on
โฟลิก โฟเลต เพื่อลูกรัก (ตอนที่ 3)
10 มีนาคม 2017
สำหรับแหล่งอาหารที่มีโฟเลต เช่น
- ผักใบเขียว เช่น ผักปวยเล้ง (Spinach) บร็อคโคลี (Broccoli) และ ผักกาดหอม (Lettuce)
- ถั่วต่างๆ เช่น ถั่วลันเตา (Peas) ถั่วเลนทิล (Lentils)
- ผลไม้ เช่น มะนาว กล้วย เมล่อน
- ผลิตภัณฑ์ที่มีการเติมสารอาหาร เช่น ขนมปัง น้ำผลไม้ ซีเรียล (Cereals)
เนื่องจากการได้รับโฟเลตตามธรรมชาติอาจไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงมีการใช้กรดโฟลิคเป็นอาหารเสริมมาตราฐานสำหรับหญิงตั้งครรภ์และหญิงที่มีแผนจะมีบุตร เพราะกรดโฟลิคช่วยลดความเสี่ยงของเด็กพิการแต่กำเนิดได้ถึงร้อยละ 50-70
และเนื่องจากความพิการแต่กำเนิดมีโอกาสเกิดขึ้นในอาทิตย์ที่ 3-4 ของการตั้งครรภ์ ดังนั้น หน่วยงานป้องกันโรคติดต่อในสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control = CDC) จึงแนะนำให้ผู้หญิงได้รับกรดโฟลิคทุกวันอย่างน้อย 1 เดือนก่อนการตั้งครรภ์และตลอดการตั้งครรภ์
โดยกรดโฟลิคสามารถช่วยป้องกันทารกจาก
- ความบกพร่องของกระดูกไขสันหลัง (Spina bifida)
- ภาวะที่ไม่มีสมองและกระโหลกศีรษะ (Anencephaly)
- ภาวะหรือโรคปากแหว่งเพดานโหว่ (Cleft lip and palate)
- การคลอดก่อนกำหนด (Premature birth)
- น้ำหนักตัวแรกคลอดน้อย (Low birth weight)
- การเจริญเติบโตในมดลูกไม่เต็มที่ (Poor growth in the womb)
นอกจากนี้กรดโฟลิคยังช่วยลดความเสี่ยงของ
- การแท้งบุตร (Miscarriage )
- อาการแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ เช่น ภาวะครรภ์เป็นพิษ (Preeclampsia)
- ภาวะโลหิตจาง (Anemia)
- โรคหัวใจ (Heart disease)
- โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
- โรคมะเร็งบางชนิด
- โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease)
- ลดความเป็นพิษของยาเมโธเทรกเซท (Methotrexate) ที่ใช้ในผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis) และรักษาภาวะอื่นๆ (อยู่ระหว่างการศึกษา)
อย่างไรก็ดี แม้กรดโฟลิคจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิด แต่ก็ได้มีงานวิจัยบางฉบับที่ระบุว่า การได้รับอาหารเสริมกรดโฟลิคที่ในปริมาณที่มาก อาจทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งบางชนิดได้ เพราะทำให้ก้อนเนื้อโตขึ้น เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate cancer) มะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colorectal cancer) เป็นต้น ทั้งนี้ ก็ยังคงต้องรอผลการศึกษาเพิ่มเติมกันต่อไป
บรรณานุกรม
1. Folate (Folic Acid). [2017, March 8].
2. Folic Acid and Pregnancy. [2017, March 8].