สารมีพิษจากแมลง (ตอนที่ 2)

15 พฤษภาคม 2018
สารมีพิษจากแมลง-2

      

      ด้วงก้นกระดกขนาดโตเต็มที่มักจะมีขนาดยาวประมาณ 7-10 มิลลิเมตร และกว้างประมาณ 0.1-1 มิลลิเมตร หรือตัวโตกว่ายุงเล็กน้อย มีหัวสีดำ ลำตัวมีสีดำสลับกับส้ม พบมากทั้งในต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ โดยเฉพาะบริเวณพงหญ้าที่มีความชื้น หลังฝนตก หรือระหว่างฤดูฝน ด้วงก้นกระดกจะชอบออกมาเล่นไฟนีออนที่มีแสงสีขาว และด้วยขนาดตัวที่เล็กทำให้สามารถเล็ดลอดช่องประตูเข้ามาได้

      ปกติแมลงชนิดนี้จะไม่กัดหรือต่อย การสัมผัสกับสารพีเดอรินที่อยู่ในท้องของตัวด้วงก้นกระดกเกิดจากการที่คนตีหรือขยี้แมลงบนผิวหนังไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ซึ่งจะทำให้เกิดอาการผิวหนังอักเสบจากด้วงก้นกระดก (Paederus dermatitis / night burn) โดยด้วงก้นกระดกแต่ละตัวจะมีปริมาณสารพีเดอรินอยู่เพียงเล็กน้อย กล่าวคือ เพียงร้อยละ 0.025 ของน้ำหนักตัว

      บริเวณที่พบรอยโรคได้มากที่สุด ก็คือ บริเวณคอและใบหน้า บางครั้งอาจก่อให้เกิดอาการปวด บวมรอบตา (Peri-orbital swelling) เยื่อบุตาอักเสบเป็นหนอง (Purulent conjunctivitis) การลอกหลุดของผิวกระจกตา (Corneal erosions) และตาบอด เนื่องจากมีการสัมผัสกับสารพีเดอรินที่มาจากส่วนอื่นของร่างกาย จนปนเปื้อนมากับนิ้วมือและมาสัมผัสกับตา โดยอาการที่ตามีชื่อเรียกเฉพาะว่า Nairobi eye

      ทั้งนี้ ภาวะผื่นผิวหนังอักเสบ อาจจะไม่สังเกตุเห็นได้ทันที แต่จะใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน จนเกิดอาการดังต่อไปนี้

      สำหรับการป้องกันภาวะผื่นผิวหนังอักเสบจากการสัมผัสกับด้วงก้นกระดกทำได้ด้วยการ

      อนึ่ง ในปัจจุบันสารพีเดอรินและอนุพันธ์อยู่ระหว่างการทำวิจัยเพื่อใช้เป็นยาต้านมะเร็ง เพราะส่วนประกอบของสารนี้สามารถยับยั้งโปรตีนและกระบวนการชีวสังเคราะห์ดีเอ็นเอ (DNA biosynthesis) ช่วยทำให้การแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งช้าลง ทั้งยังมีการพบว่าอนุพันธ์ตัวหนึ่งของสารพีเดอรินที่เรียกว่า Psymberin สามารถใช้เป็นตัวบ่งชี้เซลล์เนื้องอกได้ดี

แหล่งข้อมูล:

  1. PAEDERUS DERMATITIS. [2018, May 14].
  2. Pederin. [2018, May 14].