ชะมดต้น สรรพคุณและประโยชน์ของต้นชะมดต้น 39 ข้อ

ชะมดต้น

ชะมดต้น ชื่อสามัญ Abelmosk, Ambrette seeds, Annual hibiscus, Bamia moschata, Galu gasturi, Muskdana, Musk mallow, Musk okra, Musk seeds, Ornamental okra, Rose mallow seeds, Tropical jewel hibiscus, Yorka okra[1],[6]

ชะมดต้น ชื่อวิทยาศาสตร์ Abelmoschus moschatus Medik. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Abelmoschus moschatus var. betulifolius (Mast.) Hochr., Hibiscus abelmoschus L., Hibiscus abelmoschus var. betulifolius Mast., Hibiscus chinensis Roxb.) จัดอยู่ในวงศ์ชบา (MALVACEAE)[1],[3]

สมุนไพรชะมดต้น มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ชะมัดต้น, ฝ้ายผี (ภาคกลาง), เทียนชะมด (ทั่วไป), จั๊บเจี๊ยว (ไทยบางแห่ง), หวงขุย (จีนกลาง) เป็นต้น[1],[2],[3]

ลักษณะของชะมดต้น

ต้นชะมดต้น

ใบชะมดต้น

ดอกชะมดต้น

ฝ้ายผี

ผลชะมดต้น

หมายเหตุ : เมล็ดของชะมดต้นทางแพทย์แผนไทยจะเรียกว่า “เทียนชะมด[6]

เมล็ดชะมดต้น

เทียนชะมด

สรรพคุณของชะมดต้น

  1. เมล็ดมีรสขมเย็น มีสรรพคุณเป็นยาช่วยเจริญอาหาร (เมล็ด)[1]
  2. เมล็ดใช้เป็นยาบำรุงธาตุ (เมล็ด)[6]
  3. ใช้อาการปวดศีรษะ ด้วยการใช้เมล็ดประมาณ 5-10 กรัม นำมาบดให้เป็นผงชงกับน้ำดื่ม (เมล็ด)[2]
  4. น้ำมันหอมระเหยจากเมล็ดมีสรรพคุณเป็นยาระงับประสาท ช่วยคลายความเครียด ลดอาการวิตกกังวล ซึมเศร้า หรืออาการต่าง ๆ ที่มีสาเหตุมาจากความเครียด (น้ำมันหอมระเหย)[9]
  5. รากใช้เป็นยาขับพิษร้อนถอนพิษไข้ มีไข้ไม่ยอมลด ไอร้อน ไอเรื้อรัง (ราก)[2]
  1. ใช้รักษาอาการกระหาย (เมล็ด)[1]
  2. เมล็ดใช้เป็นยาขับลม (เมล็ด, น้ำมันหอมระเหย)[4],[5],[9]
  3. ดอกและรากใช้เป็นยาแก้บิดของเชื้ออะมีบา แก้อาการท้องผูก (ดอกและราก)[2]
  4. ช่วยในการย่อยอาหาร (น้ำมันหอมระเหย)[9]
  5. เมล็ดใช้เป็นยาขับลม ช่วยรักษาอาการอักเสบของกระเพาะอาหาร (เมล็ด)[1]
  6. ใช้แก้อาการปวดกระเพาะ ด้วยการใช้เมล็ดประมาณ 5-10 กรัม นำมาบดให้เป็นผงชงกับน้ำดื่ม (เมล็ด)[2]
  7. ใบใช้เป็นยาฆ่าพยาธิ ส่วนดอกใช้เป็นยารักษาโรคพยาธิและขับไส้เดือน (ใบ, ดอก)[1]
  8. ดอกและรากใช้เป็นยารักษานิ่วในทางเดินปัสสาวะ (ดอกและราก)[2]
  9. รากใช้เป็นยารักษาโรคหนองใน ส่วนเมล็ดใช้เป็นยารักษาโรคกามโรคหรือโรคหนองใน (ราก, เมล็ด)[1]
  10. ใช้รากและใบพอประมาณนำมาต้มกับน้ำกินเป็นยารักษากามโรค (รากและใบ)[1]
  11. ช่วยกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ (aphrodisiac) (น้ำมันหอมระเหย)[9]
  12. ดอกใช้เป็นยาแก้น้ำกามเคลื่อนในขณะหลับ (ดอก)[5]
  13. ช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมหมวกไต (น้ำมันหอมระเหย)[9]
  14. ใช้รักษาแผลพุพอง แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ด้วยการใช้รากนำมาบดให้เป็นผงพอประมาณ แล้วนำมาพอกหรือโรยบริเวณที่เป็นแผล (ราก, ดอกและราก)[1],[2]
  15. เมล็ดนำมาบดรวมกับแป้งผสมกันในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 ใช้รักษาผดผื่นคัน (Prickly heat) (เมล็ด)[1]
  16. ใบใช้เป็นยารักษากลากเกลื้อน (ใบ)[1],[4],[5]
  17. ต้นใช้เป็นยารักษาเกลื้อนช้าง เกลื้อนใหญ่ เรื้อนน้ำเต้า เรื้อนกวาง (ต้น)[1]
  18. ผลสดใช้ตำพอกรักษาฝีและเร่งหนองนั้นให้แตกเร็ว (ผลสด)[1]
  19. ใบใช้เป็นยาทาภายนอกแก้ฝีบวม ฝีหัวช้าง (ใบ)[2]
  20. รากใช้เป็นยาแก้พิษฝีหนอง (ราก)[2]
  21. ใช้เมล็ดประมาณ 1 กำมือ นำมาบดให้ละเอียด ใส่น้ำนมคนผสมให้พอแฉะ ใช้เป็นยาทาบริเวณที่เป็นหิดวันละ 1-2 ครั้ง จนกว่าจะหาย (เมล็ด)[1],[6]
  22. เมล็ดใช้รักษาการขาดสีผิวของผิวหนังหรือผิวหนังด่างเผือก (เมล็ด)[1]
  23. รากใช้เป็นยารักษารังแค ช่วยฆ่าเชื้อตามขุมขนและรากผม (ราก)[1]
  24. รากใช้เป็นยาแก้อาการปวดบวม (ราก)[2]
  25. ใช้รากและใบพอประมาณนำมาต้มกับน้ำกินเป็นยารักษาโรคปวดข้อ (รากและใบ)[1]
  26. ช่วยลดอาการปวดเกร็งของกล้ามเนื้อ คล้ายกล้ามเนื้อ (antispasmodic) (น้ำมันหอมระเหย)[9]
  27. รากมีสรรพคุณช่วยขับน้ำนมในสตรีหลังการคลอดบุตร (ราก)[2]
  28. ชาวกะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอนเชื่อว่าผลแก่ไม่ควรเก็บมาใช้ เพราะจะทำให้คน ๆ นั้น ทำอะไรไม่รู้เนื้อรู้ตัวคล้ายคนสติไม่ดี (ผลแก่)[4]
    นอกจากนี้ยังมีข้อมูลอื่น ๆ ที่ระบุว่า รากใช้เป็นยาแก้วัณโรค ทั้งต้นใช้เข้ายารักษาฝีภายใน ส่วนเมล็ดใช้เป็นยาแก้เสมหะและดีพิการ แก้ลมให้คลื่นเหียน และแก้อาการเกร็ง[8]

ขนาดและวิธีใช้ : การใช้ตาม [2] ดอก ราก หรือต้นแห้ง ให้ใช้ 10-15 กรัม ส่วนใบสดให้ใช้ภายนอกกะตามความเหมาะสม หรือใช้ตำพอกแผล[2]

ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของชะมดต้น

ประโยชน์ของชะมดต้น

  1. ใบใช้รับประทานเป็นผัก[6]
  2. มีการนำมาปลูกกันบ้างเพื่อเอาใยของเปลือกมาใช้ทำเชือกและกระสอบ[1]
  3. เมล็ดนำมาบดให้เป็นผงใช้โรยตู้เสื้อผ้าเพื่อป้องกันแมลง[6]
  4. รากมีสารเหนียวใช้เป็นกาวในการทำกระดาษ[4]
  5. เมล็ดเมื่อนำมาเคี้ยวจะได้กลิ่นเหมือนชะมดเช็ด สามารถนำมาใช้แต่งกลิ่นกาแฟได้[6]
  6. เมล็ดให้น้ำมันที่ทำให้มีกลิ่นหอม จึงนำมาใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องหอม[1] ใช้ทำน้ำหอม[6] และใช้แต่งกลิ่นอาหารได้[4],[9]
เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีน ที่ใช้บ่อยในประเทศไทย.  (วิทยา บุญวรพัฒน์).  “ชะมดต้น”.  หน้า 196.
  2. หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5.  (ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม).  “ชะมดต้น”.  หน้า 248-249.
  3. สำนักงานหอพรรณไม้ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช. “ชะมดต้น”.  [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.dnp.go.th/botany/.  [07 ม.ค. 2015].
  4. โครงการเผยแพร่ข้อมูลทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นบนพื้นที่สูง, สถาบันวิจัยและพัฒนาที่สูง (องค์กรมหาชน).  “ชะมดต้น, ฝ้ายผี”.  อ้างอิงใน : หนังสือชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย (เต็ม สมิตินันทน์), หนังสือสมุนไพรไทยตอนที่ 6 (ก่องกานดา ชยามฤต).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : eherb.hrdi.or.th.  [07 ม.ค. 2015].
  5. อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ, คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.  “ชะมดต้น”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.pharmacy.mahidol.ac.th/siri/.  [07 ม.ค. 2015].
  6. วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี.  “ชะมดต้น”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : th.wikipedia.org.  [07 ม.ค. 2015].
  7. หน่วยบริการฐานข้อมูลสมุนไพร สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.  “ผลเพิ่มความไวต่ออินซูลินในหนูอ้วนของสาร myricetin จากชะมดต้น”.  เข้าถึงได้จาก : www.medplant.mahidol.ac.th/pubhealth/.  [07 ม.ค. 2015].
  8. ศูนย์รวมข้อมูลสิ่งมีชีวิตในประเทศไทย, สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน).  “ชะมดต้น”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.thaibiodiversity.org.  [07 ม.ค. 2015].
  9. ตำราวิชาการ สุคนธบำบัด (ดร.จงกชพร พินิจอักษร, ภญ.วัจนา สุจีรพงศ์สิน).  “ชะมดต้น”.  หน้า 128.

ภาพประกอบ : www.flickr.com (by Vuon Hoa 06, 翁明毅, Russell Cumming)

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 ชะมดต้น
  • 2 ลักษณะของชะมดต้น
  • 3 สรรพคุณของชะมดต้น
  • 4 ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของชะมดต้น
  • 5 ประโยชน์ของชะมดต้น
  • 6 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ