เพชรหึง สรรพคุณและประโยชน์ของว่านเพชรหึง 8 ข้อ (กล้วยไม้เพชรหึง)

เพชรหึง

เพชรหึง หรือ ว่านเพชรหึง หรือ กล้วยไม้เพชรหึง ชื่อสามัญ Tiger orchid, Leopard flower

ว่านเพชรหึง ชื่อวิทยาศาสตร์ Grammatophyllum speciosum Blume จัดอยู่ในวงศ์กล้วยไม้ (ORCHIDACEAE) และอยู่ในวงศ์ย่อย EPIDENDROIDEAE[1],[2],[3],[4]

กล้วยไม้เพชรหึง มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า กล้วยกา กะดำพะนาย ตับตาน ว่านหางช้าง ว่านงูเหลือม เอื้องพร้าว เป็นต้น สามารถพบได้ตามป่าดิบชื้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงใต้ และทางภาคใต้[1],[2],[3],[4]

หมายเหตุ : ว่านเพชรหึงที่กล่าวในบทความนี้เป็นพืชคนละชนิดกันกับ “ว่านหางช้าง” (Belamcanda chinensis (L.) DC.)

ต้นเพชรหึง เป็นกล้วยไม้ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตร้อนของทวีปเอเชียและในหมู่เกาะตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก ในประเทศไทยสามารถพบได้ตามธรรมชาติในป่าของจังหวัดพิษณุโลก ฉะเชิงเทรา เลย ชลบุรี ชุมพร สุราษฎร์ธานี ตรัง และนราธิวาส สาเหตุที่คนไทยส่วนใหญ่เรียกเพชรหึงว่าเป็น “ว่าน” นั่นเป็นเพราะว่านเพชรหึงมีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพร ส่วนที่มาของชื่อ “เพชรหึง” ในตำรากบิลว่านได้อธิบายว่า เมื่อดอกเพชรหึงแก่ ก้านดอกจะส่ายไปมาคล้ายกับงูโยกหัว และเมื่อมีพายุใหญ่พัดมา (พายุลมเพชรหึง) จะมีเสียงคล้ายการจุดประทัด แล้วดอกเพชรหึงจะหายไปพร้อมกับพายุ จากความเชื่อนี้จึงอธิบายได้ว่าทำไมคนไทยจึงตั้งชื่อกล้วยไม้ชนิดนี้ว่า “เพชรหึง” นั่นเป็นเพราะว่ามันมีความเกี่ยวข้องกับลมเพชรหึงนั่นเอง ดังที่ได้มีการอธิบายไว้ในหนังสืออักขราภิธานศรับท์ (พ.ศ.2416 ) ที่กล่าวไว้ว่า “เพ็ชหึง คือ ชื่อว่านอย่างหนึ่ง เหมือนลมเพ็ชหึงนั้น”[4]

ลักษณะของว่านเพชรหึง

ต้นว่านเพชรหึง

ต้นเพชรหึง

เพชรหึง

ใบว่านเพชรหึง

กล้วยไม้เพชรหึง

ดอกเพชรหึง

รูปว่านเพชรหึง

ดอกว่านเพชรหึง

ผลว่านเพชรหึง

สรรพคุณว่านเพชรหึง

  1. ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ด้วยการใช้ลำต้นกับก้านใบนำมาหั่นบาง ๆ ล้างน้ำให้สะอาดแล้วนำมาใส่โหลดองกับเหล้าไว้ดื่ม (ลำต้น,ก้านใบ)[3]
  2. ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง (ใช้สูตรเดียวกับยาอายุวัฒนะ) (ลำต้น, ก้านใบ)[3]
  3. ช่วยแก้อาการไอและอาการเจ็บคอ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[4]
  4. ช่วยขับลมในลำไส้ (ใช้สูตรเดียวกับยาอายุวัฒนะ) (ลำต้น, ก้านใบ)[3]
  5. ลำต้นเพชรหึงใช้ตำผสมเหล้าเอาน้ำมากินหรือนำมาฝนกับเหล้าดื่ม ส่วนกากที่เหลือเอามาใช้พอกปากแผล มีฤทธิ์เป็นยาเย็นช่วยถอนพิษ แก้อาการอักเสบเนื่องจากถูกงูกัด ช่วยแก้พิษงูกัด พิษตะขาบ และพิษแมงป่องต่อย (ลำต้น)[3],[4] แต่อีกข้อมูลหนึ่งระบุว่า “ถ้าเป็นงูมีพิษไม่ควรใช้”[1]
  6. ช่วยรักษาอาการผื่นคันมีน้ำเหลือง (ลำต้น)[3]
  7. ลำต้นใช้ฝนกับน้ำซาวข้าวใช้ทาพอกรักษาฝี (ลำต้น)[3] ช่วยรักษาฝีประคำร้อย (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)[4]

ประโยชน์ของว่านเพชรหึง

เอกสารอ้างอิง
  1. อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.  “ว่านเพชรหึง“.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.pharmacy.mahidol.ac.th.  [6 ธ.ค. 2013].
  2. .ฐานข้อมูลพรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์.  “ว่านเพชรหึง“.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.qsbg.org.  [6 ธ.ค. 2013].
  3. ๑๐๘ พรรณไม้ไทย.  “ว่านเพชรหึง“.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.panmai.com.  [6 ธ.ค. 2013].
  4. ผู้จัดการออนไลน์.  “เชิญชมว่านเพชรหึง กล้วยไม้ใหญ่ที่สุดในโลกออกดอกสะพรั่งแค่ปีละ 3 เดือน“.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.manager.co.th.  [6 ธ.ค. 2013].
  5. มูลนิธิหมอชาวบ้าน. นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่ 364 คอลัมน์: ต้นไม้ใบหญ้า.  “เพชรหึง กล้วยไม้ยักษ์ที่คนไทยเรียกว่าว่าน“.  (เดชา ศิริภัทร).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.doctor.or.th.  [6 ธ.ค. 2013].

ภาพประกอบ : www.flickr.com (by wlcutler, Cerlin Ng, Ahmad Fuad Morad, abiom.orchid3, ashitaka-f, Rubens.Campos, HorsePunchKid, Jardin Boricua)

  • 1 เพชรหึง
  • 2 ลักษณะของว่านเพชรหึง
  • 3 สรรพคุณว่านเพชรหึง
  • 4 ประโยชน์ของว่านเพชรหึง
  • 5 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ