ไรแฟมพิซิน (Rifampicin) สรรพคุณ วิธีใช้ ผลข้างเคียง ฯลฯ

ไรแฟมพิซิน

ไรแฟมพิซิน (Rifampicin) หรือ ไรแฟมพิน (Rifampin) หรือยาที่คนทั่วไปรู้จักในชื่อทางการค้าว่า ไรฟาดิน (Rifadin) เป็นยาที่ทางการแพทย์มักนำมาใช้รักษาวัณโรค โรคเรื้อน โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งมีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียกลุ่ม Staphylococcus aureus, Mycobacterium, Neisseria meningitidis ฯลฯ สามารถใช้เป็นยาเดี่ยวหรือใช้ร่วมกับยาปฏิชีวนะอื่น ๆ ในการรักษาโรคดังกล่าว

ตัวอย่างยาไรแฟมพิซิน

ยาไรแฟมพิซิน หรือ ไรแฟมพิน (ชื่อทางการค้า) มีชื่อทางการค้า เช่น มาโนริฟซิน (Manorifcin), ไรซิน (Ricin), ไรฟาซิน-เอ (Rifacin-A), ไรฟาดิน (Rifadin), ไรฟาเจน (Rifagen), ไรแฟม (Rifam), ไรแฟมพิซิน (Rifampicin), ไรแฟมพิซิน จีพีโอ (Rifampicin GPO), ไรแฟมพิซิน แอกด์ฮอน (Rifampicin Acdhon), ไรแฟม-พี (Rifam-P), ไรแมกซิน (Rimaccin), ไรเมซิน (Rimecin), ไรพิน (Ripin) ฯลฯ

รูปแบบยาไรแฟมพิซิน

ยาไรแฟมพิซินมีรูปแบบการจัดจำหน่ายทั้งแบบชนิดที่เป็นยาผสมและแบบยาเดี่ยว สำหรับยาเดี่ยว ได้แก่

ไรแฟมพิซินคือ
IMAGE SOURCE : www.akorn.com

สรรพคุณของยาไรแฟมพิซิน

กลไกการออกฤทธิ์ของยาไรแฟมพิซิน

ยาไรแฟมพิซินจะออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างพันธุกรรมหรือดีเอนเอ (DNA) ของแบคทีเรีย โดยตัวยาจะไปรวมตัวกับเอนไซม์ที่มีชื่อว่า RNA polymerase และทำให้เอนไซม์หยุดลง (ไม่มีผลต่อเอนไซม์ในร่างกายมนุษย์) จึงทำให้แบคทีเรียไม่สามารถขยายพันธุ์ เจริญเติบโต และตายในที่สุด

หลังจากได้รับยาเข้าสู่ร่างกาย ยาจะถูกดูดซึมได้ดีจากทางเดินอาหารและกระจายตัวไปตามเนื้อเยื่อของร่างกายและไขสันหลัง (ระดับยาสูงสุดในเลือดคือเฉลี่ยประมาณ 2-3 ชั่วโมงหลังการรับประทานยา) ไรแฟมพิซินจะถูกเปลี่ยนโครงสร้างที่อวัยวะตับ ยาบางส่วนจะถูกเปลี่ยนโครงสร้างในระหว่างการดูดซึมที่ลำไส้เล็ก และทุก ๆ 3-4 ชั่วโมง ยาจะถูกกำจัดออกจากร่างกายประมาณ 50% ของระดับยาในกระแสเลือด โดยส่วนใหญ่จะถูกขับออกจากร่างกายทางน้ำดีและทางปัสสาวะ

ก่อนใช้ยาไรแฟมพิซิน

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิด รวมถึงยาไพร็อกซิแคม สิ่งที่ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบมีดังนี้

ข้อห้าม/ข้อควรระวังในการใช้ยาไรแฟมพิซิน

วิธีใช้ยาไรแฟมพิซิน

ไรฟาดิน
IMAGE SOURCE : www.medscape.com

คำแนะนำในการใช้ยาไรแฟมพิซิน

การเก็บรักษายาไรแฟมพิซิน

เมื่อลืมรับประทานทานยาไรแฟมพิซิน

โดยทั่วไปเมื่อลืมรับประทานยาไรแฟมพิซิน สามารถรับประทานยาในทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ แต่ถ้าเป็นเวลาที่ใกล้เคียงกับมื้อต่อไป ให้ข้ามไปรับประทานยามื้อต่อไปได้เลย โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า

ผลข้างเคียงของยาไรแฟมพิซิน

เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 1.  “ไรแฟมพิซิน (Rifampicin)”.  (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).  หน้า 254-255.
  2. ยากับคุณ (Ya & You), มูลนิธิเพื่อการวิจัยและพัฒนาระบบยา (วพย.).  “RIFAMPIN”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.yaandyou.net.  [21 ก.ย. 2016].
  3. หาหมอดอทคอม.  “ยาไรแฟมพิน/ไรแฟมพิซิน (Rifampin/Rifampicin)”.  (ภก.อภัย ราษฎรวิจิตร).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : haamor.com.  [21 ก.ย. 2016].
  4. Siamhealth.  “Rifampicin (ไรแฟมพิซิน)”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.siamhealth.net.  [21 ก.ย. 2016].
  5. ThaiRx.  “ไรฟาดิน 300 มก.”, “Rifampicin Lederle 300 mg”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : thairx.com.  [21 ก.ย. 2016].
  6. Drugs.com.  “Rifampin”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.drugs.com.  [21 ก.ย. 2016].

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 ไรแฟมพิซิน
  • 2 ตัวอย่างยาไรแฟมพิซิน
  • 3 รูปแบบยาไรแฟมพิซิน
  • 4 สรรพคุณของยาไรแฟมพิซิน
  • 5 กลไกการออกฤทธิ์ของยาไรแฟมพิซิน
  • 6 ก่อนใช้ยาไรแฟมพิซิน
  • 7 ข้อห้าม/ข้อควรระวังในการใช้ยาไรแฟมพิซิน
  • 8 วิธีใช้ยาไรแฟมพิซิน
  • 9 คำแนะนำในการใช้ยาไรแฟมพิซิน
  • 10 การเก็บรักษายาไรแฟมพิซิน
  • 11 เมื่อลืมรับประทานทานยาไรแฟมพิซิน
  • 12 ผลข้างเคียงของยาไรแฟมพิซิน
  • 13 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ