Ranitidine (แรนิทิดีน)

Ranitidine (แรนิทิดีน) เป็นยาในกลุ่มยับยั้งฮิสทามีนชนิดที่ 2 (Histamine-2 blockers) ที่ช่วยลดการผลิตกรดในกระเพาะอาหาร เพื่อช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก กลุ่มอาการโซลลิงเจอร์-เอลลิสัน (Zollinger-Ellison Syndrome) ภาวะกรดไหลย้อน อาหารไม่ย่อย หรืออาการอื่น ๆ ที่เกิดจากการไหลย้อนของกรดกลับขึ้นไปในหลอดอาหารจนเป็นสาเหตุให้เกิดอาการแสบร้อนบริเวณทรวงอก รวมไปถึงการรับประทานในกลุ่มยาต้านการอักเสบหรือยาแก้ปวด (Non-Steroidal Anti-Inflammatory Drugs: NSAIDs) เป็นระยะเวลานาน      

เกี่ยวกับยา Ranitidine

คำเตือนของการใช้ยา Ranitidine

• ก่อนใช้ยาต้องแจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติการแพ้ยาและประวัติการป่วย
• การใช้ยานี้อาจทำให้เกิดปฏิกิริยากับยาหลายประเภท เช่น ยาลดกรด ยาลดการแข็งตัวของเลือด ยาขยายหลอดลม จึงควรมีการแจ้งแพทย์ให้ทราบว่ารับประทานยา สมุนไพร วิตามินชนิดใดอยู่หรือไม่
• ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี ผู้สูงอายุ ผู้ที่เป็นโรคไต โรคตับ โรคพอร์ฟีเรีย โรคฟีนิลคีโตนูเรีย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยา
• ห้ามใช้ยาในผู้ที่แพ้ยา Ranitidine สตรีมีครรภ์ สตรีที่วางแผนกำลังจะมีบุตร หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
• การดื่มแอลกอฮอล์และสูบุหรี่ในช่วงที่รับประทานยาอาจลดประสิทธิภาพของยา

ปริมาณการใช้ยา Ranitidine

แผลที่เกิดจากภาวะเครียดในระบบทางเดินอาหาร (Stress Ulcer Prophylaxis) - ยาฉีดเข้าเส้นหรือกล้ามเนื้อ ผู้ใหญ่ 50 มิลลิกรัม ทุก 6-8 ชั่วโมง

แผลในลำไส้เล็กส่วนต้น (Duodenal Ulcer) 

• ยารับประทาน ผู้ใหญ่ 150 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง หรือ 300 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง หลังอาหารเย็นหรือก่อนนอน
• ยาฉีดเข้าเส้นหรือกล้ามเนื้อ ผู้ใหญ่ 50 มิลลิกรัมทุก 6-8 ชั่วโมง

อาการปวด จุกแน่น หรือไม่สบายท้องบริเวณลิ้นปี่ จากโรคกระเพาะอาหาร (Dyspepsia) - ยารับประทาน ผู้ใหญ่ 75 มิลลิกรัม วันละ 1-4 ครั้ง ก่อนมื้ออาหาร 30-60 นาที  (ใช้ยาติดต่อกันสูงสุดไม่เกิน 14 วัน)

แผลในกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กส่วนต้น (Duodenal Ulcer Prophylaxis/Gastric Ulcer Maintenance) - ยารับประทาน ผู้ใหญ่ 150 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง ก่อนนอน

หลอดอาหารอักแสบและมีแผล (Erosive Esophagitis) 

• ยารับประทาน ผู้ใหญ่ 150 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้ง หลังจากนั้น 150 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง
• ยาฉีดเข้าเส้นหรือกล้ามเนื้อ ผู้ใหญ่ 50 มิลลิกรัมทุก 6-8 ชั่วโมง

การใช้ยา Ranitidine

ผู้ป่วยควรใช้ยาภายใต้คำแนะนำของแพทย์ สามารถรับประทานยาได้ทั้งก่อนหรือหลังมื้ออาหาร ยาเม็ดขนาด 150 มิลลิกรัม รับประทานวันละ 1 หรือ 2 ครั้ง ไม่ควรเคี้ยว หัก หรือแบ่งรับประทาน ในกรณีที่ลืมรับประทานยาตามเวลาที่กำหนด สามารถรับประทานได้ทันที แต่หากใกล้ถึงรอบต่อไป ให้ข้ามไปรับประทานยารอบถัดไป โดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณยา

ผู้ป่วยไม่ควรใช้ยาเกินปริมาณที่แพทย์กำหนด โดยทั่วไปสำหรับแผลในทางเดินอาหารควรได้รับยาต่อเนื่อง 8 สัปดาห์ หากอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 6 สัปดาห์หลังการใช้ยาหรือเกิดผลข้างเคียงจากการแพ้ยา ควรหยุดใช้แล้วไปพบแพทย์ทันที

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Ranitidine

หลังการรับประทานยาอาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดศีรษะ ท้องร่วง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก รู้สึกไม่สบายท้องหรือปวดท้อง อาการเหล่านี้จะหายไปภายในไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์ ในขณะที่การใช้ยาฉีดอาจทำให้มีอาการปวดหรือคันบริเวณที่ฉีด ควรหยุดใช้ยาแล้วรีบไปพบแพทย์ทันทีหากพบตัวอย่างอาการเหล่านี้

• ตับเกิดการอักเสบ ทำให้มีภาวะตัวเหลือง ตาขาวหรือมีสีเหลืองร่วมด้วย เหนื่อยง่าย ปัสสาวะสีเข้ม ปวดท้อง
• การทำงานของสมองเปลี่ยนแปลงไป เกิดความสับสน กระสับกระส่าย อาการหลอน มองภาพไม่ชัด มีอาการซึมเศร้า
• อัตราการเต้นหัวใจผิดปกติ หัวใจเต้นเร็ว เหนื่อยง่าย หายใจสั้น