ยาเพนนิซิลินเพียงขนานเดียว (Single dose) ก็มักจะทำลายเชื้อได้ ส่วนผู้ที่แพ้ยาเพนนิซิลินก็สามารถให้ยาปฏิชีวนะชนิดอื่นแทน แต่ถ้าเป็นในระยะอื่นอาจต้องเพิ่มปริมาณยาให้มากขึ้น
โดยระยะเวลาในการรักษานั้นขึ้นกับความรุนแรงของโรคและปัจจัยอื่นอย่างสุขภาพโดยรวมของผู้ติดเชื้อ
สำหรับการรักษาโรคซิฟิลิสระหว่างการตั้งครรภ์นั้น มักให้ยาเพนนิซิลินเป็นหลัก ห้ามใช้ยาเตตราไซคลีนเพราะจะเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ ส่วนยาอิริโทรมัยซิน (Erythromycin) นั้นไม่สามารถป้องกันโรคซิฟิลิสโดยกำเนิดได้
บรรณานุกรม
1. Syphilis. [2015,December 15].
2. Syphilis. [2015,December 15].
3. Syphilis.[2015,December 15].
4. Syphilis – primary. [2015,December 15].