เด็กก้าวร้าว พ่อแม่ควรรับมืออย่างไร

พฤติกรรมก้าวร้าว คือ การกระทำที่มุ่งให้ผู้อื่นเจ็บตัวหรือเกิดความกระทบกระเทือนทางจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นการใช้กำลัง การใช้คำพูด รวมไปถึงการทำลายข้าวของ สำหรับวัยเด็ก พฤติกรรมเหล่านี้เป็นขั้นหนึ่งของพัฒนาการ ซึ่งต้องได้รับการขัดเกลาให้เด็กแสดงพฤติกรรมอย่างเหมาะสม เพื่อให้เด็กเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักควบคุมอารมณ์และไม่ก้าวร้าว

1553 ก้าวร้าว Resized

สาเหตุของพฤติกรรมก้าวร้าวในเด็ก

พฤติกรรมก้าวร้าวเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เด็กยังอยู่ในวัยก่อนเข้าเรียน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติและเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการ โดยเด็กอาจใช้กำลังทำให้ผู้อื่นเจ็บตัวด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ตี เตะ แย่งของเล่นจากเด็กคนอื่น และพูดหรือตะโกนอย่างใช้อารมณ์ เป็นต้น

โดยปกติ เด็กเล็กนั้นรู้สึกหงุดหงิดและโกรธได้ง่าย ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากการถูกขัดใจหรือขัดขวางเมื่อกำลังตั้งใจทำบางอย่าง รู้สึกไม่ได้รับความสนใจ หรืออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย ในบางครั้งก็อาจเป็นเพียงเพราะเด็กรู้สึกเหนื่อย กระหาย หิว และไม่รู้จะอธิบายหรือจัดการกับสิ่งที่ตนเองกำลังรู้สึกอย่างไร จึงเลือกแสดงออกด้วยพฤติกรรมที่เข้าข่ายก้าวร้าวอย่างการตี กัด หรือแสดงความโกรธออกมา

อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมเหล่านี้มักค่อย ๆ ลดลงเมื่อเด็กมีทักษะทางสังคมและภาษามากขึ้น เพราะเด็กจะเรียนรู้การแก้ปัญหาด้วยวิธีอื่น ๆ ที่เหมาะสมแทนการใช้กำลัง ซึ่งพ่อแม่และคนรอบข้างต้องคอยส่งเสริมพัฒนาการเหล่านี้ และสอนให้รู้ว่าพฤติกรรมก้าวร้าวนั้นไม่ใช่สิ่งที่ดี หากเด็กทำจะไม่ได้รับการยอมรับจากผู้อื่น

นอกจากนี้ ความก้าวร้าวในเด็กอาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยอื่น ๆ ด้วย ดังนี้

รับมือกับความก้าวร้าวของเด็กอย่างไร ?

เด็ก ๆ มักไม่สามารถควบคุมอารมณ์โกรธได้และระบายออกมาด้วยการแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว ดังนั้น การฝึกให้ลูกรู้จักควบคุมตนเองและแสดงความรู้สึกหรืออารมณ์อย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ ตัวอย่างวิธีรับมือกับความก้าวร้าวของลูกที่พ่อแม่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ มีดังนี้

เด็กก้าวร้าวแค่ไหนถึงควรไปปรึกษาแพทย์ ?

ความก้าวร้าวอย่างรุนแรงอาจเป็นสัญญาณของโรคความบกพร่องทางการเรียนรู้หรือความผิดปกติทางอารมณ์ พ่อแม่สามารถปรึกษากุมารแพทย์หากรู้สึกหมดหนทางที่จะรับมือกับความก้าวร้าวของเด็ก หรือหากพบว่าเด็กมีพฤติกรรมก้าวร้าวในลักษณะต่อไปนี้

เมื่อไปพบแพทย์ กุมารแพทย์จะให้คำแนะนำในการรับมือและทำความเข้าใจกับพฤติกรรมของลูกอย่างเหมาะสม หากคาดว่าเด็กมีปัญหาที่พ่อแม่ไม่สามารถแก้ไขเองได้ หรือมีปัญหาสุขภาพบางประการ แพทย์อาจขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญทางสุขภาพจิตและใช้แบบประเมินสุขภาพจิตกับเด็ก โดยอาจเฝ้าดูพฤติกรรมของเด็กที่บ้าน ที่โรงเรียน หรือเมื่อเล่นกับเด็กคนอื่น ๆ จากนั้นจึงวางแนวทางการรักษาที่ถูกต้องต่อไป ซึ่งการแก้ไขมักให้ผลลัพธ์ที่ดีหากตรวจพบปัญหาตั้งแต่ในระยะแรกเริ่ม