16 สรรพคุณและประโยชน์ของหญ้าลิ้นงู

หญ้าลิ้นงู

หญ้าลิ้นงู ชื่อวิทยาศาสตร์ Oldenlandia corymbosa L. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Hedyotis corymbosa (L.) Lam.) จัดอยู่ในวงศ์เข็ม (RUBIACEAE)[1],[2]

สมุนไพรหญ้าลิ้นงู มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า จุ่ยจี้เช่า จั่วจิเช่า (จีนแต้จิ๋ว), สุ่ยเฉียบฉ่าว สุ่ยเซี่ยนเฉ่า เสอเสอเฉ่า (จีนกลาง) เป็นต้น[1],[2]

หมายเหตุ : หญ้าลิ้นงูสามารถนำมาใช้แทนหมากดิบน้ำค้าง (Oldenlandia diffusa (Willd.) Roxb.) ได้ เพราะจัดอยู่ในวงศ์เดียวกัน เพียงแต่ต่างสายพันธุ์[2]

ลักษณะของหญ้าลิ้นงู

ต้นหญ้าลิ้นงู

ใบหญ้าลิ้นงู

ดอกหญ้าลิ้นงู

ดอกหญ้าลิ้นงู

ผลหญ้าลิ้นงู

รูปหญ้าลิ้นงู

สรรพคุณของหญ้าลิ้นงู

  1. ทั้งต้นมีรสขม เป็นยาเย็น ออกฤทธิ์ต่อปอด ตับ และลำไส้ ใช้เป็นยาขับพิษร้อนถอนพิษไข้ (ทั้งต้น)[2]
  2. ใช้เป็นยาแก้ไข้มาลาเรีย ด้วยการใช้ลำต้นสดประมาณ 15-30 กรัม นำมาต้มเอาแต่น้ำกิน (ต้น,ทั้งต้น)[1]
  3. ใช้เป็นยาแก้ลำไส้อักเสบ มะเร็งในลำไส้ ด้วยการใช้ลำต้นสดประมาณ 15-30 กรัม นำมาต้มเอาแต่น้ำกิน (ต้น,ทั้งต้น)[1],[2]
  4. ช่วยแก้ฝีในท้อง ด้วยการใช้หญ้าลิ้นงูประมาณ 20-40 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน (ทั้งต้น)[2]
  5. ช่วยรักษาบำบัดอาการหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย ท้องอืด ท้องเฟ้อ โรคบิด ท้องผูก และยังช่วยในการย่อย และช่วยทำให้เจริญอาหารได้อีกด้วย (ทั้งต้น)[4],[5]
  1. ใช้ฆ่าพยาธิ (ทั้งต้น)[4],[5]
  2. ช่วยปกป้องตับ (ทั้งต้น)[4],[5]
  3. ช่วยขจัดสารพิษ (ทั้งต้น)[4],[5]
  4. ลำต้นสดนำมาต้มเอาน้ำใช้ชะล้างแผลฝีบวม แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก (ต้น,ทั้งต้น)[1],[2]
  5. ใช้เป็นยารักษาฝีปวดบวม ด้วยการใช้หญ้าลิ้นงูสดนำมาตำให้ละเอียดแล้วนำมาพอกบริเวณที่เป็นฝี (ทั้งต้น)[2]
  6. ในประเทศจีนจะใช้หญ้าริ้นงูเป็นยารักษาเนื้องอกบางชนิด (ทั้งต้น)[4],[5]
  7. ชาวอินเดียจะใช้หญ้าลิ้นงูทั้งต้นนำมาต้มในนมกับน้ำตาลเพื่อใช้เป็นยาบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนที่หน้าอกอันเนื่องมาจากกรดไหลย้อน และยังใช้เพื่อรักษาโรคตับอักเสบด้วยการใช้ทั้งต้นนำมาต้มเอาน้ำกิน (ทั้งต้น)[4],[5]
  8. ชาวฟิลิปปินส์จะใช้หญ้าลิ้นงูนำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยารักษาโรคกระเพาะ (ทั้งต้น)[4],[5]
  9. ชาวอินโดนีเซียจะใช้หญ้าลิ้นงูนำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยารักษาไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน (ทั้งต้น)[4],[5]
  10. เนื่องจากหญ้าลิ้นงูมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ต้านจุลชีพและโปรโตซัว จึงมีการนำมาใช้เพื่อรักษาโรคที่มีอาการอักเสบและติดเชื้อ เช่น คางทูม ทอนซิลอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดบวม การติดเชื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน โรคทาง
  11. เดินปัสสาวะอักเสบ ตับอักเสบ ไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน ถุงน้ำดีอักเสบ และใช้ฆ่าพยาธิ เป็นต้น (ทั้งต้น)[4],[5]

หมายเหตุ : วิธีการใช้สมุนไพรหญ้าลิ้นงูตาม [4] และ [5] หากไม่ได้ระบุไว้เป็นอย่างอื่น ให้ใช้หญ้าลิ้นงูแห้งประมาณ 15-30 กรัม นำมาต้มเอาน้ำดื่ม[4],[5]

ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของหญ้าลิ้นงู

เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5.  (ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม).  “หญ้าลิ้นงู”.  หน้า 811.
  2. หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีน ที่ใช้บ่อยในประเทศไทย.  (วิทยา บุญวรพัฒน์).  “หญ้าลิ้นงู”.  หน้า 600.
  3. Bangladesh Journal of Scientific and Industrial Research. (Tamanna Sultana, M Abdur Rashid, M Ahad Ali, Samsuddin Faisal Mahmood).  “Hepatoprotecive and Antibacterial Activity of Ursolic acid Extracted from Hedyotis corymbosa L.”.  Res. 45(1), Pages: 27-34, 2010.
  4. International Journal of Pharmaceutical Sciences Review and Research. (IJPS). (Sridevi Sangeetha Kothandaraman Sivapraksam, Kavitha Karunakaran, Umamaheswari Subburaya, Sujatha Kuppusamy, Subashini TS).  “A Review on Phytochemical and Phamarcological Profile of Hedyotis corymbosa Linn.”.  Res. 26(1), Article No. 54, Pages: 320-324, 2014.
  5. Global information Hub On Integrated Medicine (Globinmed).  “Hedyotis corymbosa”.  เข้าถึงได้จาก: www.globinmed.com.  [10 ก.ค. 2014].

หมายเหตุ : ข้อมูลบางส่วนแปลโดยคุณ nattira wirush

ภาพประกอบ : www.flickr.com (by Russell Cumming)

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 หญ้าลิ้นงู
  • 2 ลักษณะของหญ้าลิ้นงู
  • 3 สรรพคุณของหญ้าลิ้นงู
  • 4 ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของหญ้าลิ้นงู
  • 5 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ