หูดข้าวสุก อาการ สาเหตุ และการรักษาโรคหูดข้าวสุก 20 วิธี

โรคหูดข้าวสุก

หูดข้าวสุก (Molluscum contagiosum) เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส Molluscum contagiosum virus ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสคนละชนิดกับที่ทำให้เกิดหูดทั่วไป เป็นโรคที่พบได้บ่อยทั่วโลก ในประเทศสหรัฐอเมริกาพบได้ประมาณ 1% ของประชากรทั้งหมด และจะมีอัตราการเกิดมากขึ้นในประเทศเขตร้อน พบได้ทุกเพศทุกวัยตั้งแต่ในเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป ซึ่งเชื้อไวรัสชนิดนี้สามารถเข้าไปในผิวหนังที่แตก ลอก หรือผิวหนังที่เป็นแผล และกลายเป็นหูดข้าวสุกได้ แต่จะไม่มีผลกระทบต่ออวัยวะภายใน

สาเหตุของหูดข้าวสุก

หมายเหตุ : เชื้อไวรัสเอ็มซีวีมีอยู่ด้วยกัน 4 ชนิดย่อย ได้แก่ MCV subtype 1, 2, 3 และ 4 โดยทั้ง 4 ชนิดนี้จะมีลักษณะอาการและวิธีการรักษาเหมือนกัน โดย MCV subtype 1 จะเป็นสาเหตุในการเกิดโรคมากที่สุด 98%

อาการของหูดข้าวสุก

เป็นตุ่มขึ้นตามผิวหนัง มักพบขึ้นตามลำตัว แขนขา รักแร้ ข้อพับแขน ขาหนีบ บริเวณอวัยวะเพศ (โดยเฉพาะในผู้ใหญ่) และอาจพบได้ที่บริเวณใบหน้าและรอบดวงตา โดยจะมีลักษณะขึ้นเป็นกลุ่ม และมักพบมากกว่า 1 แห่ง ตุ่มหูดข้าวสุกจะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-6 มิลลิเมตร ในบางครั้งอาจมีขนาดใหญ่ถึง 1-3 เซนติเมตร ตัวหูดจะมีลักษณะเป็นสีเหลืองหรือเป็นสีของผิวหนัง (สีเนื้อ) รูปโดม และมีลักษณะเฉพาะคือ ผิวหูดจะเรียบเป็นมันคล้ายไข่มุกและตรงกลางจะมีรอยบุ๋มลงไปคล้ายสะดือ เมื่อกดหรือบีบให้แตกหรือใช้เข็มสะกิดจะมีเนื้อหูดเละ ๆ สีขาวคล้ายข้าวสุกไหลออกมา หูดชนิดนี้จะไม่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บหรือคัน แต่ในบางครั้งอาจมีอาการบวมแดงอักเสบร่วมด้วย (ในผู้ป่วยเอดส์มักจะมีตุ่มเกิดขึ้นใหม่อยู่เรื่อย ๆ ตุ่มมักมีขนาดใหญ่ มีจำนวนมาก และคงอยู่นาน กระจายไปทั่วตัว ตามศีรษะ คอ หน้า และอวัยวะเพศ)

หูดข้าวสุก

ลักษณะหูดข้าวสุก

อาการหูดข้าวสุก

หูดข้าวสุกในเด็ก

ผลข้างเคียงของหูดข้าวสุก

ภาพหูดข้าวสุก

การวินิจฉัยโรคโรคหูดข้าวสุก

แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคหูดข้าวสุกได้จากการตรวจรอยโรคที่ผิวหนังด้วยตาเปล่า ซึ่งจะพบลักษณะเฉพาะคือ เป็นตุ่มที่มีรอยบุ๋มคล้ายสะดือตรงกลางรอยโรค แต่ในผู้ป่วยที่มีลักษณะของรอยโรคไม่ชัดเจน แพทย์จะตัดชิ้นเนื้อที่รอยโรคเพื่อไปตรวจทางพยาธิวิทยา หรือเพียงแต่ใช้เข็มเจาะหรือดูดเอาสารภายในรอยโรคมาย้อมสีด้วยเทคนิคทางการแพทย์ เพื่อตรวจหาก้อน Molluscum bodies ซึ่งจะเห็นเป็นสารสีส้มในสไลด์  ในรายที่มีหูดข้าวสุกขึ้นกระจายอยู่เป็นจำนวนมาก หรือหูดข้าวสุกมีขนาดใหญ่ แพทย์อาจขอตรวจเลือดดูว่ามีการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ด้วยหรือไม่

วิธีรักษาหูดข้าวสุก

คำแนะนำ : ห้ามใช้ยาทาทุกชนิดในหญิงตั้งครรภ์ (ยกเว้น TCA) และถึงแม้ว่าจะสามารถซื้อมาทาเองได้ที่บ้าน แต่แนะนำว่าควรไปพบแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อให้การใช้ยาอยู่ภายใต้การรักษาดูแลของแพทย์ เพราะตัวยาที่กล่าวมานั้นยังอยู่ในการศึกษาทดลองใช้ เพราะในปัจจุบันยังไม่มียาตัวใดที่ได้รับการรับรองหรือแนะนำจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ เพื่อใช้รักษาหูดข้าวสุกโดยเฉพาะ เพียงแต่ได้มีการศึกษาทดลองใช้ในการรักษาหูดข้าวสุกในเด็กและในผู้ป่วยเอดส์มากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ขนาดและวิธีการใช้ยาจึงแตกต่างกันไปตามแต่ละสูตรการรักษา

ข้อควรรู้ : แม้หูดข้าวสุกจะเป็นโรคที่สามารถหายได้เองเมื่อไม่ได้รับการรักษา แต่ก็เป็นโรคที่มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้บ่อยหลังการรักษา หรือหลังการหายจากโรคในครั้งแรก ประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ป่วยทั้งหมด

วิธีป้องกันหูดข้าวสุก

  1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสรอยโรคของผู้ป่วยที่เป็นหูดข้าวสุก เช่น การมีเพศสัมพันธ์ การเล่นกีฬาที่ต้องมีการสัมผัสกัน (เช่น มวยปล้ำ) ฯลฯ
  2. ควรล้างมือให้สะอาดอยู่เป็นประจำด้วยสบู่ล้างมือเมื่อสัมผัสสิ่งของสาธารณะ
  3. ควรทำความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้ที่ใช้ร่วมกันเป็นประจำ โดยเฉพาะอุปกรณ์ในสถานที่ที่ใช้ร่วมกัน เช่น ในสถานที่ออกกำลังกาย
  1. ไม่ใช้สิ่งของหรือของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า เสื้อผ้า รองเท้า ฯลฯ หรือเก็บหรือวางปะปนกับของผู้อื่น
  2. รักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์รวมทั้งผักและผลไม้ที่มีวิตามินหลายอย่างคละเคล้ากันไป
  3. มีสามีหรือภรรยาคนเดียว
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2.  “หูดข้าวสุก”.  (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).  หน้า 979.
  2. หาหมอดอทคอม.  “หูดข้าวสุก Molluscum contagiosum”.  (ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.พนัส เฉลิมแสนยากร).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : haamor.com.  [26 มี.ค. 2016].
  3. สถานบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข.  “หูดข้าวสุก (Molluscum contagiosum)”.  (พญ.พิมลพรรณ กฤติยรังสรรค์).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.inderm.go.th.  [26 มี.ค. 2016].
  4. ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล.  “โรคติดเชื้อระบบสืบพันธุ์น่ารู้: หูดข้าวสุก”.  (อ.พญ.เจนจิต ฉายะจินดา, ปารีดา เปิ่นสูงเนิน).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.si.mahidol.ac.th.  [27 มี.ค. 2016].

ภาพประกอบ : www.pcds.org.uk, qsota.com, www.healthline.com

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ()

  • 1 โรคหูดข้าวสุก
  • 2 สาเหตุของหูดข้าวสุก
  • 3 อาการของหูดข้าวสุก
  • 4 ผลข้างเคียงของหูดข้าวสุก
  • 5 การวินิจฉัยโรคโรคหูดข้าวสุก
  • 6 วิธีรักษาหูดข้าวสุก
  • 7 วิธีป้องกันหูดข้าวสุก
  • 8 เรื่องที่เกี่ยวข้อง
  • 9 เอกสารอ้างอิง
เรื่องที่น่าสนใจ