แมงกานีส (Manganese) ประโยชน์ของแมงกานีส 11 ข้อ

แมกนีเซียม

• แมงกานีส (Manganese) ทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นเอนไซม์ที่จำเป็นต่อกระบวนการนำไบโอติน วิตามินบี 1 วิตามินซี มาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยมีความสำคัญต่อโครงสร้างกระดูก สำคัญต่อกระบวนการย่อยอาหารเพื่อนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ สำคัญต่อการทำงานของระบบสืบพันธุ์และระบบประสาท และมีความสำคัญต่อการสร้างไทรอกซินซึ่งเป็นฮอร์โมนหลักของต่อมไทรอยด์ โดยมีหน่วยวัดเป็นมิลลิกรัม (มก. หรือ mg.)

• แหล่งที่พบแมงกานีสตามธรรมชาติ ได้แก่ ไข่ ตับ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล หอยนางรม นม เนย ข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ข้าวไรย์ ข้าวเจ้า แห้ว ถั่ว ถั่วลิสง ถั่วลันเตา ถั่วทอด อัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ซีเรียลโฮลเกรน หัวบีตรูต หัวปลี ผลไม้ ส้ม กล้วย แอปเปิ้ล สับปะรด องุ่น เชอร์รี่ มะพร้าว มะกอก อะโวคาโด เอพริคอต แคร์รอต มะตูม มะขวิด กระจับ ผักใบเขียว คะน้า กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก เป็นต้น
• โรคจากการขาดแมงกานีส ได้แก่ ภาวะเดินเซ และศัตรูของแมงกานีส ได้แก่ แคลเซียมและฟอสฟอรัส ถ้ามีในปริมาณมาก อาจยับยั้งการดูดซึมของแมงกานีสได้ เช่นเดียวกับเส้นใยอาหารและกรดไฟติกในรำข้าวและถั่วต่าง ๆ
• ผลเสียของการรับประทานเกินขนาด ในปัจจุบันยังไม่มีรายงานว่าเป็นอันตรายต่อร่างกายหากรับประทานในปริมาณมาก แต่ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงแมงกานีสจากแหล่งอุตสาหกรรม

คำแนะนำในการรับประทานแมงกานีส

• ขณะนี้ยังไม่มีขนาดที่แนะนำให้รับประทานอย่างเป็นทางการ แต่มีงานวิจัยว่ารับประทานได้ในปริมาณ 2-5 มิลลิกรัมต่อวันสำหรับผู้ใหญ่
• ธาตุแมงกานีสในรูปแบบอาหารเสริมส่วนมากจะอยู่ในรูปของวิตามินรวมและแร่ธาตุรวม โดยมีปริมาณตั้งแต่ 1-9 มิลลิกรัม
• สำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านความจำหรือมักมีอาการใจลอยอยู่บ่อย ๆ ควรได้รับแมงกานีสอย่างเพียงพอ
• สำหรับผู้ที่มีอาการมึนศีรษะบ่อยครั้งควรรับประทานแมงกานีสให้มากขึ้น
• สำหรับผู้ที่ดื่มนมหรือบริโภคเนื้อสัตว์เป็นปริมาณมากควรได้รับแมงกานีสมากขึ้น

ประโยชน์ของแมงกานีส

1. แมงกานีสสามารถช่วยในการป้องกันโรคกระดูกพรุน
2. ช่วยลดอาการอ่อนล้าของร่างกาย
3. ช่วยในกระบวนการตอบสนองของกล้ามเนื้อตามร่างกาย
4. ช่วยเรื่องการทำงานของระบบประสาท ทำให้มีความจำดีขึ้น
5. ช่วยลดอาการหงุดหงิดง่าย
6. ช่วยในการผลิตน้ำนมสำหรับหญิงตั้งครรภ์
7. ช่วยบรรเทาอาการของโรคลมบ้าหมู
8. ช่วยสังเคราะห์กรดไขมันและคอเลสเตอรอล
9. ช่วยในการสร้างและรักษาเม็ดเลือดแดง
10. ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย ช่วยขับฮอร์โมนเพศในวัยเจริญพันธุ์
11. ช่วยลดการเกิดไขมันสะสมตามร่างกาย โดยการเผาผลาญโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน

แหล่งอ้างอิง : หนังสือวิตามินไบเบิล (ดร.เอิร์ล มินเดลล์)

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

เรื่องที่น่าสนใจ