แอล-คาร์นิทีน ดีจริงหรือ (ตอนที่ 3)

17 พฤษภาคม 2013

ศักยภาพในการใช้เป็นยาใน

โรคไต :

ภาวะไม่เจริญพันธุ์ในเพศชาย (Male infertility) :

ไทรอยด์เป็นพิษ (Hyperthyroidism / Overactive thyroid) :

นอกจากนี้ บางคนใช้แอล-คาร์นิทีนในการรักษาความผิดปกติของกล้ามเนื้อที่เกิดจากโรคเอดส์ ความผิดปกติในการพัฒนาของสมองที่ทำให้เกิดโรคลมชัก (Rett Syndrome) โรคกลัวอ้วน (Anorexia) ภาวะอ่อนเพลียเรื้อรัง (Chronic fatigue syndrome) โรคเบาหวาน (Diabetes) โรคสมาธิสั้น (Attention deficit-hyperactivity disorder = ADHD) โรคแผลเรื้อรังที่ขา (Leg ulcers) โรคลายม์ (Lyme disease)

[โรคลายม์ (Lyme disease) เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Borrelia spp. ติดต่อโดยการแพร่เชื้อผ่านเห็บ อาการของโรคแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่จะมีผื่นขึ้นบนผิวหนังและปวดตามข้อ หรือข้ออักเสบ โรคนี้พบได้ทั่วโลก]

การใช้แอล-คาร์นิทีนอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการข้างเคียงได้ เช่น อาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง กรดไหลย้อน (Heartburn) ท้องเสีย และชัก นอกจากนี้ยังสามารถทำให้ปัสสาวะ ลมหายใจ และเหงื่อมีกลิ่นคาวปลา

การใช้แอล-คาร์นิทีนในเด็กอาจจะปลอดภัยหากใช้ในระยะเวลาสั้นๆ แต่ยังไม่มีงานวิจัยที่เพียงพอว่าปลอดภัยสำหรับหญิงที่กำลังตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตรหรือไม่ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยจากผลข้างเคียงควรหลีกเลี่ยงการใช้แอล-คาร์นิทีน

สำหรับการใช้การใช้แอล-คาร์นิทีนในผู้ที่ไทรอยด์เป็นพิษนั้น จะทำให้อาการแย่ลงไปอีก เช่นเดียวกับผู้ที่เคยมีอาการชัก อาจจะทำให้เกิดอาการชักได้อีก ดังนั้นทางที่ดีไม่ควรใช้แอล-คาร์นิทีนเลย

แหล่งข้อมูล:

  1. Find a Vitamin or Supplement L – CARNITINE. - [2013, May 16].
  2. Carnitine (L-carnitine). - [2013, May 16].