เล็บเหลือง เรื่องใกล้ตัวที่แก้ไขได้

เล็บเหลือง อาจเป็นเรื่องกวนใจของคนรักเล็บที่พบได้บ่อย นอกจากทำให้เล็บดูไม่น่ามองแล้ว บางครั้งก็อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ได้ ดังนั้น การรู้สาเหตุและหมั่นสังเกตความผิดปกติจะช่วยให้เล็บมีสุขภาพดี และลดความเสี่ยงของอาการเล็บเหลืองได้ตั้งแต่ต้นเหตุด้วย

1573 เล็บเหลือง Resized

เล็บเหลืองเกิดจากอะไร ?

เล็บที่มีสุขภาพดีควรมีสีเล็บสม่ำเสมอ พื้นผิวเรียบ ไม่มีร่องรอยใด ๆ บนเล็บ เช่น รอยแตก รอยหยัก หรือรูปร่างผิดปกติ เป็นต้น แต่หากเล็บกลายเป็นสีเหลืองนั้น อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย

โดยสาเหตุที่ทำให้เล็บเหลืองซึ่งพบได้บ่อย มีดังนี้  

นอกจากนี้ เล็บเหลืองอาจเกิดได้จากสาเหตุอื่น ๆ ด้วย เช่น ได้รับบาดเจ็บ ผิวหนังเกิดความผิดปกติ สูบบุหรี่ ขาดวิตามินหรือแร่ธาตุ เป็นต้น

เล็บเหลือง กับอาการผิดปกติที่ควรไปพบแพทย์

การเปลี่ยนแปลงบางอย่างของเล็บอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความผิดปกติในร่างกาย จึงควรไปพบแพทย์หากพบว่าเล็บเปลี่ยนสีโดยไม่มีสาเหตุ มีรอยดำคล้ำหรือรอยสีขาวเกิดขึ้นบนเล็บ ซึ่งอาจมีลักษณะเป็นเส้น ๆ ลักษณะของเล็บเปลี่ยนแปลงไป โดยหนาขึ้นหรือบางลง เปราะและหักง่ายกว่าปกติ หลุดร่อน เล็บแยกออกจากเนื้อ มีอาการบวมแดง มีเลือดออก หรือปวดรอบเล็บ

เล็บเหลือง แก้ไขอย่างไร ?

การรักษาเล็บที่มีสีเหลืองขึ้นอยู่กับสาเหตุด้วย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสีเล็บที่เปลี่ยนไปจากการติดเชื้อหรือจากการทาเล็บและใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ บนเล็บ อาจแก้ไขได้เองด้วยของใกล้ตัว ดังนี้

เล็บเหลืองจากการทาเล็บ หากเล็บเหลืองจากการใช้ยาทาเล็บ หรือใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเล็บอื่น ๆ สามารถแก้ได้โดยใช้ไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) ซึ่งเป็นส่วนผสมในยาสีฟันที่ช่วยให้ฟันขาวขึ้นมาผสมกับน้ำอุ่น จากนั้นนำมาทาในบริเวณที่มีอาการเล็บเหลืองทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออก หรืออาจผสมเบกกิ้งโซดาลงไปด้วยเพื่อช่วยขจัดคราบเหลืองบนเล็บ นอกจากนี้ วิตามินอีก็เป็นอีกทางเลือกในการแก้ปัญหาเล็บเหลืองและช่วยให้เล็บดูสุขภาพดีขึ้น เพราะเชื่อว่าช่วยป้องกันและซ่อมแซมการสึกหรอของเส้นผม ผิว และเล็บได้ โดยอาจเป็นวิตามินอีในรูปแบบรับประทานหรือยาทาก็ได้ ทั้งนี้ ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์วิตามินอีใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย

เล็บเหลืองจากการติดเชื้อ หากเล็บเหลืองเกิดจากการติดเชื้อรา ยีสต์ หรือแบคทีเรีย อาจใช้เบกกิ้งโซดาผสมน้ำร้อนหรือน้ำอุ่นแล้วนำเล็บลงไปแช่ชั่วครู่ ทำซ้ำหลาย ๆ รอบก็อาจช่วยยับยั้งเชื้อราไม่ให้แพร่กระจายมากขึ้นและขจัดคราบเหลืองออกได้ เพราะเชื้อราสามารถเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีค่าพีเอช (pH) เป็นกรด แต่เบกกิ้งโซดาจะช่วยปรับสภาพแวดล้อมให้กลายเป็นด่าง หรืออาจใช้ทีทรีออยล์ผสมกับโจโจ้บาออยล์ น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันมะกอก ผสมให้เข้ากันแล้วทาลงบนเล็บที่เกิดการติดเชื้อ แต่ก็ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ เพราะงานวิจัยบางส่วนพบว่าทีทรีออยล์ไม่มีประสิทธิภาพในการยับยั้งแบคทีเรียหรือเชื้อราได้ดีเพียงพอ

หากลองทำตามวิธีข้างต้นแล้วไม่ได้ผล อาจต้องรักษาด้วยการใช้ยาต้านเชื้อราตามใบสั่งแพทย์ด้วย เช่น ยาเทอร์บินาฟีน ยาไอทราโคนาโซล เป็นต้น แต่การใช้ยาอย่างยาวนานติดต่อกันอาจส่งผลเสียต่อตับ และก่อให้เกิดผลข้างเคียงจากยาอย่างอาการท้องเสียหรือปวดท้องได้ บางกรณีแพทย์อาจให้ยาต้านเชื้อราชนิดทาอย่างยาไซโคลพิรอกซ์แทน ซึ่งการใช้ยาอาจใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรือนานเป็นเดือนกว่าจะเห็นผลลัพธ์

อย่างไรก็ตาม การดูแลและรักษาเล็บเหลืองด้วยตนเองอาจไม่ได้ผลเสมอไป บางคนมีโอกาสเกิดเล็บเหลืองซ้ำได้หรืออาการไม่หายขาด หากพบว่าอาการแย่ลงหรือเกิดสิ่งผิดปกติขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างถูกต้องต่อไป

วิธีป้องกันเล็บเหลือง

การป้องกันเล็บเหลืองอาจทำได้เพียงบางส่วน เพราะปัญหานี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุและมีโอกาสเกิดซ้ำได้เสมอ แต่สามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการดูแลสุขอนามัยของมือและเล็บ ตามคำแนะนำดังต่อไปนี้