เสลดพังพอนตัวเมีย สรรพคุณของต้นเสลดพังพอนตัวเมีย 35 ข้อ

เสลดพังพอนตัวเมีย

เสลดพังพอนตัวเมีย ชื่อสามัญ Snake Plant[8]

เสลดพังพอนตัวเมีย ชื่อวิทยาศาสตร์ Clinacanthus nutans (Burm.f.) Lindau (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Clinacanthus burmanni Nees, Clinacanthus siamensis Bremek., Justicia nutans Burm. f.) จัดอยู่ในวงศ์เหงือกปลาหมอ (ACANTHACEAE)[1],[8]

สมุนไพรเสลดพังพอนตัวเมีย มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ลิ้นมังกร ผักมันไก่ ผักลิ้นเขียด (เชียงใหม่), พญาปล้องคำ (ลำปาง), เสลดพังพอนตัวเมีย (พิษณุโลก), พญาปล้องดำ พญาปล้องทอง (ภาคกลาง), ลิ้นงูเห่า พญายอ (ทั่วไป), โพะโซ่จาง (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), ชิงเจี้ยน หนิ่วซิ้วฮวา (จีนกลาง) เป็นต้น[1],[3],[8]

ลักษณะของเสลดพังพอนตัวเมีย

ต้นเสลดพังพอนตัวเมีย

ต้นพญายอ

ใบเสลดพังพอนตัวเมีย

ดอกเสลดพังพอนตัวเมีย

พญาปล้องทอง

ลิ้นงูเห่า

หมายเหตุ : เสลดพังพอน เป็นชื่อพ้องของพรรณไม้ 2 ชนิด คือ เสลดพังพอนตัวผู้ และเสลดพังพอนตัวเมีย ซึ่งจะแตกต่างกันตรงที่เสลดพังพอนตัวผู้ลำต้นจะมีหนามและมีดอกเป็นสีเหลือง ส่วนเสลดพังพอนตัวเมียลำต้นจะไม่มีหนามและมีดอกเป็นสีแดงส้ม เพื่อไม่ให้เป็นการสับสนหลาย ๆ ตำราจึงนิยมเรียกเสลดพังพอนตัวเมียว่า “พญายอ” หรือ “พญาปล้องทอง” โดยเสลดพังพอนตัวผู้นั้นจะมีสรรพคุณทางยาอ่อนกว่าเสลดพังพอนตัวเมีย และตำรายาไทยนิยมนำมาใช้ทำยากันมาก[4]

สรรพคุณของเสลดพังพอนตัวเมีย

ขนาดและวิธีใช้ : ยาแห้งให้ใช้ครั้งละ 5-10 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน ส่วนยาสดให้ใช้ครั้งละ 30 กรัม นำมาตำคั้นเอาน้ำรับประทาน หรือตำพอกแผลภายนอก[3]

ข้อควรระวัง : แม้ในอดีตจะมีการใช้ใบสดนำมาตำแล้วพอกบริเวณที่เป็นแผล แต่ในปัจจุบันวิธีนี้ไม่เป็นที่นิยมแล้ว เพราะจะทำความสะอาดได้ยาก ทำให้กากติดแผล และอาจทำให้ติดเชื้อเป็นหนองได้

ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของเสลดพังพอนตัวเมีย

ประโยชน์ของเสลดพังพอนตัวเมีย

เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5.  (ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม).  “พญาปล้องทอง”.  หน้า 521-522.
  2. หนังสือสมุนไพรสวนสิรีรุกขชาติ.  (คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล).  “พญาปล้องทอง”.  หน้า 88.
  3. หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีน ที่ใช้บ่อยในประเทศไทย.  (วิทยา บุญวรพัฒน์).  “เสลดพังพอนตัวเมีย”.  หน้า 562.
  4. สรรพคุณสมุนไพร 200 ชนิด, สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี.  “เสลดพังพอนตัวเมีย (พญาปล้องทอง)”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.rspg.or.th/plants_data/herbs/.  [11 ก.ย. 2015].
  5. ผักพื้นบ้านในประเทศไทย, สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง. “เสลดพังพอนตัวเมีย”.  [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : area-based.lpru.ac.th/veg/.  [11 ก.ย. 2015].
  6. สารศิลปยาไทย ฉบับที่ ๑๐, สมาคมผู้ประกอบโรคศิลปแผนไทย (เชียงใหม่).  “เสลดพังพอนตัวเมีย”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.oocities.org/thaimedicinecm/.  [11 ก.ย. 2015].
  7. โครงการเผยแพร่ข้อมูลทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นบนพื้นที่สูง, สถาบันวิจัยและพัฒนาที่สูง (องค์กรมหาชน).  “พญาปล้องทอง, เสลดพังพอนตัวเมีย”.  อ้างอิงใน : หนังสือชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย (เต็ม สมิตินันทน์).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : eherb.hrdi.or.th.  [11 ก.ย. 2015].
  8. สำนักงานหอพรรณไม้ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช. “พญาปล้องทอง”.  [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.dnp.go.th/botany/.  [11 ก.ย. 2015].
  9. สมุนไพรที่ใช้ในงานสาธารณสุขมูลฐาน, สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.  “พญายอ”.  เข้าถึงได้จาก : www.medplant.mahidol.ac.th/pubhealth/.  [11 ก.ย. 2015].

ภาพประกอบ : www.flickr.com (by Nelindah, Ahmad Fuad Morad, Tai Lung Aik, Qing-long Wang, Lão Hạc)

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 เสลดพังพอนตัวเมีย
  • 2 ลักษณะของเสลดพังพอนตัวเมีย
  • 3 สรรพคุณของเสลดพังพอนตัวเมีย
  • 4 ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของเสลดพังพอนตัวเมีย
  • 5 ประโยชน์ของเสลดพังพอนตัวเมีย
  • 6 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ