ออทิสติกแท้และเทียม (ตอนที่ 8)

4 กุมภาพันธ์ 2018

      

      และหากเด็กมีปัญหาเรื่องพฤติกรรม อาจจะต้องมีการประเมินถึงตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดปัญหา เช่น สภาพร่างกาย สภาพจิตใจ หรือปัจจัยแวดล้อม ซึ่งบางกรณีที่เด็กมีปัญหาเรื่องวิตกกังวล ก็อาจจะต้องใช้การบำบัดทางสังคมจิตใจ (Psychosocial treatment)

ส่วนยาที่ใช้ในผู้ป่วยที่เป็นออทิสติก มักได้แก่

• ยานอนหลับ เช่น Melatonin
• ยาต้านซึมเศร้า เช่น ยากลุ่ม SSRI (Selective serotonin reuptake inhibitor)
• ยากันชัก (Anticonvulsant)
• ยารักษาโรคสมาธิสั้น เช่น ยา Methylphenidate
• ยาแก้พฤติกรรมก้าวร้าว เช่น การร้องอาละวาด (Tantrum) หรือ การทำร้ายตัวเอง (Self-harming)

ซึ่งยาเหล่านี้เป็นยาที่จ่ายโดยแพทย์ เนื่องจากเป็นยาที่มีผลข้างเคียงจากการใช้ด้วย ดังนั้น จึงควรนำเด็กหรือผู้ที่เป็นออทิสติกไปพบแพทย์สม่ำเสมอเพื่อประเมินและติดตามผล

ส่วนการรักษาที่ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่เป็นออทิสติก เพราะยังไม่มีรายงานผลการรักษาหรือยังมีรายงานความสำเร็จที่น้อย ได้แก่

• อาหารบางชนิด เช่น อาหารปลอดกลูเตนหรืออาหารปลอดเคซีน (Casein-free diets)
• นิวโรฟีดแบค (Neurofeedback) ซึ่งเป็นการส่งเสริมศักยภาพทางสมองให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• Auditory integration training ที่ใช้เสียงดนตรีในระดับต่างๆ
• การทำคีเลชั่น (Chelation therapy) เพื่อเอาสารโลหะหนักออกจากร่างกาย
• การรักษาด้วยออกซิเจนความดันบรรยากาศสูง (Hyperbaric oxygen therapy)
• การบำบัดรักษาด้วยอิมมูโนโกลบูลิน (Intravenous immunoglobulin (IVIG) infusions) ซึ่งเป็นการให้สารภูมิต้านทานทางหลอดเลือด
• การใช้เครื่องช่วยสื่อสาร (Facilitated communication)

การดูแลเด็กออทิสติกเป็นงานที่เหนื่อยทั้งทางด้านร่างกายและทางด้านอารมณ์ ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำที่อาจช่วยได้

• หาทีมแพทย์ที่ไว้ใจได้
• จดบันทึกการเข้ารับการรักษา เพื่อดูพัฒนาการและช่วยตัดสินใจในการเลือกวิธีการรักษา
• เรียนรู้เกี่ยวกับความผิดปกติ เพื่อจะได้เข้าใจในการเป็นออทิสติกมากขึ้น
• หาเวลาพักผ่อนให้กับตัวเองเพื่อคลายเครียดจากการที่ต้องดูแลเด็ก
• หากลุ่มครอบครัวที่เด็กมีปัญหาเหมือนกัน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและคำแนะนำ

แหล่งข้อมูล:

1. Autism spectrum disorder (ASD). [2018, February 3].
2. Autism spectrum disorder. [2018, February 3].