28 สรรพคุณและประโยชน์ของต้นผกากรอง ดอกผกากรอง

ผกากรอง

ผกากรอง ชื่อสามัญ Cloth of gold, Hedge flower, Lantana, Weeping lantana, White sage[2],[3],[8]

ผกากรอง ชื่อวิทยาศาสตร์ Lantana camara L. จัดอยู่ในวงศ์ผกากรอง (VERBENACEAE)[1]

สมุนไพรผกากรอง มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ขะจาย มะจาย ตาปู (แม่ฮ่องสอน), คำขี้ไก่ (เชียงใหม่), ดอกไม้จีน (ตราด), ไม้จีน (ชุมพร), ขี้กา (ปราจีนบุรี, ประจวบคีรีขันธ์), สามสิบ (จันทบุรี), ยี่สุ่น (ตรัง), เบ็งละมาศ สาบแร้ง หญ้าสาบแร้ง (ภาคเหนือ), ก้ามกุ้ง เบญจมาสป่า หญ้าสาบแร้ง (ภาคกลาง), จีน, โงเซกบ๊วย (จีนแต้จิ๋ว), อู่เซ่อเหมย หม่าอิงตาน (จีนกลาง) เป็นต้น[1],[2],[3]

ลักษณะของผกากรอง

ต้นผกากรอง

ใบผกากรอง

ดอกผกากรองขาว

รูปผกากรอง

ผกากรองเหลือง

ดอกผกากรองสีแสด

ดอกผกากรองสีแดง

ดอกผกากรองสีชมพู

ผลผกากรอง

สรรพคุณของผกากรอง

  1. รากช่วยแก้อาการปวดศีรษะ (ราก)[2]
  2. รากแห้งนำมาต้มกับน้ำดื่ม จะช่วยแก้อาการเวียนศีรษะจากอากาศที่ร้อนอบอ้าวได้ (ราก)[4]
  3. ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[4]
  4. ใช้แก้เด็กซึมเซา ง่วงนอนเสมอ ด้วยการใช้ดอกผกากรอง แห้งหนัก 1 บาท ผสมกับดอกทานตะวันแห้ง 1 ดอก นำมาต้มกับน้ำสะอาดแล้วนำมาดื่ม (ดอก)[5]
  5. ช่วยแก้อาการปวดฟัน ด้วยการใช้รากสดนำมาต้มเอาน้ำอมบ้วนปาก จะช่วยแก้อาการปวดฟันได้ (ราก)[2],[5]
  6. ช่วยแก้คางทูม ด้วยการใช้ผกากรองแห้งหนัก 4 บาท นำมาต้มกับน้ำเป็นยาดื่ม (ราก)[2],[5]
  7. รากมีรสจืดขม ใช้เป็นยาแก้ไข้เรื้อรัง แก้หวัด ไข้สูง แก้ไข้หวัดตัวร้อน หวัดใหญ่ ด้วยการใช้รากแห้งหนัก 4 บาท นำมาต้มกับน้ำเป็นยาดื่ม (ราก)[1],[2],[5] ตำรับยาจีนจะใช้รากผกากรองสด, กังบ๊วยกึง, ซึ่งปัวจิ้กึงหนักอย่างละ 35 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน (ราก)[1]
  8. ช่วยทำให้อาเจียน (ใบ)[4]
  9. ช่วยแก้อาการเจียนเป็นเลือด (ดอก)[2]
  10. ช่วยแก้วัณโรค วัณโรคปอด ด้วยการใช้ดอกแห้ง หนัก 1 บาท นำมาต้มกับน้ำดื่ม (ดอก)[2],[5]
  1. ช่วยแก้ติดเชื้อวัณโรคที่ต่อมทอนซิล (ราก)[1]
  2. ช่วยแก้หืด (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[4]
  3. ช่วยขับลม (ราก, ใบ)[1],[2] ขับลมชื้น (ราก)[1]
  4. ดอกใช้เป็นยาแก้อาการปวดท้องอาเจียน ด้วยการใช้ดอกผกากรองสดหนัก 1 บาท นำมาต้มกับน้ำสะอาด ใส่เกลือเล็กน้อย แล้วนำมาใช้ดื่มเป็นยา (ดอก)[2],[5]
  5. ช่วยแก้อาการปวดกระเพาะ (ราก)[1]
  6. ใบมีคุณสมบัติห้ามเลือดและช่วยรักษาแผลสดได้ เราจะใช้ใบมาตำหรือขยี้ให้ช้ำแล้วนำมาพอกบริเวณบาดแผลสด อีกทั้งยังมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรคได้ด้วย (ใบ, ดอก)[2],[3]
  7. ใบและก้านใช้เป็นยาภายนอกรักษาโรคผิวหนัง ฝีหนอง โดยนำมาตำแล้วพอกหรือนำมาต้มกับน้ำใช้ล้างแผลหรือบริเวณที่เป็น (ใบ)[1]
  8. ใบใช้ตำพอกแผล ฝีพุพองเป็นหนอง แก้ผดผื่นคันที่เกิดขึ้นจากหิด (ใบ, ดอก)[2],[5]
  9. ตำรับยาแก้ผดผื่นคันจะใช้ใบผกากรองแห้ง, ใบสะระแหน่, ใบสนแผง, ต้นกะเม็ง, โซวเฮียะ หนักอย่างละ 35 กรัม นำมารวมกันบดเป็นยาผง ใช้ผสมกับเหล้าทาบริเวณที่เป็นวันละ 3 ครั้ง (ใบ)[1]
  10. รากมีสรรพคุณแก้โรคผิวหนังผื่นคัน แก้อาการคัน แก้อาการปวดแสบปวดร้อนทางผิวหนังที่เกิดจากการเป็นฝี (ราก)[1]
  11. ดอกใช้เป็นยาแก้อักเสบ (ดอก)[2]
  12. รากใช้เป็นยาดับพิษแก้บวม (ราก)[1]
  13. ใบมีรสขมเย็น ใช้ใบสดนำมาโขลกให้ละเอียดแล้วนำมาพอกแก้ปวด แก้บวม พอกรักษาฝี ถอนพิษ และรักษาแผลฟกช้ำได้ (ใบ)[2],[4] ส่วนรากและดอกก็ช่วยแก้รอยฟกช้ำ แก้อาการฟกช้ำดำเขียวที่เกิดจากการกระทบกระแทกได้เช่นกัน (ราก, ดอก)[1],[2]
  14. แก้โรคปวดตามข้อ ด้วยการใช้ใบนำมาต้มกับน้ำ ผสมกับน้ำอาบ หรือทำเป็นลูกประคบ (ใบ[5], ราก[1]) หมอพื้นบ้านในเกาะชวาของอินโดนีเซีย จะใช้ผกากรองมาปรุงเป็นยารักษาโรคไขข้ออักเสบ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[3]
  15. ช่วยแก้อาการปวดเอ็น ด้วยการใช้ดอกสดนำมาตำให้ละเอียด คั้นเอาแต่น้ำ แล้วนำมาทา ส่วนกากที่เหลือให้นำมาพอกบริเวณที่เป็นแล้วเอาผ้ารัดไว้ (ดอก)[5]

วิธีใช้สมุนไพรผกากรอง

ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของผกากรอง

ข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรผกากรอง

พิษของผกากรอง

ตัวอย่างผู้ป่วยที่ได้รับพิษจากผกากรอง

การรักษาพิษของผกากรอง

ประโยชน์ของผกากรอง

เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีน ที่ใช้บ่อยในประเทศไทย.  “ผกากรอง”.  (วิทยา บุญวรพัฒน์).  หน้า 332.
  2. สรรพคุณสมุนไพร 200 ชนิด, สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี.  “ผกากรอง”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.rspg.or.th/plants_data/herbs/. [22 เม.ย. 2014].
  3. มูลนิธิหมอชาวบ้าน. นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่ 295 คอลัมน์: ต้นไม้ใบหญ้า.  “ผกากรอง : ความงามที่มากับความทนทานข้ามทวีป”.  (เดชา ศิริภัทร).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.doctor.or.th.  [22 เม.ย. 2014].
  4. ทะเบียนพันธุ์ไม้ในโรงเรียน, โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ.  “ผกากรอง”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.wattano.ac.th.  [22 เม.ย. 2014].
  5. หนังสือเพชรน้ำเอก กรุยอดตำรับยาสมุนไพร.  “แขนงที่ 2 ประโยชน์และสรรพคุณของพืชสมุนไพรในการนำมาใช้รักษาโรค”.  (พฤฒาจารย์วิพุธโยคะ รัตนรังษี).
  6. รักบ้านเกิดดอทคอม.  “ผกากรอง ไม้ดอกวัชพืช”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.rakbankerd.com. [22 เม.ย. 2014].
  7. หนังสือไม้ดอกแสนสวย.  (อรชร พงศ์ไสว).
  8. ระบบวินิจฉัยและการรักษาอาการอันเนื่องจากพืชพิษในประเทศไทย, สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.  “ผกากรอง”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.medplant.mahidol.ac.th/tpex/.  [22 เม.ย. 2014].
  9. ฐานข้อมูลพืชพิษ, ศูนย์ข้อมูลสมุนไพร สถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข.  “ผกากรอง”.  อ้างอิงใน: หนังสือตำราสมุนไพรใกล้ตัว เล่ม 6 ว่าด้วยสมุนไพรที่เป็นพิษ (สมพร ภ.หิรัญรามเดช), สารพิษในพืชและอาการพิษในสัตว์ทดลอง (วันทนา งามวัฒน์), สมุนไพรเพื่อการสาธารณสุขมูลฐาน (ข้อมูลสรุป) (โครงการสมุนไพรกับการสาธารณสุขมูลฐาน).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: webdb.dmsc.moph.go.th/poison/.  [22 เม.ย. 2014].

ภาพประกอบ : www.flickr.com (by Susan Ford Collins, Reinaldo Aguilar, Nemo’s great uncle, Farhan Haekal, jeremyhughes, Elissa Malcohn, A Yee)

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 ผกากรอง
  • 2 ลักษณะของผกากรอง
  • 3 สรรพคุณของผกากรอง
  • 4 วิธีใช้สมุนไพรผกากรอง
  • 5 ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของผกากรอง
  • 6 ข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรผกากรอง
  • 7 พิษของผกากรอง
  • 8 ตัวอย่างผู้ป่วยที่ได้รับพิษจากผกากรอง
  • 9 การรักษาพิษของผกากรอง
  • 10 ประโยชน์ของผกากรอง
  • 11 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ