เหน็บชา อาการ สาเหตุ และการรักษาโรคเหน็บชา 9 วิธี

โรคเหน็บชา

โรคเหน็บชา (Beriberi) หรือ โรคขาดวิตามินบี 1 เป็นโรคที่พบได้บ่อยในท้องที่ชนบทบางแห่ง โดยเฉพาะทางภาคเหนือ ภาคอีสาน เป็นกลุ่มอาการที่มีสาเหตุหลักมาจากการขาดวิตามินบี 1 (วิตามินบีหนึ่ง) ซึ่งเป็นวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นได้เอง ต้องได้รับจากอาหารหรืออาหารเสริม โดยผู้ป่วยจะมีอาการทางคลินิกหลายแบบขึ้นอยู่กับอายุและอวัยวะที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งจะแบ่งออกได้เป็นโรคเหน็บชาในเด็กและโรคเหน็บชาในผู้ใหญ่

วิตามินบี 1 (Vitamin B1) หรือ ไทอะมีน (Thiamine) มีหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในการเผาผลาญอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน ทำให้เกิดพลังงานเพื่อให้ร่างกายสามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ นอกจากนี้ยังมีส่วนสำคัญในการทำงานของระบบประสาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการนำกระแสความรู้สึกของเส้นประสาท ถ้าร่างกายได้รับวิตามินบี 1 ไม่เพียงพอก็จะทำให้เป็นโรคเหน็บชาได้ (วิตามินบี 1 มีคุณสมบัติพิเศษคือไม่มีพิษตกค้าง ถ้าร่างกายได้รับมากเกินไปก็จะขับออกมาทันที)

หมายเหตุ : โรคเหน็บชาที่กล่าวถึงในบทความนี้ ไม่ใช่ “อาการเหน็บชา” ที่เกิดขึ้นจากกิจวัตรประจำวันหรือไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่พบเห็นโดยทั่วไป ซึ่งอาการชาแบบนี้จะไม่มีอันตรายมากและสามารถแก้ไขได้ด้วยการเลี่ยงหรือเปลี่ยนอิริยาบถที่ทำให้เกิดอาการชาเหล่านั้น

ซึ่งทั้งสองอาการนี้อาจเกิดขึ้นแบบเดี่ยว ๆ เป็นอาการเหน็บหรืออาการชา หรืออาจเกิดขึ้นร่วมกันเป็น “อาการเหน็บชา” ก็ได้ (ส่วนอาการ “ซู่” หรือ “ซู่ซ่า” ที่ปรากฏเมื่อเวลาขนลุกนั้นไม่ถือว่าเป็นอาการเหน็บชา นอกจากว่าจะมีอาการเหน็บชาเกิดขึ้นร่วมด้วย)

คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า โรคเหน็บชาเป็นโรคที่พบได้ในคนที่ผอมแห้งแรงน้อย แต่แท้จริงแล้วในคนทั่วไปก็ป่วยเป็นโรคนี้ได้เช่นกัน เพราะพฤติกรรมการกินที่ขาดวิตามินบี 1 ทั้งจากการกินแต่ข้าว อาหารขยะต่าง ๆ หรืออาหารที่มีสารทำลายวิตามินบี 1

สาเหตุของโรคเหน็บชา

ผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคเหน็บชา

อาการของโรคเหน็บชา

อาการแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเหน็บชา

การวินิจฉัยโรคเหน็บชา

วิธีรักษาโรคเหน็บชา

ผู้ป่วยที่เป็นเหน็บชาแล้วไม่ทำการรักษามักจะเสียชีวิต แต่ถ้าทำการรักษาอาการก็มักจะหายไปอย่างรวดเร็ว หัวใจที่ถูกทำลายก็จะฟื้นกลับมาได้ อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยมีอาการหัวใจล้มเหลวอย่างเฉียบพลันแล้วก็ยากที่จะทำการรักษาได้ และเช่นเดียวกับระบบประสาทก็สามารถฟื้นฟูกลับสู่สภาพได้หากรีบรักษาแต่แรก แต่ถ้าปล่อยไว้ไม่รีบรักษาแต่แรก อาการบางอย่าง เช่น ความจำเสื่อม ก็จะยังคงอยู่ต่อไป แม้จะได้รับการรักษาแล้วก็ตาม

วิธีป้องกันโรคเหน็บชา

อาหารแก้เหน็บชา

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2.  “โรคเหน็บชา/โรคขาดวิตามินบี 1 (Beri-beri)”.  (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).  หน้า 839-841.
  2. หน่วยโภชนวิทยาและชีวเคมีทางการแพทย์, คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล.  “ขาดวิตามินบีหนึ่งถึงตายได้”.  (ดร.ศรีวัฒนา ทรงจิตสมบูรณ์).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.med.cmu.ac.th.  [29 มี.ค. 2016].

ภาพประกอบ : healthmedicallab.com, www.drthindhomeopathy.com, hubpages.com

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 โรคเหน็บชา
  • 2 สาเหตุของโรคเหน็บชา
  • 3 อาการของโรคเหน็บชา
  • 4 การวินิจฉัยโรคเหน็บชา
  • 5 วิธีรักษาโรคเหน็บชา
  • 6 วิธีป้องกันโรคเหน็บชา
  • 7 เรื่องที่เกี่ยวข้อง
  • 8 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ