on
เท้าเหม็นเป็นเรื่อง (ตอนที่ 2)
27 กรกฎาคม 2017
พญ.มิ่งขวัญ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากควรลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพราะคนอ้วนเสื้อผ้ามักจะเสียดสีกับผิวหนังทำให้เกิดการระคายเคืองและอับชื้นได้ง่าย ส่วนเวลานอนควรสวมใส่เสื้อผ้าที่โปร่งสบาย ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดชั้นในเวลานอน เพื่อให้จุดอับชื้นต่างๆ ในร่างกายมีการระบายได้ดี
ทั้งนี้ ควรดูแลร่างกายตนเองให้แข็งแรง ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นทานผักและผลไม้ที่มีวิตามิน C, E และเบต้าแคโรทีน เช่น ข้าวโพด แครอท ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ ดื่มน้ำสะอาด และพักผ่อนให้เพียงพอ หากพบความผิดปกติบริเวณผิวหนัง ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางโดยตรง เพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี
โรคเท้าเหม็น (Pitted keratolysis) เป็นความผิดปกติของผิวหนัง มักพบในคนที่มีเหงื่อออกมากที่เท้าหรือเท้าชื้นแฉะ มีลักษณะผิวหนังแหว่งเป็นหลุมเล็กๆ ตื้นๆ (Crateriform pit) และอาจรวมเป็นผื่นใหญ่ขอบเขตชัดเจน พบบ่อยบริเวณที่ลงน้ำหนัก (Pressure-bearing area) อย่างผิวฝ่าเท้า (Plantar surface of the feet) มีบ้างที่พบบริเวณฝ่ามือ
เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียของผิวหนัง เป็นสาเหตุทำให้เกิดกลิ่นเหม็น โดยมีเชื้อก่อโรคหลายชนิด เช่น เชื้อ Corynebacteria, เชื้อ Dermatophilus congolensis เชื้อ Kytococcus sedentarius เชื้อ Actinomyces และ เชื้อ Streptomyces
โรคเท้าเหม็นเกิดได้ในทั้งในเขตร้อนและเขตอบอุ่น ในคนทั่วโลก ทุกเพศทุกวัย แต่มักเกิดในเพศชายมากกว่าเพศหญิง โดยอาชีพที่มีความเสี่ยงในการเป็น ได้แก่
- เกษตรกร
- นักกีฬา
- กะลาสีเรือหรือชาวประมง
- คนงานในโรงงานอุตสาหรรม
- ทหาร
ส่วนผู้หญิงที่ชอบไปล้างขัดหรือทาเล็บที่ร้านทำผมแต่งเล็บก็อาจจะติดเชื้อเหล่านี้ได้ ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ติดเชื้อ ได้แก่
- อากาศร้อน ชื้น
- ใส่รองเท้าปิดมิดชิด (Occlusive footwear) เช่น รองเท้าบู้ท
- มีเหงื่อออกมากที่แขนและขา (Hyperhidrosis)
- ฝ่ามือและฝ่าเท้าหนา ด้าน (Keratoderma)
- เป็นโรคเบาหวาน (Diabetes mellitus)
- มีอายุมาก
- เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (Immunodeficiency)
แหล่งข้อมูล:
- แทบขมคอ!! “ช่วงฝนตก” เจอวิกฤต “โรคเท้าเหม็น” ทำไงดี??. [2017, July 26].
- Pitted keratolysis. [2017, July 26].
- Pitted Keratolysis. [2017, July 26].