อาหารแช่แข็ง ไขข้อสงสัยเรื่องคุณภาพและความปลอดภัย

อาหารแช่แข็งเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะสะดวกและรวดเร็ว บางคนเลือกอาหารแช่แข็งสำเร็จรูปที่หาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป บางคนทำอาหารเองแล้วแช่แข็งไว้สำหรับมื้อต่อ ๆ ไป แต่เชื่อว่าหลายคนทีเดียวที่มีความกังวลหรือไม่แน่ใจว่าการรับประทานอาหารแช่แข็งนั้นปลอดภัยเพียงใด เสี่ยงต่อสุขภาพหรือไม่ และควรเลือกซื้ออาหารแช่แข็งหรือแช่อาหารอย่างไรให้ปลอดภัยและมีคุณภาพสูงสุดกันแน่

อาหารแข่แข็ง

เคล็ดลับการเลือกซื้ออาหารแช่แข็งสำเร็จรูปอย่างมีสุขภาพ

อาหารแช่แข็งแม้จะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพที่สุด แต่หากมองหาความสะดวกรวดเร็วเป็นหลักก็ถือว่าดีในระดับปานกลาง ทั้งยังอาจช่วยในด้านการควบคุมอาหารได้เพราะมักมีสัดส่วนสารอาหารต่าง ๆ ระบุไว้บนฉลาก อย่างไรก็ตาม หลักการเลือกอาหารแช่แข็งสำเร็จรูปอย่างชาญฉลาดก็เป็นอีกสิ่งสำคัญ โดยมีข้อคำนึงดังนี้

เลือกเมนูอาหารแช่แข็งสุขภาพ วิธีง่าย ๆ ในการเลือกอาหารแช่แข็ง ขั้นแรก อาจเริ่มจากการมองหาอาหารที่มีผักเป็นส่วนประกอบในปริมาณมาก ซึ่งมักทำให้อาหารดังกล่าวมีแคลอรี่ต่ำกว่า แต่มีวิตามิน แร่ธาตุ และเส้นใยอาหารสูงกว่าอาหารแช่แข็งที่มีผักน้อย หากเป็นไปได้ควรเลือกข้าวกล้องหรือธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี ส่วนเนื้อสัตว์ก็ให้เลือกที่ไม่ติดมัน เช่น เนื้อไก่หรือเนื้อปลา

ตรวจสอบฉลากโภชนาการ สิ่งสำคัญในการเลือกซื้ออาหารแช่แข็งคือการอ่านฉลากโภชนาการบนผลิตภัณฑ์ เพื่อให้แน่ใจว่าอาหารนั้น ๆ มีสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ โดยควรเลือกอาหารแช่แข็งที่ให้พลังงานต่ำกว่า 300 แคลอรี่ และประกอบด้วยไขมันไม่เกิน 8 กรัม ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าอาหารแช่แข็งทั่วไปซึ่งมักจะให้พลังงานถึง 360-400 แคลอรี่ และมีไขมันสูงถึง 25 กรัม

ขั้นต่อไปคือการตรวจสอบสารอาหารอื่น ๆ ตามฉลากโภชนาการ เพราะอาหารแช่แข็งบางประเภทอาจเต็มไปด้วยไขมัน โซเดียม และมีแคลอรี่สูงอย่างคาดไม่ถึง แม้จะเป็นอาหารที่ประกอบด้วยเนื้อสัตว์ไร้มันหรือมีผักมาก ๆ ก่อนเลือกซื้ออาหารแช่แข็งใด ๆ จึงควรเสียเวลาดูฉลากสักนิดเพื่อความคุ้มค่าในการได้รับประทานอาหารที่ดีที่สุดต่อสุขภาพ

การรับประทานอาหารแช่แข็งยังต้องระมัดระวังปริมาณโซเดียมเป็นพิเศษ เพราะอาจมีโซเดียมอยู่สูงมาก ผู้บริโภคควรเลือกอาหารที่มีโซเดียมน้อยกว่า 800 มิลลิกรัม เทียบเท่ากับ 1 ใน 3  ของปริมาณที่แนะนำต่อวันแล้ว (2,400 มิลลิกรัม) ส่วนผู้ที่กำลังควบคุมหรือจำเป็นต้องจำกัดปริมาณโซเดียมให้อยู่ในระดับต่ำ ควรได้รับโซเดียมจากอาหารเพียง 1 ใน 3 ของปริมาณปกติที่แนะนำต่อวัน แล้วเลือกรับประทานอาหารที่มีโซเดียมโดยรวมไม่เกินจากนี้ในแต่ละวัน

อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาเกินจริง ถ้อยคำโฆษณาบนผลิตภัณฑ์ที่กล่าวอ้างอาจจะไม่เป็นจริงเสมอไป ผู้ประกอบการบางรายอาจเลือกใช้คำที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด เช่น การติดป้ายว่าออร์แกนิกหรือธรรมชาติ แต่ไม่อาจระบุได้แน่ชัดว่ามีกระบวนการใดที่ทำให้ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ มีคุณสมบัติดังกล่าวอย่างไร รวมถึงการชักจูงให้ซื้อด้วยการอ้างว่าปราศจากวัตถุกันเสีย ซึ่งแท้จริงแล้วอาหารแช่แข็งส่วนใหญ่ล้วนปราศจากสารกันเสียอยู่แล้ว เพราะใช้ความเย็นในการป้องกันการเน่าเสียของอาหาร หรืออาหารบางชนิดก็อาจแบ่งหน่วยบริโภคเป็นมากกว่า 1 หน่วย หลอกล่อให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดว่ามีปริมาณสารอาหารบางชนิดหรือแคลอรี่น้อยกว่าอาหารแช่แข็งอื่น ๆ ซึ่งหน่วยที่ต่างกันย่อมเทียบกันไม่ได้

ข้อคำนึงเกี่ยวกับสารอาหาร ข้อสรุปแนวทางการเลือกอาหารแช่แข็งที่เป็นมิตรกับสุขภาพ มีหลักง่าย ๆ คือ มองหาอาหารแช่แข็งที่ให้พลังงานในระหว่าง 250-300 แคลอรี่ เลือกที่มีไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 4 กรัม โซเดียมต่ำกว่า 800 มิลลิกรัม และมีเส้นใยอาหารอย่างน้อย 3-5 กรัม

เพิ่มอาหารสดเพิ่มคุณค่าสารอาหารต่อสุขภาพ คุณภาพของอาหารแช่แข็งกับอาหารที่ปรุงสดใหม่ย่อมให้ความรู้สึกแตกต่างและไม่อาจทดแทนกันได้ เพื่อสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นอาจเพิ่มสลัดผักหรือผลไม้ต่าง ๆ ในมื้ออาหาร เพราะไม่เพียงแต่ผักผลไม้จะช่วยเสริมวิตามิน แร่ธาตุ และเส้นใยอาหาร แต่ยังช่วยให้รู้สึกอิ่มยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออาหารมื้อนั้นมีแคลอรี่ต่ำ เพราะแม้จะควบคุมสัดส่วนอาหารในอาหารแช่แข็งได้ แต่หากรับประทานแล้วยังคงรู้สึกหิวอยู่ก็คงไม่ส่งผลดีนัก

เคล็ดลับการแช่แข็งอาหารอย่างปลอดภัยและมีคุณภาพ

สำหรับผู้ที่ต้องการทำอาหารล่วงหน้าสำหรับมื้อต่อไปหรือเก็บไว้นาน ๆ การแช่แข็งอาหารในตู้เย็นเป็นวิธีการเก็บรักษาอาหารที่ค่อนข้างมีความปลอดภัยสูง แต่หากใช้วิธีการแช่แข็งที่ไม่เหมาะสมก็อาจนำมาซึ่งรสชาติและรสสัมผัสอันไม่พึงประสงค์เมื่อรับประทาน การแช่แข็งอาหารจะต้องคำนึงถึงหลักต่าง ๆ ดังนี้

การจะเก็บรักษาอาหารได้ตามหลักข้างต้นต้องบรรจุอาหารในหีบห่อภาชนะและเก็บรักษาอย่างเหมาะสม ซึ่งมีข้อแนะนำดังต่อไปนี้

อาหารแช่แข็งเก็บรักษาได้นานแค่ไหน

อาหารแช่แข็งสำเร็จรูปแต่ละชนิดมีระยะเวลาในการเก็บรักษาที่แตกต่างกัน ก่อนซื้อหรือรับประทานควรตรวจดูวันหมดอายุเสมอ ส่วนอาหารแช่แข็งทั่วไปจะมีช่วงระยะเวลาที่คงคุณภาพสูงสุด ดังนี้

สำหรับอาหารชนิดอื่นที่ไม่ได้กล่าวถึง มีวิธีการตรวจสอบคุณภาพด้วยการทำให้ละลาย หากดมแล้วพบว่าเริ่มส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ควรทิ้งทันที ทั้งนี้วัตถุดิบบางชนิดที่ดูมีลักษณะไม่ดีเหมือนเคย แต่น่าจะยังมีคุณภาพในระดับที่รับประทานได้ สามารถลองนำมาใช้ประกอบในซุปหรืออาหารที่มีการเคี่ยว และหากมีบางส่วนของอาหารถูกอากาศจนเกิดรอยช้ำหรือคุณภาพเสียหายจนมีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลอมเทาบนผิวหนังให้ตัดบริเวณดังกล่าวออก ส่วนอาหารสดแช่แข็งที่นำมาทำให้สุกแล้วรู้สึกว่ารสชาติยังใช้ได้อยู่ก็สามารถรับประทานได้เช่นกัน

ความปลอดภัยของอาหารแช่แข็ง

อาหารแช่แข็งที่ถูกเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียสอย่างต่อเนื่องนั้นปลอดภัยจากเชื้อโรคเสมอ เนื่องจากการแช่แข็งจะช่วยชะลอการเคลื่อนไหวของโมเลกุล ทำให้จุลินทรีย์ภายในอาหารหยุดเจริญเติบโตชั่วคราว โดยจุลินทรีย์เหล่านี้เองที่เป็นสาเหตุของการเน่าเสียและโรคจากอาหารเป็นพิษ แต่คุณภาพอาหารที่แช่แข็งก็อาจแตกต่างไปความเหมาะของกระบวนการแช่แข็งดังข้างต้น

นอกจากนี้ เอนไซม์ในอาหารก็ยังทำให้คุณภาพของอาหารเสื่อมลงได้เช่นกัน โดยเอนไซม์เหล่านี้พบได้ในเนื้อสัตว์ รวมถึงผักและผลไม้ที่เกิดปฏิกิริยาเคมีในช่วงก่อนและหลังการเก็บเกี่ยว เช่นในขณะที่ผักผลไม้กำลังสุก แต่การแช่แข็งจะช่วยชะลอการทำงานของเอนไซม์ที่เกิดขึ้นในอาหารได้เท่านั้น ไม่ได้ช่วยยับยั้งเอนไซม์เหมือนกับที่ยับยั้งแบคทีเรียได้ อย่างไรก็ตาม การทำงานของเอนไซม์ไม่ได้ทำให้อาหารแช่แข็งจำพวกเนื้อสัตว์หรือเนื้อปลาเสียหาย ส่วนผลไม้ต่าง ๆ นั้นก็มีกรดที่จะทำให้เกิดความเป็นกลางขณะแช่แข็ง ทว่าผักส่วนใหญ่นั้นมักมีกรดต่ำและจำเป็นต้องทำให้สุกบางส่วนเสียก่อนที่จะนำไปแช่แข็งเพื่อป้องกันการเน่าเสีย โดยอาจลวกผักในน้ำร้อนหรือนำเข้าไมโครเวฟแล้วแช่ในน้ำเย็นทันที ก่อนจะนำเข้าช่องแช่แข็งต่อไป

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับอาหารแช่แข็ง