on
หัวใจตีบตัน (ตอนที่ 4)
22 กุมภาพันธ์ 2017
อาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดจากภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบตัน (ต่อ)
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ (Arrhythmia) - การที่เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่พอหรือการที่เนื้อเยื่อหัวใจถูกทำลาย จะสามารถรบกวนการเต้นของหัวใจได้ ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ
การวินิจฉัยโรคสามารถทำได้ด้วยการตรวจสภาพร่างกาย และทำการทดสอบดังต่อไปนี้
- ตรวจเลือด (Blood tests) - เพื่อตรวจการทำงานของหัวใจ อาจตรวจระดับ Cardiac enzyme เพื่อดูว่ากล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลายหรือไม่
- การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram = ECG) - คลื่นไฟฟ้าหัวใจเป็นสัญญาณไฟฟ้าที่สามารถระบุถึงภาวะหัวใจวายที่เคยเป็นหรืออยู่ระหว่างการเป็น
หรือใช้เครื่องบันทึกการทำงานของหัวใจ (Holter monitoring) เพื่อติดตามคลื่นไฟฟ้าหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง ว่าเกิดคลื่นไฟฟ้าใดผิดปกติบ้าง ซึ่งสามารถแสดงถึงความไม่เพียงพอของเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ
- การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Echocardiogram) - เพื่อแสดงภาพของหัวใจ ทำให้เห็นได้ว่าผนังหัวใจทำหน้าที่สูบฉีดเลือดได้ตามปกติหรือไม่
ในส่วนที่มีการเคลื่อนไหวช้าอาจจะเกิดจากการถูกทำลายระหว่างที่มีภาวะหัวใจวายหรือได้รับออกซิเจนน้อยเกินไป ซึ่งอาจแสดงให้เห็นถึงภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบตันหรือภาวะอื่นๆ ก็ได้
- การทดสอบภาวะวิกฤต (Stress test) – ผู้ที่มักมีอาการขณะออกกำลังกาย แพทย์อาจสั่งให้ทดสอบด้วยการเดินบนสายพานหรือปั่นจักรยานอยู่กับที่ (Stationary bike) ระหว่างการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) หรืออาจใช้ยากระตุ้นหัวใจแทนการออกกำลังกาย
การทดสอบภาวะวิกฤตบางอย่างอาจทำระหว่างการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง เช่น แพทย์อาจจะทำอัลตราซาวด์ก่อนและหลังการออกกำลังกายบนสานพานหรือปั่นจักรยาน หรืออาจใช้ยากระตุ้นหัวใจระหว่างการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Echocardiogram)
ส่วนการทดสอบที่เรียกว่า Nuclear stress test นั้น จะช่วยวัดการไหลเวียนของเลือดไปยังหัวใจขณะที่อยู่เฉยๆ และขณะที่มีภาวะวิกฤต คล้ายกับการทดสอบระหว่างการออกกำลังกายปกติ แต่แสดงเป็นภาพแทนที่จะเป็นคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และมีการฉีดสารกัมมันตรังสีตามรอย (Tracer) เข้าสู่กระแสเลือด พร้อมใช้กล้องพิเศษจับหาภาพหัวใจบริเวณที่มีการไหลของเลือดได้น้อย
- การตรวจสวนหัวใจหรือการฉีดสี (Cardiac catheterization or angiogram) – เพื่อดูการไหลเวียนของเลือดไปยังหัวใจ สีจะทำให้เห็นถึงจุดที่หลอดเลือดตีบ หากต้องรักษาก็จะทำบอลลูนเพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
ซึ่งขั้นตอนในการฉีดสี จะมีการสวนท่อผ่านทางขาหนีบหรือแขนไปยังหลอดเลือด (Coronary arteries) มีการฉีดสีในท่อเพื่อแสดงให้เห็นถึงการสูบฉีดเลือดของหัวใจ และมีการถ่ายภาพด้วยเอกซเรย์เพื่อดูว่ามีส่วนใดที่ตีบตันบ้าง ทั้งนี้ มักมีการวางยาสลบก่อนทำ
บรรณานุกรม
1. Coronary artery disease. [2017, February 21]
2. Coronary heart disease. [2017, February 21]