โรคฮิตของหนูน้อย โรคมือ เท้า ปาก (ตอนที่ 3 และตอนจบ)

18 กรกฎาคม 2016

แพทย์สามารถทำการคัดกรองโรคมือเท้าจากโรคไวรัสชนิดอื่นได้ด้วยการประเมิน

• อายุของผู้ป่วย
• อาการที่เป็น
• ปรากฏการณ์ของผื่นหรืออาการปวด

หรืออาจนำตัวอย่างเชื้อจากการป้ายคอ (Throat swab) หรืออุจจาระ ส่งห้องแล้ปเพื่อตรวจดูว่าเป็นเชื้อไวรัสตัวไหน

ปัจจุบัน ยังไม่มีวิธีการรักษาเฉพาะโรคมือเท้าปาก อาการของโรคมักหายไปในเวลา 7-10 วัน โดยแพทย์อาจสั่งยาแก้ปวดลดไข้อย่าง ยา Acetaminophen หรือ ยา Ibuprofen (ห้ามให้ยา Aspirin ในเด็ก เพราะอาจทำให้เกิดกลุ่มอาการราย Reye syndrome) และเนื่องจากโรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัส ดังนั้นยาปฏิชีวนะจึงไม่ได้ช่วยอะไร

นอกจากนี้อาหารและเครื่องดื่มอาจมีผลกระทบต่อตุ่มพองที่ลิ้น ในปาก หรือในคอ ดังนั้น จึงควรระวังเรื่องการดื่มการกินดังนี้

• หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นกรด เช่น น้ำส้ม โซดา
• หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็มหรือเผ็ด
• กินอาหารอ่อนๆ ที่ไม่ต้องใช้การเคี้ยวมาก
• กินไอศครีมหรือดื่มน้ำเย็น
• กลั้วปากด้วยน้ำอุ่นหลังการกินอาหาร

และเนื่องจากยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคนี้ สิ่งที่ช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อโรคนี้ที่ดีที่สุดก็คือ การมีสุขอนามัยที่ดี เช่น

• หมั่นล้างมือให้สะอาดบ่อยๆ โดยเฉพาะหลังการเข้าห้องน้ำหรือเปลี่ยนผ้าอ้อม และก่อนทำอาหาร
• ฆ่าเชื้อบริเวณที่ใช้บ่อย เช่น บริเวณพื้นผิว ของเล่น จุกหัวขวดนม
• ใช้ทิชชูปิดปากหรือจมูกเมื่อมีการไอหรือจาม และนำทิชชูทิ้งขยะทันที
• สอนให้เด็กรู้จักรักษาความสะอาด
• กักบริเวณเฉพาะสำหรับคนที่ติดเชื้อ เช่น ให้เด็กหยุดเรียนและพักผ่อนที่บ้าน
• อย่าใช้ภาชนะอาหารร่วมกับคนที่ติดเชื้อ
• หลีกเลี่ยงการสัมผัส เช่น การจูบ การกอด กับคนที่ติดเชื้อ

แหล่งข้อมูล

1. Hand-foot-and-mouth disease [2016, July 17].

2. Hand-foot-and-mouth disease. [2016, July 17].

3. Hand, foot, and mouth disease. [2016, July 17].

4. Hand, foot, and mouth disease. [2016, July 17].