on
เจ็บลึก เจ็บนาน (ตอนที่ 3)
28 กรกฎาคม 2018
อาการของ PTSD (ต่อ)
1. มีภาวะตื่นตัวสูงผิดปกติ (Hyperarousal) มีปฏิกริยาที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งทางด้านร่างกายและอารมณ์ ซึ่งอาจมีอาการดังนี้
- สะดุ้งหรือตกใจกลัวง่าย
- คอยตั้งท่าป้องกันอันตราย (Guard for danger)
- มีพฤติกรรมที่ทำร้ายตัวเอง (Self-destructive behavior) เช่น กินมากหรือขับรถเร็ว
- นอนไม่หลับ
- ไม่มีสมาธิ
- มีพฤติกรรมที่หงุดหงิด โมโห เดือดพล่าน หรือก้าวร้าว
- รู้สึกผิดหรือละอายใจมาก
PTSD อาจเกิดได้ในเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็ก ซึ่งอาจจะมีอาการแตกต่างจากผู้ใหญ่ เช่น
- กลัวที่จะแยกจากพ่อแม่
- สูญเสียทักษะที่เคยมีเคยทำได้ เช่น การฝึกเข้าห้องน้ำ
- มีปัญหาเรื่องการนอนและฝันร้าย
- กลัว (Phobia) และวิตกกังวลในสิ่งใหม่ที่ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ เช่น กลัวสัตว์ประหลาด
- เจ็บและปวดโดยไม่มีสาเหตุ
- หงุดหงิดและก้าวร้าว
หากมีความคิดหรือความรู้สึกถึงเหตุการณ์นั้นๆ มากกว่า 1 เดือน นั่นหมายความว่า มีอาการรุนแรง ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษา เพราะการรักษายิ่งเร็วก็จะสามารถช่วยไม่ให้อาการแย่ลง
สำหรับสาเหตุของ PTSD อาจเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น
- มีประสบการณ์เครียดกดดันจากเหตุการณ์ภยันตราย
- มีความเสี่ยงทางด้านพันธุกรรม เช่น มีประวัติครอบครัวที่มีภาวะวิตกกังวล (Anxiety) และซึมเศร้า (Depression)
- มีบุคลิกภาพหรือพื้นนิสัยที่ติดตัวมาแต่กำเนิด (Temperament)
- สมองควบคุมสารเคมีและฮอร์โมนที่ทำให้มีภาวะเครียด
PTSD เกิดได้กับคนทุกวัย แต่ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้มีโอกาสเกิดมากขึ้น ได้แก่
- มีประสบการณ์ที่รุนแรงมากหรือยาวนาน
- มีประสบการณ์ได้รับภยันตรายตั้งแต่เด็ก เช่น การกระทำทารุณต่อเด็ก (Childhood abuse)
- มีอาชีพที่เพิ่มความเสี่ยงในการพบกับภยันตราย เช่น ทหาร
- มีปัญหาเรื่องการเสพที่ผิด เช่น การดื่มแอลกฮอล์ หรือ การใช้ยา
- ขาดความสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อน
- มีพันธุกรรมที่มีปัญหาทางจิต เช่น วิตกกังวล และซึมเศร้า
แหล่งข้อมูล:
- Post-traumatic stress disorder (PTSD). [2018, July 26].
- Post-Traumatic Stress Disorder (PTSD). [2018, July 26].