สาระน่ารู้จากหมอตา ตอน ต้อหินฉับพลันจากยา

16 กรกฎาคม 2015
สาระน่ารู้จากหมอตา

ยามีประโยชน์อย่างมากในการรักษาโรคก็จริง คำพูดที่ว่าของที่ดีก็มีส่วนที่เสียอยู่บ้าง ยาเกือบทุกตัวมีข้อดีมาก แต่ก็มักมีข้อเสียหรืออาจเรียกว่ามีผลข้างเคียงที่ไม่ดีร่วมด้วย ยาหยอดตาก็เช่นกัน บางตัวอาจมีผลข้างเคียงที่รุนแรงดังตัวอย่างนี้

คุณยายแดงอายุ 70 ปี ป่วยเป็นโรคเบาหวานมาประมาณ 20 ปี ได้รับยาควบคุมเบาหวานอย่างดีมาตลอด คุณยายได้รับคำแนะนำจากหมอรักษาเบาหวานว่าควรไปรับการตรวจตา พบว่าสายตาของคุณยายมัวลงเล็กน้อย จากเริ่มมีต้อกระจก (พบได้เสมอในวัยขนาดนี้) โดยที่คุณยายไม่รู้สึกว่าตามัวเลย ความดันตาปกติ เนื่องจากหมอต้องการตรวจจอตาอย่างละเอียด จึงได้หยอดยาขยายม่านตาด้วยยาขยายม่านตา ใช้เวลา 15 นาที ม่านตาขยาย สามารถตรวจจอตาได้อย่างละเอียด พบว่ายังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ด้วยเหตุที่การควบคุมเบาหวานค่อนข้างดี เมื่อคุณยายกลับมาบ้านในราว 2 ชั่วโมงต่อมา เริ่มรู้สึกตาขยายพร่ามัวร่วมกับปวดศีรษะด้านขวาอย่างมาก จึงไปนอนพักอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา อาการปวดและพร่ามัวมากขึ้นจนทนไม่ไหว กลับมาพบหมอคนเดิม จึงพบว่าตาขวาคุณยายเป็นต้อหินเฉียบพลัน ตาขวามัวลงมากร่วมกับความดันตา 50 มม.ปรอท (เดิม 15 มม.ปรอท) น่าจะเป็นผลจากยาขยายม่านตาเป็นตัวกระตุ้นให้เกิด เมื่อตรวจตาอย่างละเอียดจึงพบว่าช่องหน้าตา (anterior chamber) ของคุณยายแคบมาก เป็นที่ทราบกันว่าช่องหน้าตาที่แคบมีแนวโน้มที่จะเกิดต้อหินเฉียบพลัน หลังจากได้ยาลดความดันตาและรับการรักษาด้วยแสงเลเซอร์ (ซึ่งควรทำทั้ง 2 ตา) สายตาก็หายเป็นปกติ รวมทั้งอาการปวดตาปวดศีรษะก็หายไปด้วย

ต้อหินเฉียบพลันเป็นโรคที่พบในคนสูงอายุที่มีช่องหน้าตาแคบ (อายุยิ่งมากช่องนี้จะยิ่งแคบลง) แล้วถูกกระตุ้นด้วยม่านตาที่ขยาย ซึ่งอาจขยายจากการหยอดยาขยาย หรือรับประทานยาบางตัวที่มีผลทำให้ม่านตาขยายตลอดจนการอยู่ในที่มืด คุณยายแดงม่านตาขยายจากยาหยอดตา ผู้สูงอายุที่รับการตรวจตาด้วยการขยายม่านตาจึงควรระวัง หากภายใน 3-4 ชั่วโมงหลังการหยอดตา ตายังพร่ามัวร่วมกับปวดตา ปวดศีรษะด้วย ควรรีบกลับไปพบหมอคนเดิม โดยทั่วไปเมื่อจำเป็นต้องขยายม่านตาเพื่อตรวจจอตา หากผู้ป่วยนั้นมีช่องหน้าตาแคบที่มีแนวโน้มเกิดต้อหินเฉียบพลัน อาจต้องใช้แสงเลเซอร์เจาะม่านตาก่อนจะปลอดภัยกว่า ซึ่งผู้ป่วยบางรายอาจปฏิเสธ เพราะลักษณะที่ตรวจพบว่ามีแนวโน้มจะเป็นต้อหินนั้นมิได้ต้องเป็นทุกราย สำหรับคุณยาย ถ้าไม่ได้รับการหยอดยาขยายม่านตา สักวันหนึ่งเมื่ออยู่ในที่มืดม่านตาขยาย และต้อกระจกหนาขึ้น ก็อาจเกิดต้อหินเฉียบพลันได้

ยาขยายม่านตามีประโยชน์ในการตรวจ จอตา น้ำวุ้นตา ประสาทตาได้ละเอียด ตลอดจนใช้รักษาโรคม่านตาอักเสบก็จริง แต่ผลข้างเคียงนอกจากทำให้ตาพร่ามัว สู้แสงไม่ได้ มองใกล้ไม่ชัด ในบางรายอาจกระตุ้นให้เกิดต้อหินเฉียบพลันได้

นอกจากยาขยายม่านตาแล้วยังมียาตัวอื่นที่อาจก่อให้เกิดต้อหินเฉียบพลัน ได้แก่

  1. ยาที่มีผลทำให้ม่านตาขยาย เช่น
    • amphetamine
    • ยาลดความเครียด
    • ยาที่รักษาภาวะหัวใจเต้นช้า
    • ยาที่มีฤทธิ์ anticholinergic หรือมีฤทธิ์ adrenergic
    • antihistamine ทั้ง H1 และ H2 เช่น chlorpheniramine, cimetidine เป็นต้น
  2. ยาที่มีผลทำให้ ciliary body บวมและมีการเคลื่อนมาข้างหน้าของทั้งแก้วตาและม่านตา ทำให้ความดันตาขึ้นอย่างฉับพลัน
    • ยาในกลุ่ม prostaglandin
    • diamox
    • ยาในกลุ่ม sulpha เช่น topiramate ที่รักษา epilepsy และ migrain
    • pilocarpine

ดังนั้น ยาทุกตัวมีประโยชน์แต่ก็อาจมีผลข้างเคียง จึงควรใช้อย่างระมัดระวัง