สาระน่ารู้จากหมอตา ตอน แสงสีฟ้ากับนาฬิกาชีวิต

5 ตุลาคม 2017
เรื่องน่ารู้จากหมอตา-16

มีหลายท่านประเมินไว้ว่า แสงสีฟ้าใช่ว่าจะมีแต่โทษอย่างเดียว ยังมีส่วนที่ดีที่สำคัญ ได้แก่

1. ช่วยให้การเห็นเวลากลางคืน (night vision) ดีขึ้น

2. ช่วยปรับนาฬิกาชีวิต (circadian rhythm)

ในภาวะปกติคนเรามีการปรับตัวในเวลากลางวันรู้สึกตัว ตื่นตัว กระตือรือร้นมีความสนใจ มีความจำดี ในขณะที่เวลากลางคืนจะรู้สึกอยากพัก ง่วงนอน เป็นวงจรที่เรียกกันว่า circadian rhythm ซึ่งวงจรนี้เชื่อว่าเกี่ยวกับการสร้างหรือการลดการสร้างของ melatonin ที่ขึ้นกับแสงสีฟ้า ถึงร้อยละ 55 หรือพูดง่ายๆ แสงสีฟ้ามีอิทธิพลต่อการปรับตัวตามนาฬิกาชีวิตของคนเรา เชื่อกันว่าต่อม pineal (pineal gland) ซึ่งอยู่เหนือสมองมีรูปไข่คล้ายเม็ดสน (pine cone) ทำหน้าที่คล้ายผู้บัญชาการให้เกิดเป็นวงจรนาฬิกาชีวิต วงจรนี้อาจแบ่งได้เป็น 2 ส่วน

1. ในเวลากลางวันเวลาที่ถูกแสง (circadian light cycle) ซึ่งมี serotonin เพิ่มขึ้น เกิดกระบวนต่างๆ

2. ในเวลากลางคืน (circadian dark cycle) ร่างกายสัมผัสกับแสงสลัว หรือค่อนข้างมืด แสงสีฟ้าจะเกิด

มีการศึกษาพบว่าผู้สูงอายุ (มากกว่า 65 ปี) มักมีอาการซึมเศร้า นอนไม่หลับสูงถึง 46% จากการที่

ผู้สูงอายุสัมผัสกับแสง โดยเฉพาะแสงสีฟ้าน้อยกว่าคนหนุ่ม อีกทั้งผู้สูงอายุมักมีภาวะแก้วตาเสื่อมออกสีเหลือง ซึ่งกันแสงสีฟ้าและม่านตามักจะหดเล็กลงทำให้ได้รับแสงสีฟ้าน้อยลง

นอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตถึงประโยชน์ของแสงสีฟ้าที่นำมาใช้ในทางการแพทย์

1. รักษาภาวะตัวเหลืองในเด็กอ่อน (neonatal jaundice) ภาวะ Crigler – Najjar syndrome

2. ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย

3. รักษาสิว

4. ป้องกันโรคฟัน (ดังจะเห็นมีการฉายแสงสีฟ้าระหว่างการทำฟัน)

5. ใช้รักษาโรคซึมเศร้าบางอย่าง (seasonal affected disorder)

6. ปรับนาฬิกาชีวิตในคนสูงอายุ ฯลฯ