ชุมเห็ดเทศ สรรพคุณและประโยชน์ของต้นชุมเห็ดเทศ 49 ข้อ

ชุมเห็ดเทศ

ชุมเห็ดเทศ ชื่อสามัญ Acapulo, Candelabra bush, Candle bush, Candlestick senna, Christmas candle, Empress candle plant, Impetigo bush, Ringworm bush, Ringworm senna, Ringworm shru, Seven golden candlestick[1],[2],[4],[6],[7],[8],[11]

ชุมเห็ดเทศ ชื่อวิทยาศาสตร์ Senna alata (L.) Roxb. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Cassia alata L., Cassia bracteata L.f., Herpetica alata (L.) Raf.) จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) และอยู่ในวงศ์ย่อยราชพฤกษ์ (CAESALPINIOIDEAE หรือ CAESALPINIACEAE)[1],[2],[4],[6],[7],[8],[11]

สมุนไพรชุมเห็ดเทศ มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ส้มเห็ด (เชียงราย), จุมเห็ด (มหาสารคาม), ขี้คาก ลับมืนหลวง[1] ลับหมื่นหลวง[3] ลับมืนหลาว[4] หญ้าเล็บมือหลวง หมากกะลิงเทศ (ภาคเหนือ), ชุมเห็ด ชุมเห็ดใหญ่ ชุมเห็ดเทศ (ภาคกลาง), ตะสีพอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), ตุ๊ยเฮียะเต่า ฮุยจิวบักทง (จีน), ตุ้ยเย่โต้ว (จีนกลาง) เป็นต้น[1],[3],[4],[5],[9]

ลักษณะของชุมเห็ดเทศ

ต้นชุมเห็ดเทศ

รูปต้นชุมเห็ดเทศ

ใบชุมเห็ดเทศ

สมุนไพรชุมเห็ดเทศ

รูปชุมเห็ดเทศ

ดอกชุมเห็ดเทศ

ลักษณะชุมเห็ดเทศ

ผลชุมเห็ดเทศ

ฝักชุมเห็ดเทศ

สรรพคุณของชุมเห็ดเทศ

  1. รากชุมเห็ดเทศใช้ผสมยาบำรุงธาตุ (ราก)[4]
  2. ใช้ใบชาชุมเห็ดเทศนำมาชงกับน้ำดื่มเป็นยาบำรุงหัวใจ (ใบ)[12]
  3. ช่วยทำให้เจริญอาหาร (ราก)[4]
  4. หากดื่มยาชงจากชุมเห็ดเทศเป็นประจำจะช่วยลดไขมันในเส้นเลือดได้ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[12]
  5. ชาชุมเห็ดเทศใช้ชงกับน้ำดื่ม สามารถช่วยลดความดันโลหิตได้ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[12]
  6. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ด้วยการใช้ใบสดหรือแห้งประมาณ 1 กำมือ นำมาต้มกับน้ำ 3 แก้ว เคี่ยวนาน 30 นาที ใช้แบ่งน้ำมาดื่มก่อนอาหารเช้าและเย็น หรือจะใช้ชงเป็นชาดื่มต่างน้ำวันละ 3 เวลาก่อนอาหาร เป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดลดเป็นปกติดีแล้วก็ให้ต้มใบยอดื่มอีก 3 สัปดาห์ ก็จะหายขาดจากโรคเบาหวาน (ใบ)[12],[13]
  7. ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ (เมล็ด)[1],[5]
  8. ช่วยแก้เส้นประสาทอักเสบ (ใบ)[4],[6]
  9. ช่วยทำให้หัวใจเต้นเป็นปกติ (ใบ, ราก, ต้น)[4],[6]
  10. เมล็ดช่วยแก้ตานซาง ถ่ายพิษตานซาง ด้วยการใช้เมล็ดแห้งประมาณ 3-5 กรัม นำมาบดเป็นผงผสมกับน้ำผึ้งรับประทานตอนท้องว่าง (เมล็ด[1],[3],[5], ทั้งต้น[4])
  1. ช่วยรักษาโรคตาเหลือง (ราก)[4]
  2. ช่วยแก้ดีซ่าน (ทั้งต้น)[4]
  3. ช่วยแก้กษัยเส้น (ใบ, ราก, ต้น)[4],[6]
  4. ใบและดอกนำมาต้มกับน้ำรับประทานเป็นยาแก้หืด (ใบและดอก)[1],[5]
  5. รากและทั้งต้นเป็นยาถ่ายเสมหะ (ราก, ทั้งต้น)[4],[13]
  6. ใบมีกลิ่นฉุน นำมาต้มกับน้ำใช้เป็นยาอมบ้วนปาก (ใบ)[4],[6]
  7. ใบและดอกนำมาต้มกับน้ำรับประทานเป็นยาขับเสมหะในรายที่หลอดลมอักเสบ (ใบและดอก)[1],[5]
  8. ช่วยแก้อาการท้องขึ้น (อาการท้องอืดท้องเฟ้อเพราะลมในกระเพาะอาหารเฟ้อขึ้น) (เมล็ด)[1],[5]
  9. เปลือกต้นเป็นยาสมานท้อง (เปลือกต้น)[13]
  10. ตำรายาไทยใช้ใบและดอกเป็นยาถ่าย ยาระบาย ช่วยแก้อาการท้องผูก ช่วยกระตุ้นทำให้ลำไส้ใหญ่บีบตัวได้ดีขึ้น (ใบอ่อนจะมีฤทธิ์มากกว่าใบแก่ และหากไม่นำใบมาคั่วเสียก่อนจะเกิดผลข้างเคียงได้ คืออาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เมื่อคั่วจนร้อนแล้วจะทำให้สารที่มีฤทธิ์ทำให้มีอาการอาเจียนสลายไปได้) (ใบ, ดอก)[1],[2],[3],[4],[5],[6],[7],[11],[13]
    • ใช้ใบสดหรือแห้งครั้งละ 12 ใบนำมาต้มกับน้ำพอสมควร ใช้ดื่มครั้งเดียวก่อนอาหารตอนเช้ามืดหรือช่วงก่อนนอน
    • ใช้ใบนำมาชงกับน้ำเดือด 120 มิลลิลิตรเป็นเวลา 10 นาที แล้วดื่มก่อนเข้านอน
    • ใช้ใบสด 12 ใบ ล้างน้ำให้สะอาด นำมาหั่นตากแห้งหรือปิ้งกับไฟให้เหลือง ก่อนนำมาต้มหรือชงกับน้ำดื่มครั้งละ 1 ถ้วยแก้ว เติมเกลือเล็กน้อยแล้วดื่มครั้งเดียวให้หมด
    • ใช้ใบแห้งบดเป็นผง ปั้นทำเป็นยาลูกกลอนขนาดเท่าปลายนิ้วก้อยรับประทานครั้งละ 3 เม็ด ก่อนนอนหรือเมื่อมีอาการท้องผูก
    • ใช้ดอกสด 1 ช่อ นำมาต้มกับน้ำกิน หรือจะใช้ช่อดอกประมาณ 1-3 ช่อ (แล้วแต่ธาตุหนักธาตุเบาของแต่ละคน) นำมาต้มหรือลวกรับประทานเป็นผักจิ้ม
    • ส่วนยาชงจากใบที่บรรจุในซองในขนาด 3 กรัมต่อซอง ให้ใช้ครั้งละ 1-2 ซอง นำมาชงกับน้ำเดือน 120 มิลลิลิตรต่อซอง นาน 10 นาที ใช้ดื่มวันละ 1 ครั้งก่อนนอน
    • ใช้เมล็ดนำมาคั่วให้เหลืองใช้ชงกับน้ำดื่มเป็นชา มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ
    • นอกจากนี้เปลือกต้น ราก และผลก็มีสรรพคุณเป็นยาระบายท้องเช่นกัน (เปลือกต้น, ราก, ผล)[1],[4],[5],[13] ส่วนต้น ราก ใบ ดอก และเมล็ดใช้เป็นยารักษาอาการท้องผูก (ต้น, ราก, ใบ, ดอก, เมล็ด)[4],[9],[13]
  11. ช่วยสมานธาตุ รักษากระเพาะปัสสาวะอักเสบ (ใบ)[4],[6]
  12. เมล็ดมีกลิ่นเหม็นเบื่อ รสเอียนเล็กน้อย ใช้เป็นยาขับพยาธิในลำไส้ ด้วยการใช้เมล็ดประมาณ 3-5 กรัมนำมาบดเป็นผงผสมกับน้ำผึ้งรับประทานตอนท้องว่าง (เมล็ด[1],[3],[4],[5], ต้น[4], ทั้งต้น[4],[13]) ส่วนผลหรือฝักมีรสเอียนเบื่อ ใช้เป็นยาแก้พยาธิ ขับพยาธิตัวตืด พยาธิไส้เดือน (ผล)[1],[4],[5],[13] ส่วนใบสดใช้เป็นยาขับพยาธิตัวตืด ด้วยการใช้ใบสดประมาณ 1 กำมือ (ประมาณ 20 กรัม) นำมาต้มกับน้ำดื่ม หรือจะใช้น้ำคั้นจากใบผสมกับน้ำปูนใสก็เป็นยาขับพยาธิเช่นกัน (ใบ)[5],[6],[9] ใช้ทั้งต้นอ่อนนำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาขับพยาธิไส้เดือน หรือจะใช้น้ำคั้นจากทั้งต้นผสมกับกรดมะนาว (Citric acid) ดื่มก็ได้ ส่วนดอกและต้นก็เป็นยาขับพยาธิไส้เดือนได้เช่นกัน (ทั้งต้นอ่อน, ต้น, ดอก)[9],[13]
  13. รากใช้เป็นยาเบื่อพยาธิ (ราก)[13]
  14. ต้น ราก ใบ หรือดอก ใช้ต้มกับน้ำดื่มแทนน้ำชาเป็นยาขับปัสสาวะ (ต้น, ราก, ใบ, ดอก)[4],[6],[9],[13]
  15. ใช้เป็นยาแก้ปัสสาวะเหลือง (ราก)[4]
  16. ใบใช้เป็นยาแก้สังคัง ด้วยการใช้ใบสด 4-5 ใบนำมาตำรวมกับกระเทียม 4-5 กลีบ เติมปูนแดงเล็กน้อยแล้วนำมาใช้ทา หรือจะใช้ใบชุมเห็ดเทศ 3 ใบ หัวกระเทียม 3 หัว และเกลือตัวผู้ 3 เม็ด นำมาตำให้ละเอียดแล้วใช้ทาบริเวณที่เป็น (ใบ)[12]
  17. ช่วยรักษาริดสีดวงทวาร (ทั้งต้น)[4]
  18. รากใช้ต้มกินเป็นยารักษาตกมูกเลือด (ราก)[4]
  19. ยาต้มหรือยาชงจากใบชุมเห็ดเทศ ยาต้มเข้มข้นช่วยเร่งคลอดหรือทำให้แท้ง (ใบ)[9]
  20. ใช้รักษาโรคเริม (ใบ)[9]
  21. เปลือกและเนื้อไม้ช่วยขับน้ำเหลืองเสีย (เปลือกและเนื้อไม้)[9]
  22. ใบใช้ผสมกับน้ำปูนใส หรือน้ำมัน หรือเกลือ ใช้ตำพอกจากการถูกแมลงสัตว์กัดต่อย (ใบ)[4],[6]
  23. เด็กชาวแอฟริกาที่ผิวหนังเป็นแผลจะใช้ใบนำมาตำผสมกับน้ำอาบและบางครั้งก็ใช้อาบเด็กแรกเกิด (ใบ)[9]
  24. ใบใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนังต่าง ๆ รักษากลากเกลื้อน ผดผื่นคัน ผิวหนังอักเสบเป็นผื่นคัน หรือมีอาการคันบริเวณหนังศีรษะ โดยมีวิธีใช้อยู่หลายวิธีด้วยกัน เช่น (ใบ)[1],[2],[3],[4],[5],[6],[7],[8],[11]
    • ให้นำใบมาต้มกับน้ำ แล้วใช้น้ำที่ต้มได้มาล้างผิวหนังบริเวณที่เป็น
    • ใช้ใบสดนำมาตำให้ละเอียดหรือขยี้ใช้ถูทาบริเวณที่เป็นนาน ๆ และบ่อย ๆ
    • ใช้ใบประมาณ 3-4 ใบนำมาตำให้ละเอียด เติมน้ำมะนาวเล็กน้อย แล้วนำมาใช้ทาวันละ 2-3 ครั้ง
    • ใช้ใบสดประมาณ 4-5 ใบนำมาตำรวมกับกระเทียม 4-5 กลีบ แล้วเติมปูนแดงเล็กน้อย ตำผสมกันแล้วนำมาทาบริเวณที่เป็นกลากหรือโรคผิวหนัง (ให้ขูดผิวบริเวณที่เป็นด้วยไม้ไผ่ที่ฆ่าเชื้อแล้วให้แดงก่อนทายา) โดยใช้ทาวันละ 3-4 ครั้ง จนกว่าจะหาย และเมื่อหายแล้วก็ให้ทาต่อไปอีก 1 สัปดาห์
    • ใช้ใบสดมาตำแช่กับเหล้า แล้วเอาส่วนของเหล้านำมาทาบริเวณที่เป็นวันละ 2-3 ครั้งจนกว่าจะหาย พบว่าได้ผลดีนัก แต่จะใช้ไม่ได้ผลกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อราที่ผมและเล็บ
    • ใช้ใบผสมกับน้ำปูนใส หรือน้ำมัน หรือเกลือ ใช้ตำพอกรักษากลากหรือโรคผิวหนัง
    • ส่วนอีกวิธีให้นำใบมาตำหรือคั้นเอาแต่น้ำผสมกับน้ำปูนใสทาหรือผสมกับวาสลิน ทำเป็นยาขี้ผึ้งทา
    • หรือจะใช้ครีมสารสกัดจากใบชุมเห็ดเทศ 95% ด้วยเอทานอลความเข้มข้น 20% นำมาทาวันละ 2-3 ครั้ง หลังอาบน้ำเช้าและเย็น ติดต่อกันทุกวันเป็นเวลา 2-4 สัปดาห์
    • นอกจากนี้ในส่วนของต้น เปลือกต้น ราก ผล เมล็ด และทั้งต้นก็มีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคผิวหนัง กลากเกลื้อนด้วยเช่นกัน (ต้น, เปลือกต้น, ราก, ผล, เมล็ด, ทั้งต้น)[4],[13]
  25. ต้นใช้เป็นยารักษาคุดทะราด (ต้น)[4]
  26. ใบและรากใช้เป็นยาฆ่าพยาธิตามผิวหนัง (ใบ, ราก)[4]
  27. ทั้งต้นมีสรรพคุณเป็นยาแก้ฝี (ทั้งต้น)[4]
  28. ใบชุมเห็ดเทศใช้ตำพอกเพื่อเร่งให้หัวฝีออกเร็วขึ้นได้ (ใบ)[4],[6]
  29. ช่วยรักษาฝี แผลพุพอง ด้วยการใช้ใบรวมก้านสด 1 กำมือ นำมาต้มกับน้ำพอท่วมแล้วเคี่ยวให้เหลือ 1 ใน 3 นำมาใช้ชะล้างฝีที่แตกแล้วหรือแผลพุพอง วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น แต่ถ้าบริเวณที่เป็นกว้างมากก็ให้ใช้ใบประมาณ 10-12 กำมือ นำมาต้มกับน้ำอาบเช้าเย็นจนกว่าจะหาย (ใบ)[6],[7]
  30. ใช้เป็นยารักษาหิดและสิว (ราก[4], ต้น[13], ดอก[13])
  31. ชาวศรีลังกาและอินเดีย ใช้เป็นยาแก้งูกัด (ทั้งต้นอ่อน)[9]
  32. ช่วยแก้อาการฟกบวม (ทั้งต้น)[4]
  33. ใช้ดอก 1 ช่อนำมาต้มกับน้ำดื่มจะช่วยทำให้ผิวหนังดีมีสีมีใย (ดอก)[4]

ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของชุมเห็ดเทศ

ข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรชุมเห็ดเทศ

ประโยชน์ของชุมเห็ดเทศ

  1. ดอกสด ยอดอ่อน สามารถนำมาต้มหรือลวกรับประทานเป็นผักจิ้มได้ โดยยอดอ่อนจะมีรสชาติขม[2]
  2. การดื่มชาชงจากชุมเห็ดเทศเป็นประจำจะช่วยลดสิว ฝ้า กระ และทำให้ผิวพรรณผ่องใสได้[12]
  3. ชาวแอฟริกาจะปลูกต้นชุมเห็ดเทศไว้รอบ ๆ บ้าน เพื่อใช้ไล่มด[9]
  4. ในอินเดียและศรีลังกาจะใช้ทั้งต้นอ่อนเป็นยาเบื่อปลา[9]
  5. ต้นชุมเห็ดเทศมีดอกสวยและมีสีสัน ดูแลได้ง่าย สามารถนำมาใช้ปลูกเป็นฉากหลังทางเดินในสวน บริเวณศาลา หรือปลูกเป็นไม้ประดับสวนหรือตามริมน้ำได้[10]
  6. ในปัจจุบันได้มีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสมุนไพรชุมเห็ดเทศออกวางจำหน่ายในท้องตลาดหลากหลายรูปแบบ เช่น ชาชง ยาแคปซูล ยาระบายอัดเม็ด หรือในรูปแบบยาทาแก้กลากเกลื้อน
เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือสมุนไพรไทย เล่ม 1.  “ชุมเห็ดเทศ (Chumhet Tet)”.  (ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, ธวัชชัย มังคละคุปต์).  หน้า 108.
  2. หนังสือสมุนไพรสวนสิรีรุกขชาติ.  (คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล).  “ชุมเห็ดเทศ Ringworm Bush”.  หน้า 75.
  3. หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีนที่ใช้บ่อยในประเทศไทย.  “ชุมเห็ดเทศ”.  (วิทยา บุญวรพัฒน์).  หน้า 208.
  4. หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5.  “ชุมเห็ดเทศ”.  (ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม).  หน้า 271-274.
  5. ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.  “ชุมเห็ดเทศ”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.phargarden.com.  [13 มี.ค. 2014].
  6. ฐานข้อมูลเครื่องยาสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.  “ชุมเห็ดเทศ”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.thaicrudedrug.com.  [13 มี.ค. 2014].
  7. สรรพคุณสมุนไพร 200 ชนิด, สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี.  “ชุมเห็ดเทศ”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.rspg.or.th/plants_data/herbs/.  [13 มี.ค. 2014].
  8. สมุนไพรที่ใช้ในงานสาธารณสุขมูลฐาน, หน่วยบริการฐานข้อมูลสมุนไพร ณ สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.  “ชุมเห็ดเทศ”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.medplant.mahidol.ac.th/pubhealth/.  [13 มี.ค. 2014].
  9. มูลนิธิหมอชาวบ้าน.  นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่ 26 คอลัมน์: สมุนไพรน่ารู้.  “ชุมเห็ดไทย/ชุมเห็ดเทศ”.  (ภก.ชัยโย ชัยชาญทิพยุทธ).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.doctor.or.th.  [13 มี.ค. 2014].
  10. ฐานข้อมูลพรรณไม้ที่ใช้ในงานภูมิสถาปัตยกรรม ศูนย์ความรู้ด้านการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.  “ชุมเห็ดเทศ”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: agkc.lib.ku.ac.th.  [13 มี.ค. 2014].
  11. สถาบันการแพทย์แผนไทย.  “ชุมเห็ดเทศ”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: ittm-old.dtam.moph.go.th.  [13 มี.ค. 2014].
  12. พืชสมุนไพร, มหาวิทยาลัยนเรศวร.  “ชุมเห็ดเทศ”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: student.nu.ac.th/tewpharmacyherb/mean.htm.  [13 มี.ค. 2014].
  13. หนังสือสมุนไพรบำบัดเบาหวาน 150 ชนิด.  “ชุมเห็ดเทศ”.  (เภสัชกรหญิง จุไรรัตน์ เกิดดอนแฝก).  หน้า 74-75.

ภาพประกอบ : www.flickr.com (by CANTIQ UNIQUE, SierraSunrise, ecollc, pennyjr, Vietnam Plants & The USA. plants, Starr Environmental, Alex Popovkin, Bahia, Brazil), เว็บไซต์ thaicrudedrug.com (by Sudarat Homhual)

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 ชุมเห็ดเทศ
  • 2 ลักษณะของชุมเห็ดเทศ
  • 3 สรรพคุณของชุมเห็ดเทศ
  • 4 ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของชุมเห็ดเทศ
  • 5 ข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรชุมเห็ดเทศ
  • 6 ประโยชน์ของชุมเห็ดเทศ
  • 7 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ