on
สารพันปัญหากับไทรอยด์ (ตอนที่ 12)
10 กรกฎาคม 2017
สำหรับการวินิจฉัยโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ทำได้โดย
- การตรวจอัลตราซาวด์ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมใช้เพื่อดูจำนวนก้อนเนื้อ ขนาดรูปร่าง
- การเจาะดูดด้วยเข็มเพื่อดูลักษณะเซลล์ (Fine needle aspiration biopsy = FNA) โดยแสดงผลได้ดังนี้
- Malignant: เป็นเนื้อร้ายทั้งหมด
- Suspicious for malignancy: มีโอกาสเป็นเนื้อร้ายร้อยละ 50-75
- Follicular carcinoma: โอกาสเป็นเนื้อร้ายร้อยละ 20-30
- Atypical cells of unknown significance: โอกาสเป็นเนื้อร้ายร้อยละ 5-10
- Benign: โอกาสเป็นเนื้อร้ายน้อยกว่าร้อยละ 1
การรักษาโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน และขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดของมะเร็ง รวมถึงสุขภาพของผู้ป่วย โดยมี
- การผ่าตัด ซึ่งทำได้ด้วย
- การตัดต่อมไทรอยด์ออกข้างเดียว (Lobectomy)
- การตัดต่อมไทรอยด์ออกทั้งหมด (Total thyroidectomy) ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมใช้กัน
- การตัดต่อมน้ำเหลือง (Lymph node resection) กรณีที่มีการแพร่กระจายของมะเร็ง
ทั้งนี้ การผ่าตัดไทรอยด์มีความเสี่ยงในเรื่องของการเลือดไหลไม่หยุดและการติดเชื้อ หรือระหว่างการผ่าตัดอาจมีความเสี่ยงในการไปทำลายต่อมพาราไทรอยด์หรือเส้นประสาทที่ติดกับเส้นเสียง ทำให้เสียงแหบ เสียงเบา หรือหายใจลำบากได้
- การกินยาไทรอยด์ฮอร์โมนเพื่อชดเชยในกรณีที่มีการผ่าตัดเอาต่อมไทรอยด์ออกไป เช่น ยา Levothyroxine
- การฉายรังสี (Radiation therapy)
- การกลืนรังสีหลังการผ่าตัด ซึ่งมีผลขางเคียงที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ อาการคลื่นไส้ ปากแห้ง ตาแห้ง อ่อนเพลีย การรับรู้รสและกลิ่นเปลี่ยนไป นอกจากนี้เนื่องจากรังสีจะถูกขับออกมาทางปัสสาวะ ดังนั้นหลังการกลืนรังสี 2-3 วัน ผู้ป่วยอาจต้องแยกตัวอยู่ลำพังเพื่อป้องกันไม่ให้รังสีไปกระทบผู้อื่น โดยเฉพาะเด็กและหญิงมีครรภ์
- การฉีดแอลกอฮอล์ไปที่มะเร็ง (Alcohol ablation) ในกรณีที่ไม่สามารถเข้าถึงบริเวณนั้นๆ ได้ระหว่างการผ่าตัด
- การให้ยาเจาะจงเซลล์มะเร็ง (Targeted drug therapy) ในกรณีที่รุนแรง เช่น ยา Cabozantinib ยา Sorafenib และ ยา Vandetanib
- การดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง (Palliative care)
แหล่งข้อมูล:
- Thyroid cancer. [2017, July 09].
- Thyroid cancer facts. [2017, July 09].