“โคลิก” ร้อง 3 เดือน (ตอนที่ 2 และตอนจบ)

19 พฤศจิกายน 2017

สำหรับสาเหตุของการเกิดโคลิกนั้นไม่เป็นที่ทราบชัด แต่มีบางทฤษฎีที่เชื่อว่า

• ระบบย่อยอาหารอยู่ระหว่างการเจริญเติบโต ทำให้กล้ามเนื้อมักบีบเกร็งหรือกระตุก
• มีแก๊สในกระเพาะอาหาร
• มีฮอร์โมนที่เป็นสาเหตุทำให้ปวดท้องหรือมีอารมณ์จุกจิกจู้จี้ (Fussy mood)
• ความรู้สึกไวเกินเหตุ (Oversensitivity) หรือถูกกระตุ้นเกินเหตุ (Overstimulation) ด้วยแสง เสียง ฯลฯ
• เป็นทารกที่มีอารมณ์หงุดหงิด (Moody baby)
• ระบบประสาทอยู่ระหว่างการพัฒนา

อย่างไรก็ดี พ่อแม่ควรพาลูกไปพบแพทย์ หากมีอาการดังต่อไปนี้ร่วมด้วย

• อาเจียน (สีเขียวหรือเหลืองหรือปนเลือดมากกว่า 5 ครั้งต่อวัน)
• มีการเปลี่ยนแปลงในการขับถ่าย (ท้องผูกหรือท้องเสีย ปนเลือดหรือมูก)
• เป็นไข้
• ร้องทั้งวัน (เงียบเป็นช่วงสั้น)
• อ่อนเพลีย (หลับนาน ไม่ยิ้มหรือไม่จ้องสนใจ ไม่มีแรงดูดนม นานมากกว่า 6 ชั่วโมง)
• น้ำหนักขึ้นน้อย (น้อยกว่า 15 กรัมต่อวัน)

ซึ่งอาการดังกล่าวอาจเกิดจากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่โคลิก ดังนั้นพ่อแม่จึงอาจพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจให้ชัดเจน เช่น อาจร้องไห้เพราะ

• ติดเชื้อ - ติดเชื้อที่หู (Ear infection) ติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะ (Urine infection) เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) ไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis)
• ปวดท้อง - อาหารเป็นพิษ มีแก๊สในกระเพาะ ท้องผูก ลำไส้อุดตัน
• หายใจลำบาก - เป็นหวัด มีฝุ่นมาก มีก้อนอุดจมูกมาแต่กำเนิด (Congenital nasal blockage) ลิ้นโตคับปาก (Oversized tongue)
• มีความดันสูงในสมอง - ภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง (Subdural hematomas) ‎ภาวะโพรงสมองคั่ง (Hydrocephalus)
• เจ็บผิว - เป็นผื่น โดนเข็มหมุดตำ
• เจ็บปาก - ติดเชื้อยีสต์
• เจ็บไต - ระบบทางเดินปัสสาวะอุดกั้น
• เจ็บตา - กระจกตามีรอยถลอก (Scratched cornea) เป็นต้อหิน (Glaucoma)
• ปวดศีรษะ (Infantile migraine)
• หัวใจเต้นไม่ปกติ
• ได้รับบาดเจ็บที่กระดูก กล้ามเนื้อ หรือ นิ้ว
• แพ้น้ำตาลแล็กโทส (Lactose intolerance)
• เป็นแผลที่ขอบทวาร (Anal fissures)

ทั้งนี้ การรักษาโคลิคขึ้นอยู่กับตัวทารก พ่อแม่อาจต้องหาวิธีทดสอบทีละอย่างเพื่อให้หยุดร้อง หากไม่ได้ผลก็เปลี่ยนวิธีต่อไป หรือไปพบแพทย์เพื่อความสบายใจ

แหล่งข้อมูล:

1. Could Your Baby's Crying Be Colic? [2017, November 18].
2. Baby colic. [2017, November 18].