เอดส์ กับระยะของการติดเชื้อ

ระยะของการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ซึ่งรวมถึงระยะเอดส์ เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ติดเชื้อเอชไอวีควรทราบ เพื่อการรักษาและการดูแลตัวเองที่ถูกต้อง เนื่องจากระยะเอดส์นั้นมีความรุนแรงกว่าระยะติดเชื้อเอชไอวีมาก และจะนำไปสู่การเสียชีวิตในที่สุด หากผู้ป่วยไม่ได้รักษาหรือดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม อาจส่งผลให้อาการของโรคเข้าสู่ระยะเอดส์ในประมาณ 10 ปีหรือเร็วกว่านั้น

เอดส์กับระยะการติดเชื้อ

ระยะของการติดเชื้อเอชไอวี

การติดเชื้อเอชไอวีมีทั้งหมด 3 ระยะ โดยแต่ละระยะมีอาการที่แตกต่างกันไป ดังนี้

ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เข้าสู่ระยะเอดส์ต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์อย่างใกล้ชิด เพราะหากไม่รักษาจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายถึงชีิวิต โดยคาดการณ์ว่าผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษาจะมีชีวิตอยู่ได้หลังจากเข้าสู่ระยะเอดส์ประมาณ 3 ปีเท่านั้น ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการติดเชื้อ

การวินิจฉัยการติดเชื้อเอชไอวี

การตรวจเลือดเป็นวิธีตรวจหาเชื้อเอชไอวีที่เชื่อถือได้มากที่สุด โดยแพทย์จะแนะนำให้ผู้ที่สงสัยว่าอาจได้รับเชื้อหรือมีความเสี่ยงตรวจหาเชื้อเอชไอวีโดยเร็วที่สุด เพื่อรักษาได้ทันท่วงที เมื่อได้ตัวอย่างเลือดมาแล้ว แพทย์อาจนำไปตรวจด้วยวิธีต่าง ๆ ได้แก่ การตรวจแอนติบอดี การตรวจหาเอนติเจน p24 การตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัส (Nucleic Acid Test: NAT) เป็นต้น

แนวทางรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี

ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีและเอดส์ให้หายขาดได้ แต่มีวิธีที่ช่วยให้ผู้ป่วยมีชีวิตยืนยาวขึ้นได้ โดยวิธีหลักในการรักษาคือการใช้ยาต้านรีโทรไวรัส ซึ่งแพทย์จะให้ผู้ป่วยใช้ยาหลายตัวร่วมกันเพื่อป้องการดื้อยา และจะต้องรับประทานยาอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ ผู้ติดเชื้อยังต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อไปยังผู้อื่นและช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงมากขึ้น เช่น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เลิกสูบบุหรี่ และฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี