เหา โลน อาการ สาเหตุ และการกำจัดเหา-โลน 14 วิธี

เหา

เหา หรือ Louse (Lice คือ เหาตัวเดียว) เป็นแมลงชนิดหนึ่งที่เป็นปรสิต (Parasite) ต้องอาศัยอยู่บนร่างกายของคนหรือสัตว์ และดำรงชีวิตโดยการดูดเลือดเป็นอาหาร เหามีมากกว่า 3,000 ชนิด บางชนิดเป็นปรสิตของสัตว์ แต่ชนิดที่เป็นปรสิตของคนจะมีอยู่เพียง 3 ชนิด ซึ่งจะมีชื่อต้นคือ Pediculus spp. ในภาษาอังกฤษจึงเรียกคนที่เป็นเหาว่า “Pediculosis” ฟอสซิลของเหาที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดเท่าที่ค้นพบได้คือ 10,000 ปี เหาจึงเป็นโรคเก่าแก่โรคหนึ่งและยังคงสร้างความรำคาญให้มนุษย์มาถึงปัจจุบัน

การติดเหาสามารถเกิดขึ้นได้ในคนทุกเชื้อชาติ สถิติทั่วโลกพบว่ามีผู้ที่เป็นเหามากกว่าร้อยล้านคนต่อปี และพบอัตราการเป็นเหาทั้งในประเทศที่พัฒนาแล้วและในประเทศด้อยพัฒนาไม่แตกต่างกันนัก เหาสามารถแพร่กระจายจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้โดยการอยู่ใกล้ชิดกัน ซึ่งมีอาการหลักคือ อาการคัน ส่วนปัญหาสำคัญของผู้ที่เป็นเหาคือ อาจกลายเป็นที่รังเกียจของคนรอบข้าง อย่างไรก็ตาม วิธีกำจัดเหาให้หมดไปจากร่างกายก็มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ดังจะกล่าวต่อไปในหัวข้อวิธีการรักษา

ดังที่กล่าวไปแล้วว่า เหาที่เป็นปรสิตของคนนั้นมีเพียง 3 ชนิด ซึ่งเหาแต่ละชนิดจะอาศัยอยู่บนร่างกายในตำแหน่งที่แตกต่างกันไป ได้แก่ เหาที่ศีรษะ (Pediculosis capitis) ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยในคนที่ไม่ค่อยรักษาความสะอาด พบได้ในคนทุกระดับตั้งแต่ในผู้มีฐานะยากจน จนกระทั่งในผู้ที่มีฐานะร่ำรวย และมักพบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ อายุที่พบได้บ่อย คือ อยู่ในช่วงอายุ 3-11 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่นักเรียนหญิงที่ไว้ผมยาวและไม่ค่อยสระผม ในบางครั้งอาจพบเป็นกันเกือบทั้งชั้นเรียนในโรงเรียนตามชนบท และตามแหล่งชุมชนแออัด, เหาที่ลำตัว (Pediculosis corporis) เป็นชนิดที่ส่วนใหญ่จะพบในผู้มีฐานะยากจน คนเร่ร่อนไม่มีที่อยู่อาศัย และเหาที่อวัยวะเพศ หรือโลน (Pediculosis pubis) ที่พบได้มากในวัยรุ่นหรือในวัยเจริญพันธุ์

ตัวเหา

สาเหตุของการเกิดเหา

  1. เหาที่ศีรษะ (Head louse, Pediculosis capitis หรือ Pediculus humanus capitis) เป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด โดยเกิดจากตัวเหา (Pediculosis capitis) ที่อาศัยอยู่บนศีรษะ มีรูปร่างยาวรี ขนาดประมาณ 1-2 มิลลิเมตร มีสีขาวหรือสีเทา ไม่มีปีก มีขาอยู่ 3 คู่ ซึ่งจะมีตะขออยู่ตรงปลายเอาไว้เกี่ยวกับเส้นผมได้และสามารถเคลื่อนตัวได้ในอัตรา 23 เซนติเมตรต่อนาที แต่เหาจะไม่สามารถกระโดดหรือดีดตัวได้เหมือนตัวหมัด
    รูปเหา
    • เหาที่ศีรษะจะมีอายุอยู่ได้ประมาณ 30 วัน สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้โดยการดูดเลือดเป็นอาหาร โดยมักดูดเลือดกินในเวลากลางคืน เหาเพศเมียจะวางไข่ (เรียกว่า Nit) วันละประมาณ 10 ฟอง โดยจะวางไข่อยู่ใกล้ ๆ กับโคนผม เพราะเป็นบริเวณที่มีอุณหภูมิที่อุ่นซึ่งเหมาะกับการเจริญเติบโตของไข่ แล้วไข่เหาจะใช้เวลาในการฟักเป็นตัวโดยเฉลี่ยประมาณ 7-10 วัน (อาจเร็วหรือช้ากว่านี้ก็ได้ ตั้งแต่ 3-14 วัน) และจะใช้เวลาประมาณ 8-10 วันเพื่อโตเต็มวัยและสามารถวางไข่ต่อไปได้ ซึ่งในคนคนหนึ่งจะมีเหาชนิดนี้อยู่ประมาณ 10-20 ตัว หากเหาชนิดนี้อยู่นอกตัวคนจะมีชีวิตอยู่ได้เพียง 1-2 วัน
    • สามารถติดต่อได้โดยการสัมผัสใกล้ชิด นอนร่วมกัน หรือจากการใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น แปรงผม หวี ที่มัดผม หมวก หมวกกันน็อก ผ้าคลุมผม ผ้าเช็ดตัว หรือที่เป่าผมร่วมกับผู้ที่เป็นเหา โดยพบว่าการหวีผมอาจส่งเหาออกไปได้ไกลถึง 1 เมตร เหาที่ศีรษะจึงพบได้มากในเด็ก เพราะเด็กจะมีการอยู่ใกล้ชิดกันมากกว่าผู้ใหญ่ และจะพบได้ในเด็กผู้หญิงมากกว่าเด็กผู้ชาย เพราะเด็กผู้หญิงมักชอบอยู่ใกล้ชิดกันมากกว่าและมักแบ่งของใช้ร่วมกัน เช่น หวี ที่มัดผม หมวก ฯลฯ ส่วนความยาวของผมไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้ติดเหาได้ง่ายขึ้น ในผู้ชายจึงสามารถเป็นเหาได้เช่นกัน
    • ในทางเชื้อชาติพบว่า คนผิวดำจะมีอัตราการเป็นเหาน้อยกว่าคนเอเชียและคนผิวขาว ซึ่งอาจเป็นเพราะคนผิวดำมีเส้นผมที่หยิกและหนา จึงทำให้เหาเกาะอยู่ได้ยาก
  2. เหาที่ลำตัว (Pediculosis corporis) ตัวเหาชนิดนี้จะเหมือนกับเหาที่ศีรษะ แต่จะตัวใหญ่กว่าเล็กน้อย คือมีขนาดยาวประมาณ 2-4 มิลลิเมตร มักอาศัยอยู่บนเสื้อผ้า เมื่อจะกินอาหารก็จะคลายออกมาจากเสื้อผ้าและมาดูดเลือดบนลำตัวของคน เหาเพศเมียจะวางไข่ได้วันละประมาณ 10-15 ฟอง โดยจะวางอยู่บนเส้นใยของเสื้อผ้า โดยเฉพาะบริเวณที่ใกล้กับรอยเย็บหรือตะเข็บ ซึ่งในคนคนหนึ่งจะพบเหาชนิดนี้ได้ประมาณ 20 ตัว หากเหาชนิดนี้อยู่นอกตัวคนจะมีชีวิตอยู่ได้นานถึง 10 วัน
    เหาที่ลำตัว
    • สามารถติดต่อได้โดยการสัมผัสใกล้ชิดเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่ได้อาบน้ำ ไม่ได้เปลี่ยนหรือซักเสื้อผ้า เช่น ผู้ที่เดินทางบนรถบัสหรือรถไฟเป็นระยะทางยาวนานหลาย ๆ วัน ผู้ที่อยู่ในค่ายกักกัน ค่ายอพยพ ในคุก หรือในคนเร่ร่อน ไม่มีที่อยู่อาศัย
  3. เหาที่อวัยวะเพศ หรือ โลน (Pediculosis pubis) เกิดจากตัวโลน (Pthirus pubis) ซึ่งเป็นแมลงตัวเล็ก ๆ แบบเดียวกับเหา แต่ชนิดนี้จะไม่ค่อยเคลื่อนตัว จึงมักพบเจอได้ง่ายกว่าชนิดอื่น ๆ โดยมักเกาะอยู่กับเส้นขนบริเวณอวัยวะเพศและดูดกินเลือดบริเวณหัวหน่าวและขาหนีบ เพศเมียสามารถวางไข่ได้วันละแค่ 1-2 ฟอง ลำตัวของมันจะมีลักษณะแบนกว้าง มีขนาดกว้างประมาณ 0.8-1.2 มิลลิเมตร และที่ขาตรงปลายจะมีตะขอใหญ่ดูคล้ายปู (โรคนี้จึงมีอีกชื่อเรียกหนึ่งในภาษาอังกฤษว่า “Crab”) จึงทำให้มันสามารถเกาะเกี่ยวกับเส้นขนที่มีความหยาบหนาได้ เช่น ขนที่อวัยวะเพศ ขนรอบรูก้น ขนรักแร้ ฯลฯ หากอยู่นอกตัวคนจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 1 วัน
    โลน
    • สามารถติดต่อได้จากการร่วมเพศ หรือใช้เครื่องสุขภัณฑ์ในห้องส้วม หรือใช้เสื้อผ้าหรือผ้าเช็ดตัวร่วมกัน ซึ่งนอกจากจะติดได้จากการร่วมเพศที่มักพบได้ในวัยรุ่นหรือในวัยเจริญพันธุ์แล้ว ยังอาจพบได้ในเด็กซึ่งเกิดจากพ่อแม่ที่เป็นเหาที่อวัยวะเพศหรือโลนด้วยเช่นกัน ซึ่งมักติดมาจากการอยู่ใกล้ชิด การนอนร่วมกัน จึงทำให้เด็กติดมาจากพ่อแม่ได้ หรือในบางครั้งก็อาจติดมาจากการถูกข่มขืนกระทำชำเราได้เช่นกัน
    • แม้เหาชนิดนี้จะก่อความรำคาญกับมนุษย์ แต่มันก็พอจะมีประโยชน์อยู่บ้างในกรณีที่ใช้เป็นเบาะแสในการสืบคดีจากเหยื่อที่ถูกข่มขืนกระทำชำเราและติดเหามาด้วย โดยการนำเลือดจากตัวเหา (ซึ่งกินเลือดมาจากทั้งเหยื่อและผู้ร้าย) มาตรวจหารหัสพันธุกรรม (DNA) ก็พบรหัสพันธุกรรมของเหยื่อและของผู้ร้าย เราจึงสามารถนำรหัสพันธุกรรมนี้มาสืบหาผู้ร้ายต่อไปได้นั่นเอง
    • เหาที่อาศัยอยู่บนตัวคนเหล่านี้ ในบางครั้งอาจอาศัยอยู่บนตัวสัตว์เลี้ยงต่าง ๆ รวมทั้งหมูได้ด้วย หรือในทางกลับกัน เหาของสัตว์เลี้ยงต่าง ๆ และนก ในบางครั้งก็อาจติดมาอยู่บนตัวคนได้เช่นกัน

อาการของเหา

ภาวะแทรกซ้อนของเหา

การวินิจฉัยการติดเหา

แพทย์สามารถวินิจฉัยการติดเหาได้จากอาการคันของผู้ป่วย รวมกับการตรวจพบตัวเหาหรือไข่เหา ซึ่งมีวิธีการตรวจอยู่หลายเทคนิค ตั้งแต่การหาด้วยตาเปล่า, การใช้แว่นขยายช่วยส่องตรวจ, การใช้หวีซี่เล็ก ๆ ที่เรียกว่าหวีเสนียดหวีผมหรือเส้นขนในขณะเปียก ซึ่งจะช่วยทำให้พบตัวเหาและไข่เหาได้ง่ายขึ้น, การตัดเส้นผมออกมาตรวจดูด้วยกล้องจุลทรรศน์, การใช้เทปเหนียวใสแปะลงไปบนเส้นผม ขน หรือเสื้อผ้า ซึ่งตัวเหาและไข่เหาจะติดมากับเทปเหนียว และสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หรือนำไปแปะบนแผ่นสไลด์แล้วนำไปส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ นอกจากนี้ยังมีการทดสอบโดยใช้แสงอัลตราไวโอเลตในช่วงคลื่นความยาวสูงที่เรียกว่า Wood’s lamp ใช้ส่องไปยังบริเวณที่สงสัย ซึ่งตัวเหาและไข่เหาจะเรืองแสงออกมาให้เห็น

วิธีกำจัดเหา

หลักในการรักษาการติดเหา คือ การรักษาผู้ที่เป็นเหาและผู้ที่อยู่ใกล้ชิดที่เป็นเหาไปพร้อม ๆ กัน ร่วมไปกับการควบคุมกำจัดเหาที่อยู่ในสิ่งแวดล้อม เพื่อป้องกันการแพร่สู่ผู้อื่นและการกลับมาติดเหาซ้ำอีก

สาเหตุที่รักษาเหาไม่หาย

วิธีป้องกันเหา

เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2.  “เหา (Pediculosis capitis/Head louse)”.  (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).  หน้า 996-997.
  2. หาหมอดอทคอม.  “เหา และ โลน (Pediculosis)”.  (พญ.สลิล ศิริอุดมภาส).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : haamor.com.  [16 มิ.ย. 2016].
  3. ASTV ผู้จัดการออนไลน์.  “เหา….แก้ไขได้อย่างไรเมื่อเด็กติดเหา”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.manager.co.th.  [17 มิ.ย. 2016].

ภาพประกอบ : vrachfree.ru, idsc.nih.go.jp, www.staticwhich.co.uk, www.wikimedia.org (by Gilles San Martin), kids.nationalgeographic.com, www.pcds.org.uk, getridofnits.co.uk, www.scottcamazine.com, delusion.ucdavis.edu, entnemdept.ufl.edu, www.onlinedermclinic.com, web.stanford.edu, www.chospab.es, www.regionalderm.com, www.dermquest.com, www.wikimedia.org (by KostaMumcuoglu), www.cbc.ca, eflorakkl.in

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 เหา
  • 2 สาเหตุของการเกิดเหา
  • 3 อาการของเหา
  • 4 ภาวะแทรกซ้อนของเหา
  • 5 การวินิจฉัยการติดเหา
  • 6 วิธีกำจัดเหา
  • 7 สาเหตุที่รักษาเหาไม่หาย
  • 8 วิธีป้องกันเหา
  • 9 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ