โกฐกระดูก สรรพคุณและประโยชน์ของรากโกฐกระดูก 15 ข้อ

โกฐกระดูก

โกฐกระดูก ชื่อสามัญ Costus[2],[3]

โกฐกระดูก ชื่อวิทยาศาสตร์ Aucklandia lappa DC. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Saussurea lappa (Decne.) C.B.Clarke) จัดอยู่ในวงศ์ทานตะวัน (ASTERACEAE หรือ COMPOSITAE)[1],[5]

สมุนไพรโกฐกระดูก มีชื่อเรียกอื่นว่า บักเฮียง (จีนแต้จิ๋ว), มู่เชียง มู่เซียง (จีนกลาง) เป็นต้น[1],[5]

ลักษณะของโกฐกระดูก

ต้นโกฐกระดูก

ใบโกฐกระดูก

ดอกโกฐกระดูก

รากโกฐกระดูก

สมุนไพรโกฐกระดูก

รูปโกฐกระดูก

สรรพคุณของโกฐกระดูก

  1. รากโกฐกระดูกมีรสเผ็ดขม มีกลิ่นหอม เป็นยาสุขุมออกฤทธิ์ต่อปอด กระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ และตับ[1] ใช้เป็นยาบำรุงโลหิต (ราก)[2]
  2. ใช้เป็นยาไขมันในเลือด[4] ลดน้ำตาลในเลือด (ราก)[3]
  3. ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจให้ชุ่มชื้น
  4. ช่วยบำรุงกระดูก (ราก)[5]
  5. ใช้เป็นยาแก้โรคโลหิตจาง (เปลือกราก)[3]
  6. รากมีสรรพคุณเป็นยาแก้ลมวิงเวียน หน้ามืด ตาลาย ตำรายาไทยใช้รากปรุงเป็นยาหอมรับประทานแก้ลมวิงเวียน หน้ามืด ตาลาย ขับลมในลำไส้ และแก้โรคโลหิตจาง (ราก, เปลือกราก)[3],[5]
  1. ใช้เป็นยาแก้อาเจียน (ราก)[1],[2]
  2. รากใช้เป็นยาแก้เสมหะและลม ใช้แก้หืดหอบ แก้ลมในกองเสมหะ (ราก)[3],[5]
  3. ช่วยกระตุ้นกระเพาะอาหารและลำไส้ให้บีบตัว ทำให้น้ำย่อยของกระเพาะอาหารและลำไส้เพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้น จึงสามารถนำมาใช้เป็นยาขับลมในกระเพาะ ลำไส้ แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยในการย่อยอาหารได้ อีกทั้งยังช่วยแก้อาการจุกเสียด จุกเสียดแน่นท้อง และยังช่วยขับลมชื้นได้ด้วย ตำรับยาขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ จะใช้โกฐกระดูก 10 กรัม, โกฐเขมาขาว 10 กรัม และเปลือกส้ม 8 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน (ราก)[1],[2] ส่วนเปลือกรากก็มีสรรพคุณเป็นยาขับลมในลำไส้เช่นกัน (เปลือกราก)[3]
  4. รากใช้เป็นยาแก้ท้องเสีย แก้บิด แก้ปวดกระเพาะ ตำรับยาแก้ปวดกระเพาะจะใช้โกฐกระดูก 30 กรัม, ดีปลี 30 กรัม, ข่าลิง 30 กรัม, หนังกระเพาะไก่ 30 กรัม, ส้มมือ 15 กรัม, อบเชย 8 กรัม, ลิ้นทะเล 100 กรัม นำมาบดให้เป็นผง ใช้รับประทานครั้งละ 8 กรัม วันละ 2-3 ครั้ง ส่วนตำรับยาแก้อาการปวดท้องของโรคบิด จะใช้โกฐกระดูก 10 กรัม และฟ้าทะลายโจร 10 กรัม นำมาบดให้เป็นผง ชงกับน้ำรับประทาน (ราก)[1]
  5. ผงจากรากโกฐกระดูก สามารถนำมาใช้เป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่และฆ่าเชื้อไทฟอยด์ (ราก)[1]
  6. ใช้เป็นยาแก้ปวด (ราก)[5]
  7. ในบัญชียาจากสมุนไพร ตามประกาศของคณะกรรมการแห่งชาติด้านยา (ฉบับที่ 5) มีปรากฏการใช้สมุนไพรโกฐกระดูกในยารักษากลุ่มอาการทางระบบไหลเวียนโลหิตหรือยาแก้ลม โดยมีปรากฏอยู่ในตำรับ “ยาหอมเทพจิตร” และตำรับ “ยาหอมนวโกฐ” ซึ่งมีส่วนประกอบของโกฐกระดูกอยู่ในพิกัดโกฐทั้งเก้าร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ อีกในตำรับ มีสรรพคุณในการแก้อาการหน้ามืด ตาลาย แก้ลมวิงเวียน ใจสั่น คลื่นเหียน อาเจียน และช่วยแก้ลมจุกแน่นในท้อง และมีปรากฏในยารักษากลุ่มอาการทางระบบอาหาร ในตำรับ “ยาประสะกานพลู” ซึ่งมีสรรพคุณเป็นยาบรรเทาอาการปวดท้อง จุกเสียดแน่นเฟ้อจากอาหารไม่ย่อย อันเนื่องมาจากธาตุไม่ปกติ[5]
  8. โกฐกระดูกเป็นสมุนไพรที่มีการนำมาใช้ในเครื่องยาไทยที่เรียกว่า “พิกัดโกฐ” โดยโกฐกระดูกนั้นจัดอยู่ใน “โกฐทั้งห้า” (เบญจโกฐ), “โกฐทั้งเจ็ด” (สัตตโกฐ) และ “โกฐทั้งเก้า” (เนาวโกฐ) ซึ่งมีสรรพคุณโดยรวมคือเป็นยาแก้ไข้ แก้ไข้ร่วมกับมีเสมหะ แก้หืดไอ แก้หอบ แก้สะอึก แก้ลมในกองธาตุ ช่วยขับลม ใช้เป็นยาชูกำลัง บำรุงโลหิต บำรุงกระดูก[5]
  9. นอกจากนี้ในตำรายาไทยยังมีการนำโกฐกระดูกมาใช้ในอีกหลายตำรับ เช่น ตำรับยา “พิกัดสัตตะปะระเมหะ” (เป็นตำรับยาที่มีการจำกัดจำนวนตัวยาแก้เสมหะที่มีกลิ่น 7 อย่าง คือ โกฐกระดูก, ลูกกระวาน, ผลรักเทศ, ตรีผลาวะสัง, ต้นก้นปิด และต้นตำแย่ทั้ง 2) ที่มีสรรพคุณเป็นยาชำระมลทินโทษให้ตกไป ช่วยชำระเมือกมันในลำไส้ และแก้อุจจาระธาตุลามก, ในตำรับยา “พิกัดตรีทิพย์รส” (เป็นการจำกัดจำนวนของที่มีรสดี 3 อย่าง ได้แก่ โกฐกระดูก เนื้อไม้กฤษณา และอบเชยไทย) ที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงธาตุ บำรุงโลหิต บำรุงกระดูก บำรุงตับปอดให้เป็นปกติ และช่วยแก้ลมในกองเสมหะ[5]

ขนาดและวิธีใช้ : ยาแห้งให้ใช้ในขนาด 3-10 กรัม ต่อ 1 ครั้ง หรือตามที่ต้องการ[1] ส่วนอีกข้อมูลระบุว่า ถ้าเป็นรากสดให้ใช้ในขนาด 90-120 กรัม นำมาทุบให้แหลก ต้มกับน้ำร้อนนาน 30 นาที ใช้ดื่มก่อนอาหารเช้าและเย็น[3]

ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของโกฐกระดูก

เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีน ที่ใช้บ่อยในประเทศไทย.  (วิทยา บุญวรพัฒน์).  “โกฐกระดูก”.  หน้า 96.
  2. หนังสือสมุนไพรสวนสิรีรุกขชาติ.  (คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล).  “โกฐกระดูก Costus”.  หน้า 216.
  3. หนังสือสมุนไพรบำบัดเบาหวาน 150 ชนิด.  (เภสัชกรหญิง จุไรรัตน์ เกิดดอนแฝก).  “โกฐกระดูก”.  หน้า 58.
  4. หนังสือสมุนไพรลดไขมันในเลือด 140 ชนิด.  (เภสัชกรหญิง จุไรรัตน์ เกิดดอนแฝก).  “โกฐกระดูก”  หน้า 59-60.
  5. ฐานข้อมูลเครื่องยาสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.  “โกฐกระดูก”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.thaicrudedrug.com.  [12 มิ.ย. 2015].
  6. หน่วยบริการฐานข้อมูลสมุนไพร สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.  “ฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรียก่อโรคฟันผุของโกฐกระดูก”.  เข้าถึงได้จาก : www.medplant.mahidol.ac.th.  [12 มิ.ย. 2015].

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 โกฐกระดูก
  • 2 ลักษณะของโกฐกระดูก
  • 3 สรรพคุณของโกฐกระดูก
  • 4 ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของโกฐกระดูก
  • 5 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ